หนังสือ ชีวิตสมณะ ๑

ถ้าบวชกันหมดทั้งโลก ?

๑๑. ถ้าบวชกันหมดทั้งโลก ? ชีวิตสมณะเป็นชีวิตที่เป็นต้นบุญต้นแบบ เป็นชีวิตที่ใกล้สมบูรณ์ที่สุด เพราะชีวิตจะสมบูรณ์ได้ต้องอยู่ในเพศสมณะ ชีวิตที่ยิ่งเรียบง่าย จะเป็นชีวิตที่มีความผาสุก และทรงพลัง มีความรอบรู้ ถ้าชีวิตซับซ้อนอะไรก็ดูยุ่งเหยิง วุ่นวาย อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา พระองค์ทรงสละชีวิตที่ซับซ้อนมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ในที่สุดพระองค์ก็ได้เข้าถึงพระนิพพาน เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องกังวล ใจจะเป็นกลาง ๆ สบาย ๆ หากทุกคนมีชีวิตที่เรียบง่าย การปฏิบัติธรรมจะได้ผลดี ใจหยุดนิ่งได้ง่าย มีคนเขาถามว่า “ถ้าเกิดบวชกันทั้งโลกจะว่าอย่างไร” แต่เขาถามแบบประชดประชัน หรือกระแนะกระแหน หรืออะไรก็ไม่ทราบ ก็คงเป็นห่วง ถ้าบวชกันหมดโลกแล้วใครจะใส่บาตร แต่ก็เป็นคำถามที่น่าคิดนะ หลวงพ่อก็เลยถามว่า “ที่ถามมานี่ คุณจะบวชหรือเปล่า ถ้าคุณยังไม่บวชก็แสดงว่า ทั้งโลกยังขาดคนหนึ่ง ถ้าสมมุติว่าบวช ถ้าบวชได้ทั้งโลกนี่แสดงว่า ทุกคนในโลกมีบุญมาก ๆ เพราะที่บวชหมดทั้งภพมีแต่ในพระนิพพาน มีแต่พระเต็มไปหมดเลย ไม่มีอุบาสก อุบาสิกาเลย แต่ในเมืองมนุษย์บวชหมดก็เป็นนิพพานในเมืองมนุษย์ แล้วใครจะใส่บาตร ถ้าเกิดบวชกันทั้งโลก ต้องถือว่าเป็นความอัศจรรย์ของโลก เทวดาก็จะต้องมาใส่บาตร” ตอบเขาไปอย่างนี้ เขาบอก”ไม่เชื่อ” “ไม่เชื่อลองมาบวชสิ” ถามต่ออีกว่า “ถ้าเกิดบวชไปแล้วไม่มีเทวดามาใส่แล้วจะทำทำอย่างไร” “ถ้าไม่มีเทวดามาใส่ …

ถ้าบวชกันหมดทั้งโลก ? Read More »

สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน

๑๒. สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน เรื่องของกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่เราจะต้องศึกษา เมื่อศึกษาแล้วเราจะพบว่า ทุกการกระทำไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา ล้วนตกอยู่ในกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น เหมือนไฟ ใครจับก็ร้อน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะเจตนาจับหรือเผลอไปจับก็ร้อน หรือเอาเสี้ยนมาทิ่มเท้า เจตนาทิ่มก็เจ็บ หรือแกว่งเท้าไปหาเสี้ยน ทั้งที่ไม่มีเจตนาก็เจ็บ โดนประตูหนีบมือ จะเด็กหรือผู้ใหญ่ จะชาติไหนก็แล้วแต่เจ็บทั้งนั้น เช่นเดียวกันกฎแห่งกรรมไม่มีละเว้น ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะมีเจตนาหรือไม่มีเจตนา จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ทุกการกระทำล้วนมีผลทั้งสิ้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมัยที่เป็นพระบรมโพธิสัตว์ พระองค์ทรงระลึกชาติได้ มองเห็นภัยในวัฏสงสาร เห็นว่าวัฏสงสารไม่มีจุดไหนที่ไม่เสี่ยงต่ออบายเลย ไม่ว่าจะเกิดเป็นคนชั้นสูง ชั้นกลาง ชั้นล่าง ถ้าไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรม อันตรายมาก ๆ ทุกคนเสี่ยงและมีสิทธิ์ไปอบายด้วยกันทั้งนั้น และพระองค์ก็เคยไปอบายมาแล้ว และก็ทรงพ้นจากภัยในสังสารวัฏนั้น ภิกขุ แปลว่า ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร สมณะ แปลว่า ผู้สงบกาย วาจา ใจ คือ พอเห็นภัยแล้วจะมีความสงบ สงบทั้งความคิด คำพูดและการกระทำ ไม่อยากให้เคลื่อนไหวเลย กายอยากจะนิ่ง ๆ ใจอยากจะนิ่ง ๆ ผู้ที่จะพ้นภัยในวัฏสงสาร จะพ้นจากกฎแห่งกรรมได้ จะต้องนิ่ง …

สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน Read More »

กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้

๑๓. กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้ เรื่องกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่ใครจะหลีกหนีไม่พ้นเลย ทุกคนในโลก ทุกระดับชั้น ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต พุทธบริษัท ๔ ก็หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น การกระทำทุกการกระทำอะไรก็ตามทั้งที่ลับที่แจ้ง จะมีใครเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม แต่กฎแห่งกรรมเขาเห็นและบันทึกติดเอาไว้ พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง พุทธบริษัท ๔ ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา จะต้องศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรมให้ดี แล้วก็ต้องเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะกฎแห่งกรรมมีมายาวนาน เริ่มต้นเมื่อไรไม่มีใครรู้ แม้แต่พุทธญาณ หรือญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มาต่อ ๆ กัน นับพระองค์ไม่ถ้วน ยังหาเบื้องต้นว่าจะสิ้นสุดตรงไหนก็ยังไม่มีใครทราบ เพราะฉะนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ไม่ได้เป็นผู้บัญญัติกฎแห่งกรรม ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ไม่มีเว้นกฎแห่งกรรมเลยสักราย เป็นเรื่องที่น่าศึกษาทีเดียว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงไปเห็นด้วยพุทธญาณอันบริสุทธิ์ ด้วยบุพเพนิวาสานุสสติญาณ กับจุตูปปาตญาณ เวลาท่านนำชาดกหรือเรื่องราวต่าง ๆ มาสอนพระภิกษุ สามเณร หรือภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ท่านก็ต้องระลึกชาติไปดู แล้วนำมาสอน พระองค์ไปเห็นมาแล้วก็สงสารสัตว์โลก จึงนำมาสั่งสอนสัตว์โลกให้รู้เห็นเรื่องราวเหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ …

กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้ Read More »

พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร

๑๔. พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร พระพุทธศาสนามีความสำคัญสำหรับทุก ๆ ชีวิตในโลก มีความสำคัญมาก คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เป้าหมายอันสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสร้างบารมีกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน มีเป้าหมายจะพ้นทุกข์ ให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เพราะเห็นภัยในวัฏสงสาร ภัยในวัฏสงสารนี่เห็นยากนะ ไม่ใช่ว่าจะเห็นกันได้ง่าย ๆ เพราะคำว่า วัฏสงสาร ต้องรวมกันในกามภพ รูปภพ อรูปภพ และในโลกันตร์ จะต้องเห็นภัยตลอดหมดเลยว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ ถ้าไม่รู้วิธีการดำเนินชีวิตและก็ไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร นี่อันตราย และยิ่งเราไม่รู้ตัวว่า ตกอยู่ในกฎแห่งกรรมหรือกฎของไตรลักษณ์ ยิ่งอันตรายมากทีเดียว เพราะว่าอะไรนิดอะไรหน่อยก็ปรับคดี ทั้งความคิด คำพูด การกระทำ เผลอทำบาปอกุศลกรรมแม้เพียงนิดหน่อยล้วนมีผลทั้งสิ้น แม้ทำนิดหนึ่งก็ต้องไปใช้กรรมในอบายยาวนาน ผู้ที่อยู่ในโลกนี้ที่ยังสนุกสนานเพลิดเพลิน เพราะไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร ทั้ง ๆ ที่ตัวผ่านมาแล้วในอบายภูมิ แต่พอมาเกิดใหม่ก็ลืม แล้วภาพข้างหน้า ภาพของอบายก็มองไม่เห็น เห็นแต่สัตว์เดรัจฉานก็ไม่รู้ว่า นั่นคือหนึ่งในอบายภูมิ นึกว่าเกิดมาเพื่อให้มนุษย์ได้กินได้ใช้งาน คิดอยู่แค่นี้เพราะเห็นแค่นี้ แต่ความจริงแล้วสัตว์เดรัจฉานเป็นหนึ่งในอบายภูมิ ซึ่งตัวก็เคยไปเกิด แต่ตัวไม่รู้ กระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงไปรู้ไปเห็น จึงนำมาบอก …

พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร Read More »

เป็นพระต้องเห็นพระ

๑๕. เป็นพระต้องเห็นพระ กว่าจะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต เพื่อประพฤติธรรม กว่าจะบำเพ็ญบารมี ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขาบารมีให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ตั้งแต่บารมีขั้นธรรมดา บารมีขั้นกลาง กระทั่งบารมีขั้นสูงอย่างน้อย ๒๐ อสงไขย แสนมหากัป อย่างกลางก็ ๔๐ อสงไขย แสนมหากัป อย่างสูงก็ ๘๐ อสงไขย แสนมหากัป กว่าจะมาได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ง่ายเลย เพราะฉะนั้นใครได้มาบวช ให้ปลื้มใจเถิด เรามาอยู่ ณ จุดที่ดีที่สุดแล้ว ให้ใช้วันเวลาให้ดีที่สุด เป็นพระต้องปลอดกังวล ต้องไม่มีเรื่องรุงรังในใจ และก็อย่าไปชักศึกเข้าบ้าน บ้าน คือ เรือนกายเรือนใจของเรา อย่าไปดึงเอาเรื่องราว เอาความคิดอะไรต่าง ๆ ที่ทำให้เดือดเนื้อร้อนใจ หรือทำให้หยุดนิ่งได้ยากเข้ามา เมื่อหยุดนิ่งยาก มันก็ไม่เข้าถึงธรรม ตอนช่วงนี้ต้องปลดปล่อยเครื่องกังวลทั้งหมด รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง …

เป็นพระต้องเห็นพระ Read More »

เสียงสะท้อน

๑๖. เสียงสะท้อน หลวงพ่อดีใจที่เกิดการตื่นตัวเรื่องการปรับปรุงการคณะสงฆ์ให้เคร่งครัดในธรรมวินัย มีนโยบายจะคัดอลัชชีออก เหลือแต่ลัชชี คือ พระดี ๆ เอาไว้ แต่วิธีการตรงนี้ต่างหากที่จะต้องพิจารณา ถ้าทำแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ มีแต่ทาน ศีล ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อย่างนี้ดีมากเลย แต่จะได้หรือเปล่า ตรงนี้เป็นสิ่งที่ควรนำไปพินิจพิจารณา พระเณรทั่วประเทศ จริง ๆ ท่านมีเชื้อแห่งความดีอยู่ มีบารมีที่มาเป็นนักบวช แต่ว่าขาดการศึกษา แล้วก็รอโอกาสที่จะได้ศึกษาคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะศึกษาเองบางทีแม้มีตำรา แต่ขาดผู้รู้ไปสอน ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเรียนรู้นั้นถูกหรือผิด เพราะฉะนั้นระหว่างรอคอยผู้ที่จะมาสอน ท่านก็ทำอย่างอื่นไปก่อน ก่อสร้างบ้าง สงเคราะห์โลกบ้าง ดูหมอบ้าง เป็นหมอดู หมอยา ทำน้ำมนต์ แจกของขลัง ทำโน่นทำนี่ทำอะไรสารพัดเรื่อยไป วัตถุประสงค์ก็เพื่อรักษาศรัทธาญาติโยม เพราะกำลังรอคอยผู้มีบุญที่มีภูมิรู้ภูมิธรรมสูงไปสั่งสอนอบรมอยู่ เพราะฉะนั้นแทนที่จะคัดอลัชชีออกจากลัชชี ซึ่งมันคัดยากนะ ใช้วิธีผลิตครูไปสอนเลย ครูที่จะไปสอนจะต้องทำตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครบถ้วนบริบูรณ์ เป็นต้นบุญต้นแบบ อุดมไปด้วยศีล สมาธิ ปัญญา หรืออย่างน้อยก็แจ่มแจ้งในระดับหนึ่ง …

เสียงสะท้อน Read More »

