หนังสือ คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ 1

อ่านหนังสือ คำตอบคุณครูไม่ใหญ่เล่ม ๑ ที่นี่

พร้อมที่จะเรียนรู้ด้วยใจที่ว่างเปล่า

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : เราจะเตรียมตัวอย่างไร ให้พร้อมสำ หรับการเรียนรู้ความจริงของชีวิต ที่แตกต่างไปจากความเชื่อของตัวเองในปัจจุบัน หลวงพ่อ : ให้ทำตัวเราเหมือนนักวิทยาศาสตร์ที่พร้อมจะเรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล หรือเหมือนเราเป็นนักศึกษาที่เรียนอยู่ใน มหาวิทยาลัย ชั่วโมงนี้เราเรียนวิทยาศาสตร์ อีกชั่วโมงเราเรียนวิชา อื่น เราก็เรียนได้ ไม่เห็นจะขัดแย้งอะไร นี่ก็เช่นเดียวกัน ชั่วโมงนี้ เราจะเรียนรู้เรื่องราวความจริงของชีวิต เราก็ให้เวลาในการศึกษา เรียนรู้ ส่วนเรียนรู้แล้ว เราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือเราจะเอาไปใช้ หรือไม่ใช้ก็แล้วแต่เรา การเตรียมตัว คือ ต้องทำตัวเราเหมือนแก้วน้ำที่ว่างเปล่า ที่เราเทน้ำทิ้งออกหมดแล้ว พร้อมที่จะเติมน้ำใหม่เข้ามา คือ ทำใจ เราเป็นกลาง ๆ เป็นสากล ให้ใจเกลี้ยง ๆ ให้ว่างเปล่า สบาย ๆ พร้อม ที่จะเรียนรู้ความแตกต่าง หรือทำใจเหมือนโลกใบนี้ที่รองรับมวลมนุษยชาติทุกเชื้อชาติ ศาสนาและเผ่าพันธุ์ ที่รองรับได้ทั้งคนสัตว์สิ่งของที่แตกต่างกัน โดยแผ่นดินไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ทำความรู้สึกเราให้ว่างเปล่าเหมือน แผ่นดิน แล้วเราก็จะเรียนรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตที่แตกต่าง ไปจากความเชื่อของตัวเอง …

พร้อมที่จะเรียนรู้ด้วยใจที่ว่างเปล่า Read More »

สมาธิแก้ปัญหาความขัดแย้ง

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : สมาธิจะสามารถแก้ปัญหา ความขัดแย้งได้อย่างไร หลวงพ่อ : ก่อนอื่นเราต้องมาศึกษาดูว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะว่าใจแต่ละคนนั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ไม่ได้อยู่ใน ตำแหน่งแห่งความผาสุก ความรักและปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ เมื่อใจไม่อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน จึงคิดไม่เหมือนกัน พูดไม่เหมือนกันและทำไม่เหมือนกัน แต่ถ้าหากใจมาอยู่ในตำแหน่ง เดียวกัน ก็จะคิดเหมือนกัน พูดเหมือนกัน และทำเหมือนกัน โดยไม่มีการขัดแย้งกันเลย และตำแหน่งนั้นอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ซึ่งจะเข้าถึงได้ด้วยวิธีเดียว คือ การทำสมาธิ ตำแหน่งตรงนั้นจะละลายความรู้สึกขัดแย้งให้หมดไป แล้ว จะเกิดภูมิปัญญาสร้างสรรค์ สูงส่ง ที่ทำให้เราเข้าใจ และรู้วิธีการ ที่จะหาทางออกได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดความสุข สดชื่น เบิกบาน และความสำเร็จในชีวิต ในภารกิจ ในทุกสิ่งทุกอย่างได้ ทุกคนจะต้องนำใจกลับมาสู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง คือ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งเดียวของชีวิต ที่ทำให้เราคิดถูกต้อง พูดถูกต้อง และทำถูกต้อง ผลออกมาคือ สิ่งที่ถูกต้องและดีงามก็จะบังเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ ๑๘ กุมภาพันธ์ …

สมาธิแก้ปัญหาความขัดแย้ง Read More »

