หนังสือ คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ 1

อ่านหนังสือ คำตอบคุณครูไม่ใหญ่เล่ม ๑ ที่นี่

เขาว่าพระขี้เกียจ

เขาว่าพระขี้เกียจ แต่ครูไม่ใหญ่ว่า ขี้เกียจเป็นพระไม่ได้ หรอก เขาไม่มาเห็นตอนพระทำงานนะ แต่ครูไม่ใหญ่ไม่ได้ถูก กล่าวหาว่าขี้เกียจนะ เขาบอกว่าขยันเกินไป ทำอะไรก็ไม่รู้เยอะ แยะไปหมด ที่ทำก็ทำเพื่อส่วนรวม เราก็ได้ ส่วนรวมก็ได้ เพราะ การเกิดมาเป็นมนุษย์ มันเกิดยาก แต่ตายง่าย มีบุญมากเกิดมาเจอ พระพุทธศาสนา เจอวิชชาธรรมกายด้วย เพราะฉะนั้นมีโอกาสได้ ตักตวงบุญ เราก็เลยลุยสะบั้นหั่นแหลก ทั้งทำด้วยตัวเองด้วย และ ชวนคนอื่นเขาทำด้วย ที่จริงไม่ได้ขยันเกินไปนะ ยังมีสิ่งที่อยากจะ ทำอีกเยอะแยะ แต่ทำได้เท่าที่เห็น โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48

วัดพระธรรมกายทำไมสร้างใหญ่โต

มีคนถามว่า ทำไมต้องสร้างวัดใหญ่ ที่สร้างใหญ่ ๆ ก็สร้าง ให้เขานะ ลำพังตัวเองอยู่เล็ก ๆ แต่ที่สร้างใหญ่ เพราะคนมาเยอะ สร้างเล็ก ๆ สถานที่ไม่พอรองรับ เขาต้องไปนั่งตากแดด ตากฝน ตั้งแต่ศาลาจาตุมหาราชิกาในวัด จุได้ ๕๐๐ คน ก็คิดว่าจะ เอาแค่นั้น ก็มากัน ๕,๐๐๐ คน ก็ต้องไปเช่าเต็นท์เป็น ๑๐๐ เต็นท์มา เรียงต่อ ๆ กัน อยู่ใต้เต็นท์มันก็ไม่ค่อยสบาย ทั้งร้อน ทั้งอบ แต่เขาก็ มากัน จนกระทั่งล้นเต็นท์อีก เอากลดไปปัก นั่งในกลด เอาร่มชูชีพ ที่เขาไม่ใช้แล้วมากาง ก็อยู่กันไปอย่างนั้น เห็นแล้วก็สงสารพุทธ บริษัทญาติโยมที่เขารักการปฏิบัติธรรมต้องมาลำบาก ตากแดด ตากลม ตากฝน แต่ทำไมเขามากันได้ ก็คิดจะอนุเคราะห์เขา ต่อมาก็ขยับมาสร้างสภาหลังคาจาก จุได้ ๑๐ ,๐๐๐ คน สร้างคร่อมเนื้อที่ ๑๐ …

วัดพระธรรมกายทำไมสร้างใหญ่โต Read More »

วัดพระธรรมกายทำไมสร้างใหญ่โตน่าจะนำเงินไปสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล หรือสงเคราะห์โลก ช่วยเหลือคนยากจนบ้าง

ทีนี้ พอสร้างใหญ่ก็มีคำถามมาอีกแล้ว ทำไมไม่ช่วยคนยาก คนจนบ้าง ก็ถามว่า เราจะช่วยแบบยั่งยืน หรือว่าช่วยแบบชั่วคราว มันต้องดูตรงนี้ด้วย จริง ๆ แล้วการสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ ครูไม่ใหญ่ได้ชวน คนไปช่วยสงเคราะห์เวลาที่เห็นเขาตกทุกข์ได้ยากก็ดี หรือประสบ เหตุเภทภัยต่าง ๆ น้ำ ท่วม ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นทุกแห่งหนก็ทำ มาอย่าง ต่อเนื่องนะ แต่เขาไม่เห็นเท่านั้นเอง เพราะไม่ได้เอามาให้เขาเห็น เมื่อก่อนไม่เข้าใจนะ ไปต่างจังหวัดเห็นป้าย เอ๊ะ! ทำบุญ ๑,๐๐๐ บาท ทำไมต้องขึ้นป้าย โดยผู้ทรงเกียรติท่านนั้น ท่านนี้ ต้องขนาดนี้เลยเหรอ หรือไปช่วยทีเดียว คุยหลายที ไปแจกเสื้อผ้า แจกอาหาร แจกทีเดียว แล้วก็ย้ายที่ไปที่โน่น ที่นี่ ตอนหลังเพิ่ง เข้าใจว่า มือหนึ่งถือขวาน อีกมือหนึ่งต้องตีฆ้องร้องป่าว ไม่อย่าง นั้นเขาไม่รู้ว่าเราทำงาน อ๋อ ชาวโลกเขาชอบแบบนี้กันนะ ตอนนี้มี จานดาวธรรมแล้ว ๑ บาท ก็ต้องประกาศ ตอนนี้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ …

วัดพระธรรมกายทำไมสร้างใหญ่โตน่าจะนำเงินไปสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล
หรือสงเคราะห์โลก ช่วยเหลือคนยากจนบ้าง
Read More »

คุณยายมักน้อย สันโดษ

ธรรมทายาทหญิง : ลูกอยากเป็นคนมักน้อยสันโดษแบบคุณยาย ต้องทำอย่างไรคะ หลวงพ่อ : ใจต้องไม่ติดข้องในสิ่งใดเลย ไม่ติดคนสัตว์สิ่งของ ไม่ติด กะโหลกกะลา ใจเกลี้ยง ๆ นิ่ง ๆ มันถึงจะดิ่งเข้ากลางไปสุดสายกลาง ความสันโดษ มักน้อย แสดงถึงภูมิปัญญาของคน คือรู้ว่า อะไรคือสิ่งจำเป็นจริง ๆ สำหรับชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าสรุปแล้ว มีอยู่แค่ ๔ อย่าง คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยา รักษาโรค แค่นี้เพียงพอแล้วที่จะเดินทางไปสู่ที่สุดแห่งธรรม แต่ถ้าหากว่า ภูมิปัญญาหย่อนลงมา ก็จะคิดฟุ้งซ่านต่อไป ต้องมีปัจจัยที่ ๕ ที่ ๖ ที่ ๗, ๘, ๙, ๑๐ เรื่อยไปเลย ยิ่งคิดอย่างนั้น ใจยิ่งหยาบ แล้วยิ่งออกจากกลางไปติดกะโหลกกะลา ติดอะไร สารพัด มันก็หมดเวลาไป เพราะฉะนั้น ความสันโดษ มักน้อย …

คุณยายมักน้อย สันโดษ Read More »

ข่าววัดไทยติดวัตถุนิยมจริงหรือ

ข่าวจากหนังสือพิมพ์เขาเขียนว่า นักวิจัยธรรมศาสตร์ สำรวจ ๑๙๘ วัด บอกว่า วัดไทยยึดติดวัตถุนิยม เขาสรุปเลย ทั้งที่ วัดในเมืองไทยมี ๓๐ ,๐๐๐ กว่าวัด สำรวจได้แค่ ๑๙๘ วัด ซึ่งยัง ไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์เลย โดยท่านดอกเตอร์ท่านหนึ่ง ผลการวิจัย ท่านสรุปว่า ๑ วัดมองเห็นคุณค่าของศาสนาเพียงเปลือกนอก ๒ วัดหลงอยู่กับการปรุงแต่งวัตถุภายนอกให้ใหญ่โต สวยงาม ๓ วัดลืมสร้างสรรค์คุณค่าทางด้านจิตวิญญาณของความ เป็นพระพุทธศาสนา คือสรุปว่า วัตถุนิยม สร้างโน่น สร้างนี่ แล้วก็เสนอให้จัดการ เรื่องการเงินของวัด เรามามองอีกทัศนะหนึ่ง ข้อ ๑ วัดมองเห็นคุณค่าของศาสนาเพียงเปลือกนอก ในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ มีวัดใหญ่วัดดังหลายวัดนะ มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก แล้ววัดใหญ่ ๆ เหล่านั้นสร้างโดยพระราชาก็มี มหาเศรษฐีคู่บุญพระพุทธศาสนา ก็มี เช่น ๑ วัดเวฬุวนาราม สร้างโดยพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งยก พระราชอุทยานถวายสร้างวัดป่าไผ่อันร่มรื่น …