สมณะ… ต้องศึกษาพระบาลี

๑. สมณะ… ต้องศึกษาพระบาลี ชีวิตนักบวชกับการศึกษาพระปริยัติธรรมมีความสำคัญนะ บวชเป็นพระเป็นเณรแล้วถ้ายังมีร่างกายแข็งแรง ยังสดชื่นและไม่มีภารกิจเครื่องกังวลอันใดแล้วก็ “ต้อง” ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม เพราะเป็นหน้าที่ของพระของเณร ที่จะต้องศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ และฝึกฝนให้เป็นไปตามคำสอนของท่าน แล้วนำธรรมะที่ได้เรียนรู้มาสั่งสอนตนเอง กับสั่งสอนญาติโยม นี่เป็นกิจที่สำคัญ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกรวบรวมไว้ในภาษาบาลี ผู้มีบุญเท่านั้นจึงจะได้ศึกษาความรู้อันยิ่งใหญ่นี้ บุญน้อย ๆ เขาก็ไปเรียนวิชาทางโลกกันไป เรียนการทำมาหากินแข่งขันกันเท่านั้น ที่จะสอนว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไร หรือจะดำเนินชีวิตอย่างไรไปสู่เป้าหมาย หรือปรโลกมีกี่คติ ทำอย่างไรเราถึงจะไปสู่ปรโลกอย่างสวยงาม ปลอดภัยและมีชัยชนะ วิธีไปสู่สุคติโลกสวรรค์ทำอย่างไร ความรู้เหล่านี้ไม่มีการสอนในสถาบันต่าง ๆ ยิ่งเรียนสูง ๆ ขึ้นไปยิ่งไม่มี ไม่ว่าจะเป็นปริญญาตรี โท เอก ยกเว้นที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยพุทธศาสนา หรือคณะที่เกี่ยวกับศาสนศาสตร์เท่านั้น นอกนั้นไม่มีเลย ใครมาศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาถือว่างมงาย เพราะพิสูจน์ไม่ได้ คือ คิดเองและพูดเองว่าพิสูจน์ไม่ได้ สิ่งที่จะต้องพิสูจน์ เราต้องพิสูจน์ และผู้ที่พิสูจน์ได้แล้วก็มี แล้วเราก็สามารถพิสูจน์ได้ด้วยพุทธวิธี สามารถที่จะเรียนรู้ได้ น่าเสียดายว่า ยิ่งเรียนทางโลกสูง ๆ ขึ้นไป ยิ่งห่างไกลจากแสงสว่าง จากวิชชาความรู้ที่สำคัญ ที่จะช่วยให้มีสุขทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต ละโลกแล้วไปดี …

สมณะ… ต้องศึกษาพระบาลี Read More »

การบวชเป็นการลงทุนข้ามชาติ

๑๗. การบวชเป็นการลงทุนข้ามชาติ การบวชเป็นพระไม่ใช่ง่ายนะ ต้องสั่งสมบุญกันข้ามภพข้ามชาติ กว่าจะมาเป็นผู้ชาย กว่าจะมีกุศลศรัทธาอยากบวชก็ไม่ง่าย และต้องมีคุณสมบัติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตเอาไว้ครบถ้วนบริบูรณ์ ถึงจะบวชได้ เป็นการลงทุนข้ามชาติทีเดียว คือ ชาติที่ผ่านมาจะต้องสั่งสมบุญให้ได้เกิดเป็นผู้ชาย บุญน้อยก็ด้อยโอกาส บุญมากก็ได้โอกาส ต้องสั่งสมบุญมาก เป็นกะเทยก็บวชไม่ได้ ผู้หญิงก็ไม่ได้ ต้องผู้ชาย ขนาดเห็นว่าเป็นผู้ชาย ยังต้องถามกันในโบสถ์เลย ปุริโสสิ ผู้ชายรึ ไม่น่าเชื่อ เห็นกันจะ จะ ขนาดนี้ ยังต้องถาม เดี๋ยวนี้ต้องถามกันให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก สมัยก่อนในโบสถ์เขาถามกันครั้งเดียว ปุริโสสิ ผู้ชายรึ ทีนี้ต้องถาม ๓ ครั้ง ไม่ค่อยจะมั่นใจ ถ้าเกิด ผู้ชายฮ่ะ อะไรอย่างนี้ยุ่งเลย สมัยก่อนมีธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับการบวชซึ่งถือเป็นประเพณี นั่นคือ การทำขวัญนาค แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกเจือจางไปแล้ว หลวงพ่อยังเห็นด้วยกับประเพณีนี้ เพราะการบวชนาคสมัยก่อนเสียขวัญนะ จะต้องเรียกขวัญกันโดยหมอทำขวัญ หมอทำขวัญนี่น่านับถือจริง ๆ เขาจะพูดถึงพระคุณของบิดามารดา ซึ่งปกตินาคตอนก่อนบวชจะไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่สักเท่าไร เพราะความคุ้นเคย เลยมองข้ามไป เห็นท่านใจดีก็เฉย ๆ เตือนอะไรก็ทำเป็นหูทวนลม เพราะว่ายังไม่แจ่มแจ้ง มองไม่เห็นคุณของบิดามารดา …