ปล่อยไปอย่างที่ใจอยากจะเป็น

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : เมื่อฉันนั่งสมาธิไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ฉันกลัวที่จะให้ใจเข้าไปลึกมากไปกว่านั้น ฉันควรจะทำอย่างไร หลวงพ่อ : สิ่งที่จะต้องทำคือ อย่ากลัว เรามาถูกทางแล้ว ให้ทำเฉย ๆ อย่างเดิม เพราะยิ่งลึกเข้าไปเท่าไร จะยิ่งทำให้ใจบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น มีความสุขเพิ่มขึ้น มีความรู้เพิ่มขึ้น มีความรักสากลคือรักสรรพสัตว์ ทั้งหลายเพิ่มขึ้น เป็นต้น เพราะฉะนั้น จงปล่อยไปเรื่อย ๆ อย่างที่ใจอยากจะ เป็น ถ้าใจอยากจะเข้าไปข้างใน เราก็ทำเฉย ๆ ให้เป็นเรื่องของ ประสบการณ์ภายในที่จะดำเนินต่อไป อย่าไปยับยั้ง อย่าไปปิดกั้น อย่าไปฝืนประสบการณ์ภายใน ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

แก้แค้นด้วยสมาธิ

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ทำไมจึงเป็นเรื่องง่าย สำหรับหลาย ๆ คน ที่ใช้การแก้แค้นแทนการให้อภัย หลวงพ่อ : ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ๑. ภูมิต้านทานของใจเขาอ่อนแอ พลังแห่งความดีจึง ไม่ได้ช่อง ความรู้สึกโกรธ ความผูกโกรธ ความพยาบาทจึงได้ช่อง เป็นแหล่งกำเนิดของความคิดที่ไม่ถูกต้อง คือ คิดที่จะทำร้ายเขา โดยเข้าใจผิดคิดว่าการแก้แค้นหรือทำร้ายเขานั้น จะทำให้สบายใจ แต่ความจริงแล้วไม่มีความสบายใจเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ๒. เพราะขาดความรู้ที่สมบูรณ์ในเรื่องราวความเป็นจริง ของชีวิตว่า ทำไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิตของเขา ทั้งชีวิต ที่อยู่ในโลกมนุษย์นี้และชีวิตหลังจากตายแล้ว ๓. เขาไม่รู้วิธีที่จะทำให้ใจบริสุทธิ์ ผ่องใส จนทำให้ใจ มีภูมิต้านทานที่สามารถเอาชนะความรู้สึกไม่ดีได้ ซึ่งสมาธิเป็น ทางออก คือ ถ้าใจสงบนิ่งแล้วกลับเข้าไปสู่ภายใน ใจตั้งมั่นตรงนั้น ใจจะมีภูมิต้านทาน ความสุขจะเข้ามาแทนที่อยู่ในใจ การแก้แค้นที่ถูกหลักวิชชา คือ ต้องคลี่คลาย ต้องแก้ความ โกรธที่ผูกไว้กับใจให้คลายออกมา ใจจะได้คลายจากความโกรธ แล้วความสุขความสบายใจก็จะเกิดขึ้นในตอนนั้น เมื่อเราสบายใจ ใจอยู่เหนือความรู้สึกที่จะแก้แค้น แล้วสัก วันหนึ่งผู้ที่ทำร้ายเรา ก็จะเกิดความสำนึกผิดขึ้นมาเอง …

แก้แค้นด้วยสมาธิ Read More »

บุญคืออะไร ให้ผลอย่างไร

“บุญ” คือ พลังแห่งความดี พลังแห่งความบริสุทธิ์ที่เรา กระทำด้วยกาย วาจา ใจ ทางมาแห่งบุญมี ทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น บุญแต่ละอย่าง มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ให้ผลไม่เหมือนกัน ทานทำให้รวย รักษาศีล ทำให้สวย ให้หล่อ ภาวนาทำให้ฉลาด เราจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วให้ได้ผลครอบจักรวาลทั้งหมด ไม่ได้ ต้องทำให้ครบทุกอย่าง เหมือนรับประทานอาหารก็ต้องทานให้ครบทั้ง ๕ หมู่ ร่างกายจึง เจริญเติบโต แข็งแรง เมื่อเราจะมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ซึ่งต้องอาศัยบารมีมาก เรา ก็ต้องสั่งสมบุญให้มาก ๆ ละบาปอกุศล แล้วก็ทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส เราจะละบาปอย่างเดียว แล้วไม่สั่งสมบุญกุศลไม่ได้ ชาวโลกมักจะคิดเอาเองว่า เราไม่ได้ทำความชั่วอะไร ไม่ได้เบียดเบียนใคร ไม่ได้รบกวนใครอย่างนี้ก็ดีแล้ว ทั้งที่บางทีเขา ยังไม่รู้เลยว่า อะไรคือชั่ว ความจริงแล้วยังอยู่ในระดับละชั่ว แต่ยัง ไม่ได้ทำความดี การทำความดีมันต้องทำเพิ่มเติมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทั้งทาน ศีล ภาวนา …