ข่าววัดไทยติดวัตถุนิยมจริงหรือ Read More »

เอาเงินที่ไหนมาสร้างวัด

ธรรมทายาทหญิง : หลวงพ่อเอาเงินที่ไหนมาสร้างวัดคะ หลวงพ่อ : ทรัพย์มี แต่อยู่ในกระเป๋าคนอื่น ก็หาจากในกลาง หาในธรรมะนั่นแหละ ที่หลวงพ่อกับคุณยายทำตอนนั้น เพราะ หลวงพ่อไม่รู้จะไปหาจากที่ไหน สมัยหนึ่งเขาเอาทุเรียนมาถวายหลวงปู่วัดปากน้ำ พวกทำ วิชชาอยู่ในโรงงานก็อยากทานทุเรียนบ้าง คุณยายท่านก็ “หลวงพ่อ เจ้าขา ลูกจะขออนุญาตไปฝั่งพระนคร” ปกติคุณยายไม่ได้รับ อนุญาตให้ไปไหนเลย อยู่แต่ในโรงงานทำวิชชาอย่างเดียว หลวงปู่ วัดปากน้ำท่านถาม “จะไปทำไมล่ะ” “ลูกจะไปซื้อทุเรียน” หลวง ปู่วัดปากน้ำบอก “ทุเรียนอยู่ในท้องมึง” คุณยายท่านก็เลยมานั่ง เข้าที่ ก็เอาใจหยุดไป วันรุ่งขึ้น เขาเอาทุเรียนมาถวายพระวัดปากน้ำ แล้วก็มาถวายพวกอยู่ในโรงงานทำวิชชาด้วย สมัยก่อนวัดปากน้ำ หลวงปู่วัดปากน้ำท่านเลี้ยงพระมาก ที่สุดในประเทศไทย ๕๐๐ กว่ารูป หลวงปู่วัดปากน้ำท่านก็บอก กับพวกทำวิชชา ในช่วงที่คุณยายรับช่วงเป็นหัวหน้าเวร “ลูกจันทร์ มึงไปตามเจ้าภาพมาเลี้ยงพระนะ ดูหม้อข้าวให้ดี” คุณยายก็ไป ตามในที่ จะไปตามที่ไหนก็อยู่แต่ในโรงงาน ท่านก็นั่งสมาธิไป ตามเรื่อย ๆ คนก็มาเลี้ยงพระที่วัดปากน้ำ ก็จะมีคนจองเป็นเจ้า ภาพตลอด …

เอาเงินที่ไหนมาสร้างวัด Read More »

ขอแสดงอาบัติ

มีพระกัลยาณมิตรรูปหนึ่งเขียนจดหมายมา ท่านใช้คำว่า “ขอแสดงอาบัติ” กับคุณครูไม่ใหญ่ ที่จริงอยากอ่านตามลำพัง แต่ มีหลายข้อที่ท่านเขียนมาอาจจะไปตรงกับใจใครบางคน จะได้ถือ โอกาสตรงนี้ชี้แจง ทำความเข้าใจกันสักนิด ที่จริงถึงไม่ได้แสดงอาบัติ หรือขอขมาก็ให้อโหสิไปหมดแล้ว เพราะครูไม่ใหญ่อยากจากโลกนี้ไปอย่างใจใส ๆ ไม่มีเวร ไม่มีภัย กับใคร แต่นี่เป็นความงามของพุทธบุตรที่ท่านเมื่อมีความรู้สึกที่ดี เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะแสดง ไม่ปกปิด จะเปิดเผย เพื่อความบริสุทธิ์ บริบูรณ์ เพราะท่านมีพระนิพพานเป็นเป้าหมาย นี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านเขียนมาย่อ ๆ ว่า ท่านเคยมีอคติในใจ ที่ยังไม่กล้าบอกกับใครในส่วนลึกก้นบึ้ง หัวใจ ซึ่งอาจจะไปตรงกับความคิดของคนอื่น ๆ ที่มีต่อวัดพระธรรมกาย ก็พูดง่าย ๆ กับครูไม่ใหญ่นั่นแหละ แต่เขามักจะเหมารวม ๆ เป็น วัดพระธรรมกาย ไม่รู้เป็นยังไง ที่จริงว่าครูไม่ใหญ่โดยตรงจะดีกว่า เพราะว่า “พระ ธรรมกาย” บาปนะ เพราะคำว่า “ธรรมกาย” เป็นคำสูง หมายถึง พระพุทธเจ้าที่อยู่ภายในตัว หมายถึง พระรัตนตรัย เพราะฉะนั้น …