การบวชเป็นการลงทุนข้ามชาติ Read More »

สมณะ…ชีวิตที่พรากจากกาม

๒. สมณะ…ชีวิตที่พรากจากกาม เมื่อบวชมาแล้วต้องระวังเรื่องกาม เรื่องของกามนั้น มีทั้งคุณและโทษ เมื่อมนุษย์หมดโอกาสจะเกิดแบบโอปปาติกะแล้ว มนุษย์ก็ต้องแสวงหาทางมาเกิดด้วยวิธีการอื่น เพราะอย่างไรมนุษย์ก็ต้องมาเกิด จะมาเกิดในกระบอกไม้ไผ่ก็ไม่ได้ หรือจะเกิดในฟองไข่ในเหงื่อไคล ก็ไม่ใช่วิสัยของมนุษย์ จำเป็นต้องหาทางเกิดให้ได้ ก็มีวิถีทาง คือ เกิดในครรภ์มารดา ซึ่งการเกิดอย่างนี้ก็ต้องอาศัยการบริโภคกามอย่างมีเหตุผล และถือเป็นหน้าที่อันสูงส่งที่จะประกอบธาตุธรรมส่วนหยาบของพ่อแม่ลูกให้ถูกส่วน เพื่อให้กำเนิดกายมนุษย์ขึ้นมาใหม่ นี่ก็เป็นส่วนแห่งคุณของกามในตอนที่มนุษย์หมดสมัยที่จะเกิดแบบโอปปาติกะ การเกิดในครรภ์มารดายุคเริ่มแรกสะอาดเกลี้ยงเกลากว่าในสมัยปัจจุบันมาก คือพ่อกับแม่เมื่อถึงฤดูกาลที่จะมีมนุษย์มาเกิดก็จะเกิดผูกสมัครรักใคร่กัน แล้วก็แบ่งปันชีวิตให้ซึ่งกันและกัน โดยจะก่อกำเนิดชีวิตใหม่ ถ้าหากยังไม่ถึงเวลา ก็อยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อน ไม่มีความคิดกำหนัดยินดีที่จะเข้าหากัน เมื่อพ่อแม่ลูกมาประจวบเหมาะก็บังเกิดขึ้น เวลาคลอดลูกก็ง่าย สบาย ไม่เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน เหมือนเข้าห้องน้ำถ่ายหนักถ่ายเบาอย่างนั้น เมื่อลูกคลอดออกมาแล้วก็ช่วยกันเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกอย่างดี ให้รู้เป้าหมายการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ว่าเกิดมามีวัตถุประสงค์อะไร สิ่งอะไรที่ควรทำไม่ควรทำ จนกระทั่งลูกสามารถทรงจำ ศึกษาฝึกฝนและดำรงชีพยืนหยัดอยู่ในโลกนี้ได้ แล้วก็แยกย้ายกันไป พ่อกับแม่ก็ไปถือศีลภาวนาแสวงหาหนทางสวรรค์กัน คุณของกามก็มีเท่านี้ แต่เมื่อมนุษย์มีกิเลสอาสวะมากขึ้นเรื่อย ๆ ความกำหนัดยินดีในกามราคะมีมากกว่าปกติจนทนไม่ไหว มนุษย์จำนวนมากกระทำสิ่งที่ผิดปกติมากจนแก้ไม่ไหว จนกระทั่งสิ่งที่ผิดปกติก็กลายเป็นถูกปกติ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดากันไป และการหมุนเวียนในวัฏฏะ การใช้วิบากกรรมก็เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นเรื่อยมาเลย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า กามราคะมีคุณน้อยนิดเดียวแต่มีโทษมาก อุปมาเหมือนสุนัขแทะกระดูก คือสุนัข ก็คาบกระดูกมาแทะ ๆ …

สมณะ…ชีวิตที่พรากจากกาม Read More »