บุญคืออะไร ให้ผลอย่างไร Read More »

อยากชวนคนให้มานั่งสมาธิ

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ดิฉันจะแบ่งปันความรู้เรื่องสมาธิ ให้กับคนที่ไม่เชื่อในการทำสมาธิได้อย่างไร หลวงพ่อ : ต้องบอกเขาว่า ต้องลองดู ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่เกี่ยว กับเรื่องเชื่อหรือไม่เชื่อ แค่อยู่ระหว่างกลาง คือให้ทำเฉย ๆ เพราะ ปกติในชีวิตประจำวันเราก็ต้องใช้สมาธิอยู่แล้ว ตั้งแต่การอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เรียนหนังสือ หรือทำงาน ติดต่อผู้คน ในทุก ๆ กิจกรรมการมีสมาธิย่อมดีกว่าไม่มี สมาธิจะทำให้จิตมีพลัง คำพูด ก็มีพลัง ความคิดต้องออกมาจากแหล่งแห่งความสุข ที่มีระบบ ระเบียบ ความคิดก็จะถูกจัดให้มีระเบียบ คำพูดก็มีระเบียบ การ กระทำก็มีระเบียบ ระบบระเบียบก็จะถูกถ่ายทอดออกมา ถ้า ออกมาจากแหล่งความสุข ความคิด คำพูด การกระทำก็จะทำให้ เราเป็นสุข ผู้ที่สนทนาด้วยหรือร่วมงานด้วยก็จะมีความสุขไปด้วย เพราะฉะนั้น เราสามารถแบ่งปันความรู้นี้ให้กับทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ให้เขาอยู่ระหว่างกลาง ๆ คือ ทำเฉย ๆ เขาไม่ได้เสียอะไร มีแต่จะได้ประสบการณ์ว่า …

อยากชวนคนให้มานั่งสมาธิ Read More »

ทำไมเราต้องทำบุญ

บุญที่เราทำในชาตินี้ จะส่งผลให้เรามีอุปกรณ์ในการสร้าง บารมีต่อไปในภพเบื้องหน้าอย่างสะดวกสบาย ง่ายดายกว่าการ สร้างบารมีในชาตินี้ และบุญส่วนหนึ่ง จะไปตัดรอนแก้ไขวิบัติบาป ศักดิ์สิทธิ์ ที่เราดำเนินชีวิตผิดพลาดในชาติอดีตที่ผ่านมานับชาติไม่ ถ้วน นับเรื่องกันไม่ถ้วน รวมทั้งชาติปัจจุบันนี้ด้วย ทำบาป ๑ ครั้ง ต้องชดใช้หลายครั้ง เราคงได้ยินคำว่า ๕๐๐ ชาติบ้าง ๑,๐๐๐ ชาติบ้าง ขึ้นอยู่กับว่า ทำหนักหรือเบา ทำ กับใคร ถ้าทำบาปกับผู้มีศีลมีธรรม ก็เป็นครุกรรมหรือกรรมหนัก ถ้าทำกับผู้ไม่มีศีลไม่มีธรรมก็เป็นกรรมเบาบางลงมา เพราะฉะนั้น กระแสวิบากจึงสั้นยาวไม่เท่ากัน แล้วชาติหนึ่งทำตั้งหลายครั้ง หลายเรื่อง หลายคน ทำกับสัตว์บ้าง กับคนบ้าง กับผู้มีพระคุณบ้าง เพื่อนมนุษย์บ้าง วิบากกรรมเหล่านี้จะเป็นผังสำเร็จติดอยู่ตรงกลาง กาย แล้วไม่สับสนด้วย มันเซตเรียงตัวเหมือนเซตโปรแกรมเครื่อง ไว้ ต้องทำอย่างนี้ ต้องเป็นอย่างนี้ อันไหนจะให้ผลก่อน อันไหนจะ ให้ผลหลัง อันไหนให้ผลยาว อันไหนให้ผลสั้น บุญที่เราทำจะไปตัดรอนวิบากกรรมวิบากมาร คำว่า “ตัด” ไม่ใช่เหมือนเอามีดไปหั่น ไปตัด แต่มันจะเข้าไปขจัดวิบัติบาป …