อย่าจับสึก…ให้จับสอน

๑๘. อย่าจับสึก…ให้จับสอน พอบวชมาแล้ว หากไม่ได้รับการแนะนำสั่งสอน ก็ทำอะไรไม่ถูก ก็ทำสะเปะสะปะเรื่อยไป ดูเผิน ๆ ก็เหมือนกับพระดื้อ ทำอะไรก็นอกรีตนอกรอย ชาวบ้านเห็นแล้วไม่ชอบใจก็ตำหนิติเตียนกันไป นี่มันเป็นอย่างนี้ แต่ถึงจะติเตียนอย่างไรก็แล้วแต่ ในสมัยพุทธกาลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เคยจับสึกเลย มีแต่จับศึกษา เปลี่ยนจาก ส เป็น ศ จับศึกษาให้เป็นพระที่สมบูรณ์ขึ้น ท่านจะคอยจนกระทั่งอินทรีย์แก่กล้า เชื้อดื้อจางลงไป ระลึกชาติสอนกันเลย เธอไม่ได้ดื้อชาตินี้ชาติเดียว ชาติก่อนก็ดื้อ อย่างนั้นอย่างนี้ ก็สอนไปอบรมกันไป จากพระดื้อที่สุด กลายเป็นพระดีที่สุด คือ เป็นพระอรหันต์ไปเลย แม้แต่พระเทวทัตทำสงฆ์ให้แตกแยก ลอบปลงพระชนม์ชีพพระองค์ตั้งหลายครั้ง แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่เคยถือสา และก็ไม่เคยจับสึก ให้โอกาสตลอดเวลา และตอนสุดท้าย พระเทวทัตมีจิตเป็นกุศลตอนธรณีสูบนั่นแหละ ยังเจริญพุทธานุสติ ระลึกนึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ไปตกในอเวจีมหานรก แต่ช่วงจิตสุดท้ายที่มีความเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระองค์ไม่โกรธเลย ขนาดเราจะฆ่าท่านตั้งหลายครั้ง ทั้งด้วยตัวเองและก็ใช้ให้คนอื่นด้วย ยุคนโน้นคนนี้ ภพต่อไปในอนาคต ด้วยจิตที่เป็นกุศลนี้จะไปดูดบารมีเก่า ทำให้ท่านจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล เพราะฉะนั้น นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าจะเป็นอีกข้อมูลหนึ่ง ที่จะนำไปพิจารณาว่า ควรจะเปลี่ยนแปลงจากคำว่า สึก เป็น …

อย่าจับสึก…ให้จับสอน Read More »

ภาระ หน้าที่ และเป้าหมายของสมณะ

๓. ภาระ หน้าที่ และเป้าหมายของสมณะ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ทั้งพระทั้งเณรออกบวชเพราะเห็นภัยในวัฏสงสาร เห็นว่าชีวิตมีทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นคนชั้นสูง เป็นพระราชามหากษัตริย์ รัชทายาท ก็มีทุกข์ ทุกข์แบบชนชั้นสูง เกิดมาเป็นชนชั้นกลาง ก็มีทุกข์แบบชนชั้นกลาง เกิดเป็นชนชั้นล่าง ก็มีทุกข์แบบชนชั้นล่าง ไม่มีใครที่มีความสุขเลย ดูเผิน ๆ เหมือนมีความสุข แต่จริง ๆ แล้ว ทุกคนมีชีวิตแบบหน้าชื่นอกตรม มีทุกข์ภายในไม่รู้จะไปบอกใคร บอกใครก็อายเขา หรือเขาก็มีทุกข์เหมือนกัน เราบอกเขา เดี๋ยวเขาก็บอกเราบ้าง ถ้าต่างคนต่างบอกก็กลุ้มเหมือนกัน จึงต้องหน้าชื่นอกตรมกันไป เพราะฉะนั้นจึงออกจากฆราวาส แล้วก็มาสมัครเป็นนักบวชอาชีพ เป็นบรรพชิต ปลงผม ปลงหนวด ปลงเครา ละทิ้งเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ละทิ้งธุรกิจการงานแบบฆราวาส ออกบวชมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย มีแค่อัฐบริขาร มีของเพียง ๘ อย่าง เลี้ยงสังขารด้วยอาหารของสาธุชน กับเป้าหมายของชีวิตที่จะทำพระนิพพานให้แจ้ง แล้วก็ประสบความสำเร็จในการเป็นนักบวช ได้บรรลุวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ …

ภาระ หน้าที่ และเป้าหมายของสมณะ Read More »

พระ…ให้ทำเฉพาะสมณกิจ

๑๙. พระ…ให้ทำเฉพาะสมณกิจ ชาวโลกมักไปเคี่ยวเข็ญให้พระทำตามใจตัว ให้ท่านช่วยตรวจดวงชะตาว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งท่านก็ไม่ใช่ผู้ชำนาญการ เพราะไม่ใช่อาชีพพระ อยากให้พระดูหมอ ท่านก็ฉลองศรัทธา ไม่อยากให้เสียศรัทธา ท่านก็ดูให้ แล้วถ้าท่านดูผิด ก็ไปว่าท่าน บาปและตกนรกนะ แล้วไปบอกท่านว่า ท่านดูไม่แม่น ท่านก็เครียด กลุ้ม จะดูใครได้ ถ้าทายทุกข์ก็ทายถูกทีเดียวว่า จะทุกข์อย่างนั้น ทุกข์อย่างนี้ เพราะพื้นฐานของมนุษย์มีทุกข์อยู่แล้ว แต่ถ้าทายว่า จะมีสุขจะโชคดี ไม่ค่อยจะถูกสักที เลยถูกอัด ญาติโยมก็ต่อว่าเอา ดูไม่แม่น ถ้าท่านทายว่า จะมีทุกข์ ฟังท่านกลับไปจะไปกลุ้มอีก ถ้าทายว่า มีสุขแล้วไม่สุข เขาก็กลับมาว่าท่าน ท่านก็กลุ้มอีก ตกลงกลุ้มทั้งคู่ แล้วท่านก็ต้องไปค้นคว้าเพื่อจะทายให้ถูก แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปศึกษาปริยัติ ปฏิบัติ เทศนา มันก็ไม่มีเวลา จริง ๆ แล้วญาติโยมไม่ควรจะไปรบกวนท่าน ถ้าอยากจะรู้อนาคตของตัวเรา โน่น ไปสมาคมโหร หรือหมอดูอาชีพ นั่นอาชีพของเขา เขารวบรวมสถิติมาเป็นพัน ๆ ปีนั่นแหละ และพูดได้ถึงพริกถึงขิง ขนาดเคี้ยวพริกเคี้ยวขิงเลยละ …

พระ…ให้ทำเฉพาะสมณกิจ Read More »

กิจของนักบวช

๔. กิจของนักบวช เราเป็นนักบวชปลดปล่อยวางแล้วจากเครื่องกังวลทั้งหลาย ไม่ต้องทำมาหากินแบบชาวโลก กิจของนักบวช คือ ศึกษาเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ให้เป็นพระแท้ เป็นพระที่สมบูรณ์ทั้งภายนอกภายใน เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง โดยย่อก็คือฝึกใจให้หยุดให้นิ่งให้เข้าถึงพระรัตนตรัย นี่เป็นกิจของนักบวช อย่าไปชักศึกเข้าบ้าน คือ นึกคิดถึงเรื่องราวที่ทำให้ร้อนอกร้อนใจ กลุ้มอกกลุ้มใจ กระสับกระส่าย ทุรนทุรายอยู่ในใจ อย่างนั้นเขาเรียกว่า ชักศึกเข้าบ้าน บ้านก็คือเรือนกายเรือนใจ ต้องทำใจให้เกลี้ยง ๆ ให้ว่าง ๆ ให้ใจมีแต่องค์พระ ดวงใส บุญกุศล ศีล สมาธิ ปัญญา ทำเพียงแค่นี้ชีวิตพระก็สมบูรณ์แล้ว จะมีความสุขในระดับหนึ่งทีเดียว ซึ่งความสมบูรณ์ในระดับนี้จะก้าวเข้าสู่ความสมบูรณ์ในอนาคต ที่เป็นความสมบูรณ์ที่แท้จริง คือ เข้าถึงพระนิพพาน วัตถุประสงค์ของการดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ ทุกชีวิต…สุดท้ายก็มุ่งเพื่อความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จากความโลภ ความโกรธ ความหลง ซึ่งเป็นรากเหง้าแห่งอกุศลมูลที่ทำให้กาย วาจา ใจของเราไม่บริสุทธิ์ และผลแห่งความไม่บริสุทธิ์จะทำให้เราทุกข์ทรมานในวัฏสงสาร ไปในมหานรก อุสสทนรก ยมโลก ไปเกิดเป็นอสุรกาย เป็นเปรต เป็นสัตว์เดรัจฉาน กว่าจะกลับมาเป็นมนุษย์นี้ยาก …

กิจของนักบวช Read More »