ทำไมเราต้องทำบุญ Read More »

สังคมสงบสุขอยู่แล้วสมาธิยังจำเป็นหรือไม่

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ถ้าสังคมหนึ่งมีความสงบสุขอยู่แล้ว สมาธิจะยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่หรือไม่ครับ หลวงพ่อ : สังคมที่สงบสุขก็แค่สงบสุขในระดับหนึ่ง คือในระดับ พื้นผิว แต่ลึก ๆ ข้างในยังไม่สงบสุข เพราะเขายังไม่รู้จักว่า ที่สงบ สุขจริง ๆ อยู่ที่ตรงไหน รู้เท่าที่เห็น เท่าที่เคยได้ยิน ได้ฟัง เท่าที่ เห็นโดยภาพรวม ๆ ดูสงบสุขดี แต่มันมีคลื่นใต้น้ำ เหมือนทะเล ที่ดูเหมือนสงบ แต่ข้างล่างมันมีคลื่นใต้น้ำที่รุนแรงซ่อนอยู่ หมายความว่า สังคมที่สงบสุขจริง ๆ ยังไม่มี มีแต่บางคน ในสังคมที่เข้าถึงสมาธิ ถึงความสุขภายในอย่างนี้จึงจะสงบสุขจริง แต่ถ้าทุกคนในสังคมนั้นได้เข้าถึงสมาธิ ใจอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง พร้อมกันหมด อย่างนี้จึงจะเรียกว่า สังคมสงบสุขที่แท้จริง เป็น ความสงบสุขในระดับลึกลงไปเรื่อย ๆ ส่วนที่ถามนั้นแค่ระดับพื้นผิว สมาธิจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้สังคมสงบสุข อย่างแท้จริงและสมบูรณ์ทั้งในระดับพื้นผิว และในระดับลึก ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ โอวาท …

สังคมสงบสุขอยู่แล้วสมาธิยังจำเป็นหรือไม่ Read More »

ภาพนิมิตเลื่อนลอย

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : เวลาที่เรานั่งสมาธิ แล้วเห็นภาพนิมิตต่าง ๆ ครูสอนสมาธิส่วนใหญ่ที่ผมถาม มักจะบอกให้ทิ้งภาพนั้นไป หรือให้ดูเฉย ๆ แต่บางภาพน่าจะมีความหมายต่อตัวเราไม่ใช่หรือ เราจะสามารถแยกความแตกต่างนั้นได้อย่างไร หลวงพ่อ : ที่ครูสอนสมาธิส่วนใหญ่แนะนำให้ทิ้งภาพไป เพราะ เมื่อจิตกำลังเริ่มบริสุทธิ์ มันเพิ่งออกมาจากความไม่บริสุทธิ์ ก็จะมี ภาพต่าง ๆ มาฉายให้เห็นมากมาย สำหรับบางคนนะ ก็ไม่ได้เป็น อย่างนี้ทุกคน เป็นภาพนิมิตเลื่อนลอยที่เกิดจากการคลายตัวของ ใจที่สั่งสมประสบการณ์เป็นภาพ พอถึงเวลามันก็คลายออกมา ซึ่งก็ไม่เป็นเรื่องเป็นราวอะไรเท่าไร เพราะเป็นภาพที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น จากสมาธิที่จิตบริสุทธิ์ แต่เพิ่งเริ่มออกจากความคิดต่าง ๆ จาก ความสับสนวุ่นวาย ก็จะมีสารพัดภาพ ต้นหมากรากไม้ ภูเขาเลากา เหตุการณ์ต่าง ๆ ภาพนรกสวรรค์ ภาพเทพบุตร เทพธิดา ภาพโน่น ภาพนี่เยอะแยะไปหมดเลย เมื่อภาพเหล่านี้เกิดขึ้น ท่านจึงแนะนำ ให้ทิ้งไปก่อน เพราะถ้าหากไปผูกพันกับภาพเหล่านั้นก็จะทำให้ สมาธิไม่ก้าวหน้า ส่วนที่แนะนำให้ดูเฉย ๆ ก็เพื่อให้ใจปล่อยวาง คือดู …

ภาพนิมิตเลื่อนลอย Read More »

การแผ่เมตตาคือการหลอกตัวเองหรือไม่

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : การแผ่เมตตา คือการหลอกตัวเองหรือเปล่า เพราะว่าความจริง แล้วเราไม่ได้รักทุกคนขนาดนั้น หลวงพ่อ : เราไม่ได้หลอกตัวเอง แต่ที่เราทำอย่างนั้น เพราะเรา กำลังสะสมความรู้สึกที่ดี ที่เราแผ่ความรักให้ทุกคน แม้เรายังไม่รัก ทุกคนจริง ๆ แต่เรากำลังสะสมความรู้สึกที่ดี ให้ใจเราสูงส่งขึ้นไป เรื่อย ๆ จนถึงระดับที่เป็นความรู้สึกที่ดีอย่างนั้นจริง ๆ ที่สามารถ รักทุกคนในโลกได้จริง เพราะจะทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น ที่ ความรักสากลออกจากหัวใจของเราอย่างแท้จริง ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ใครคือผู้ค้นพบทางสายกลาง

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ใครเป็นคนค้นพบว่า การวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย จะนำความสงบสุขมาสู่มนุษยชาติ ทำไมศูนย์กลางกายจึงมีความสำคัญขนาดนั้น หลวงพ่อ : พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงค้นพบทางสายกลาง ด้วยพระองค์เอง และก็สืบทอดต่อ ๆ กันมา แต่ก็มาเลือนหาย ในภายหลัง จนกระทั่ง ๘๐ กว่าปีที่ผ่านมา พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร ท่านได้สละชีวิต แล้วค้นพบวิธีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บรรลุธรรมที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ นี้กลับคืนมาใหม่ มาสอนตัวท่าน และสอนผู้อื่น จนกระทั่ง ถ่ายทอดมาถึงพวกเราในปัจจุบันนี้ ศูนย์กลางกายมีความสำคัญมาก เพราะเป็นศูนย์กลาง ยกตัวอย่าง การบริหารการทำงานทุกอย่างล้วนมีศูนย์กลางคอย จัดการระบบระเบียบต่าง ๆ ทั้งนั้น เช่น สมมติเราวางของบนโต๊ะ วางของหมิ่น ๆ ก็ไม่มั่นคง ถ้าวางกลางโต๊ะ มันก็มั่นคง ทุกอย่าง สำคัญที่ตรงกลางทั้งนั้น ทีนี้เราอยากจะรู้ว่า สำคัญขนาดนั้นจริง หรือ เราลองหยุดนิ่งเข้าไปตรงนั้น …

ใครคือผู้ค้นพบทางสายกลาง Read More »

การรักษาศีลทำให้สมาธิก้าวหน้าไหม

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : สมาธิทำให้ใจผ่องใส แต่ถ้าหากไม่รักษาศีล ๕ ควบคู่ไปด้วย จะมีผลแค่ไหนอย่างไรกับความก้าวหน้าของสมาธิ หลวงพ่อ : ศีล ๕ กับสมาธิเป็นสิ่งเกื้อกูลกัน ศีลเป็นพื้นฐานของ สมาธิ ศีลจะรักษาความเป็นปกติของใจที่ดีงาม ที่ประกอบไปด้วย ดวงปัญญา ความบริสุทธิ์ ความสุขภายในเอาไว้ ศีล คือ ปกติของมนุษย์ ถ้าใจเป็นปกติ มีความสุข ความ บริสุทธิ์ภายใน จะไม่คิดร้ายใคร จะไม่ทำร้ายคน สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิต จะ ไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน จะไม่ลักทรัพย์สินของใคร จะไม่ไปทำให้ครอบครัวเขาแตกร้าว จะพูดแต่คำจริง มีประโยชน์ ถ้อยคำไพเราะ จะไม่พูดเพ้อเจ้อ จะไม่ดื่มน้ำเมา จะไม่เสพสิ่งเสพติด เพราะนั่นคือการทำลายสุขภาพกายใจของเรา และผู้ที่อยู่ รอบข้างทั้งคนสัตว์สิ่งของด้วย นี่เป็นเรื่องปกติของใจ เป็นเรื่อง ปกติของผู้ที่มีความบริสุทธิ์ มีความสุขภายใน มีความรู้ที่สมบูรณ์ มีความเข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต การรักษาศีล ๕ ก็คือการรักษาความเป็นปกติของใจ …