พึงรักษาพระพุทธศาสนา

๒๐. พึงรักษาพระพุทธศาสนา หลวงพ่อเห็นวัดร้างแล้ว เศร้าใจ เขาเขียนมาให้อ่านว่า มีวัดร้าง ๓๐,๐๐๐ กว่าไร่ทั่วประเทศ วัดร้าง ๓๐,๐๐๐ กว่าไร่นี่เป็นของใคร ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่สร้างวัดแรกก็ สาธุ ขอยกแผ่นดินผืนนี้ถวายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพราะฉะนั้น วัดเป็นของพระพุทธเจ้า ถ้าจะเอาไปให้เขาเช่า หรือทำอะไรต้องไปขออนุญาตพระพุทธเจ้าก่อน ทีนี้ท่านไม่อยู่แล้วทำอย่างไร ก็ไปขอกับพระพุทธรูป แต่ถ้าท่านนั่งเฉย ๆ ก็อย่าไปนึกว่า ท่านยอมรับโดยอริยดุษณี อย่าไปคิดอย่างนั้น ตอนนี้มีแล้ว คือ เอาที่วัดไปให้เพื่อนต่างศาสนิกเช่า เขาก็สร้างศาสนสถานขึ้นมา สมมุติว่าสัญญา ๓๐ ปี พอครบไปเอาคืน คืนได้แต่ห้ามทุบศาสนสถาน ทุบมีเรื่องกัน ระหว่าง ๒ ความเชื่อนั่นแหละ เรื่องมันก็จะไปกันใหญ่โต เพราะฉะนั้นใครรับผิดชอบตรงนี้ก็น่าจะเอาไปพิจารณากันดูบ้างว่า วัดเป็นที่ของใครและวิธีทำดีที่สุดก็คือ หาพระไปอยู่วัด วัดร้างก็จะได้เปลี่ยนเป็นวัดรุ่ง ผู้ที่จะมาบวชก็มีมาก ปลดเกษียณแล้วก็ไปบวชหมุนเวียนกันไป อย่างน้อยเพื่อสร้างหนทางสวรรค์นิพพานให้เกิดขึ้นแก่ตัวเอง เราได้รับใช้ชาติมาแล้วอย่างเต็มที่ ตอนนี้เราปลดเกษียณแล้วมาบวช เราผ่านโลกมามากแล้ว อ่านตำรับตำราหนังสือหนังหาเองก็ได้ ถ้าสงสัยก็ไปถามพระอุปัชฌาย์บ้าง ครูบาอาจารย์บ้าง …

พึงรักษาพระพุทธศาสนา Read More »

สมณะ…ชีวิตที่ใกล้พระนิพพาน

๕. สมณะ…ชีวิตที่ใกล้พระนิพพาน ชีวิตสมณะ เป็นชีวิตที่ปลอดกังวล ใกล้หนทางพระนิพพาน เครื่องแบบนี้เป็นชุดเดียวกันกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยสาวก ที่ท่านดับขันธปรินิพพานไปแล้ว เป็นชุดสุดท้ายของทุก ๆ ชีวิต ไม่ว่าชีวิตในตอนนี้จะอยู่ในระดับไหน จะเป็นเชื้อชาติศาสนาหรือเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม เมื่ออินทรีย์ยังอ่อนอยู่ ก็มีความหลากหลายในความเชื่อ เมื่ออินทรีย์แก่กล้าแล้ว ความเชื่อเหล่านั้นก็ปล่อยวางกันไป แล้วในที่สุดชีวิตสุดท้ายก็จะอยู่ในเพศสมณะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อท่านบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว ท่านจะระลึกชาติหนหลัง เคยเกิดเป็นอะไรต่ออะไรกันมากมายในสังสารวัฏ มีความเชื่อที่หลากหลาย แตกต่างจากความเชื่อถือจากพระรัตนตรัยมาก่อนกันทั้งนั้น ถ้าสมัยนี้ใช้คำว่า นอกศาสนา นอกบุญเขต แล้วเมื่อบารมีแก่กล้าหนักเข้า ท่านก็ปล่อยวางความเชื่อเหล่านั้น ไม่ลบหลู่ แต่ก็ดูเฉย ๆ หันมาศึกษาธรรมะละเอียดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้บรรลุมรรคผลนิพพาน นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า ทุก ๆ ชีวิตในที่สุดจะต้องไปนิพพาน ต่างกันว่าจะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับอินทรีย์อ่อนหรือแก่ บารมีมากหรือน้อยเท่านั้น ตอนสุดท้ายก็เป็นอย่างนี้ ตอนนี้ลูกพระลูกเณรบวชมาแล้ว เราอยู่ในเพศที่สูงสุด เรียกว่า เพศอันอุดม เป็นเพศของผู้เลิศ เราใกล้พระนิพพานมาก ถ้าเรามีอารมณ์ดี คือ อารมณ์ที่เป็นกุศล บริสุทธิ์ มีอาภรณ์ดี คือ …

สมณะ…ชีวิตที่ใกล้พระนิพพาน Read More »