การรักษาศีลทำให้สมาธิก้าวหน้าไหม Read More »

คุณธรรมสากลหรือศีลธรรมโลกคืออะไร

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า “คุณธรรมสากล” หรือ “ศีลธรรมโลก” ไหม ถ้ามี สิ่งนั้นคืออะไร หลวงพ่อ : คุณธรรมสากล ซึ่งเป็นศีลธรรมประจำโลกง่าย ๆ คือ ๑ เว้นจากการฆ่า ไม่ฆ่ามนุษย์ ไม่ฆ่าสัตว์ นอกจากเว้นแล้ว ยังต้องให้ชีวิตเป็นทานด้วย ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์หรือ สรรพสัตว์ทั้งหลายให้มีอายุยืนยาวต่อไป ๒ เว้นจากการลักทรัพย์ หรือเอาทรัพย์มาจากบุคคลอื่นที่ เขาไม่ให้ โดยทางมิชอบทางใดทางหนึ่ง ที่ไม่ถูกไม่ควร ๓ เว้นจากการผิดลูกเขา ผิดสามีเขา ผิดภรรยาเขา หรือ บุตรธิดาที่ยังอยู่ในความดูแลของบิดามารดา เราอย่าไปล่วงละเมิด หรือยินดีในเรื่องเพศที่นอกสมรส ให้ละเว้น ๔ เว้นจากคำพูดที่ไม่จริง เว้นจากการพูดโกหก พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ หรือพูดให้เขาทะเลาะกัน ๕ เว้นจากการสูบเสพสิ่งมึนเมา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือ เสพสิ่งเสพติดต่าง ๆ เป็นต้น ข้อปฏิบัติง่าย ๆ …

คุณธรรมสากลหรือศีลธรรมโลกคืออะไร Read More »

ทุกศาสนาไปสู่จุดหมายเดียวกันหรือไม่

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ศาสนาหรือความเชื่ออื่น นำไปสู่จุดหมายปลายทางที่เดียวกันหรือไม่ หลวงพ่อ : ในเมื่อความรู้แตกต่างกัน ดังนั้นการไปสู่จุดหมาย ปลายทางจึงไม่เหมือนกัน เราเรียนซ่อมจักรยาน เราก็ได้วิธีซ่อมจักรยาน เรียนสร้าง รถยนต์ เราก็ได้รถยนต์ เรียนสร้างเรือเดินสมุทร เราก็ได้เรือเดิน สมุทร เราเรียนเรื่องสร้างยานอวกาศ เราก็ได้ยานอวกาศ มันจะไป เหมือนกันได้อย่างไร เพราะความรู้มันคนละอย่างกัน ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

คนธรรมดาไปพระนิพพานได้หรือไม่

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ปุถุชนจะเข้าถึงพระนิพพานได้หรือไม่ หลวงพ่อ : ปุถุชนเท่านั้นจึงจะเข้าถึงพระนิพพาน เพราะเริ่มต้น ต้องเป็นปุถุชนก่อน แล้วค่อยศึกษาเรียนรู้ แล้วก็พัฒนาตัวเองไป เรื่อย ๆ จนกระทั่งจิตบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ทุกข์ก็ถูกดับลงไป ไฟกองใหญ่ ๆ ดับมอดไป ๆ จนกระทั่งดับสนิทเลย แล้วเกิด ความสุขเย็นสบาย เราจะเห็นได้ว่า ทุกคนมีหัวใจที่เร่าร้อนทั้งสิ้น แต่ความ เร่าร้อนถูกดับไป โดยไปดับที่ต้นเหตุที่ทำให้ใจเร่าร้อน เพราะฉะนั้น ปุถุชนจะเข้าถึงพระนิพพานได้ แต่ต้องให้รู้ว่า จุดเริ่มต้นไปสู่พระนิพพานอยู่ตรงไหน ผู้รู้ทั้งหลายที่ไปสู่จุดนี้ได้ ท่านเริ่มต้นนำใจมาหยุดที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ อย่างสบาย โดย ไม่คิดอะไรเลย ทำเฉย ๆ แค่นี้เท่านั้น ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 …

คนธรรมดาไปพระนิพพานได้หรือไม่ Read More »