ขอแสดงอาบัติ Read More »

ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่ออยู่ในมหาวิทยาลัย

ธรรมทายาทหญิง : พระอาจารย์เล่าว่า สมัยที่หลวงพ่อไปเรียนธรรมะกับคุณยาย ขณะอยู่บนรถเมล์ หลวงพ่อจะทำสมาธิไปด้วย อยากขอคำแนะนำหลวงพ่อ เนื่องจากชีวิตประจำวันที่ ต้องไปเรียนในมหาวิทยาลัย ต้องนั่งรถเมล์ในกรุงเทพฯ เป็นเวลานาน ๒ – ๓ ชั่วโมงค่ะ หลวงพ่อ : หลวงพ่อรักธรรมะมาก ในใจหลวงพ่อตอนนั้น มีแต่ คุณยายกับธรรมะเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นเลย นั่งรถเมล์จากบางเขนไป วัดปากน้ำต้องนั่งรถถึง ๓ ต่อ บางครั้งไปลงปากคลองตลาดก็ต้อง นั่งเรือ แล้วแต่จะไปทางไหน หลวงพ่อก็ไม่รู้จะไปดูอะไร สองข้างทาง ไม่มีอะไรน่าดู มีแต่คนสัตว์สิ่งของ ก็ดูองค์พระในตัวดีกว่า ก็เลย หลับตาดูองค์พระไปเรื่อย ๆ มีความรู้สึกแป๊บเดียวเท่านั้น ลืมตา อีกทีถึงตลาดหมอชิต ลืมตาอีกทีถึงสนามหลวง หลับตาลืมตาอีกที ถึงตลาดพลูแล้ว คือหลับตามองดูองค์พระภายในแล้วมีความสุข ใจสบาย ก็เลยไม่รู้จะไปดูอย่างอื่นทำไม หลวงพ่อก็ทำอย่างนี้ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48

กลัวว่าเวลายืนหรือนั่งทำสมาธิแล้ว เกิดรถเบรกกะทันหัน แล้วจะไถลไปข้างหน้า

ธรรมทายาทหญิง : เนื่องจากทุกวันนี้รถเมล์ขับซิ่งมาก กลัวว่าเวลายืนหรือนั่งทำสมาธิแล้ว เกิดรถเบรกกะทันหันกลัวจะไถลไปข้างหน้าเจ้าค่ะ หลวงพ่อ : หลวงพ่อว่า รถสมัยนั้นกับสมัยนี้มันก็เหมือน ๆ กันนะ มีอยู่คราวหนึ่งรถชนกัน หรือเกิดอุบัติเหตุอย่างไรไม่ทราบ รถที่นั่ง มันเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว เก้าอี้มันพับ ๆ เข้ามา แล้วมาจ่อที่ผู้หญิง ที่นั่งข้าง ๆ เขาก็ไม่เจ็บนะ แต่เขาเป็นลมไปเลย ในรถมีคนไม่เจ็บ อยู่ ๒ – ๓ คน มีหลวงพ่อและคนที่นั่งข้าง ๆ ส่วนกระเป๋ารถกระเด็น หลุดไปเลย หลวงพ่อก็แปลกใจตัวเอง ทำไมตอนนั้นเราเป็นแบบนั้น คือ ไม่รู้สึกตื่นเต้น ตกใจอะไรเลย ใจมันนิ่ง ๆ มีความสุขอยู่ข้างใน แล้วก็ลง จากรถไปขึ้นรถต่อมาหาคุณยายเลย ตอนนั้นก็ไม่ได้นึกอัศจรรย์นะ แต่พอมานึกย้อนหลังแล้วแปลก ทำไมเราเป็นอย่างนี้นะ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ …

กลัวว่าเวลายืนหรือนั่งทำสมาธิแล้ว เกิดรถเบรกกะทันหัน แล้วจะไถลไปข้างหน้า Read More »

นั่งสมาธิแล้วฟุ้ง

ธรรมทายาทหญิง : เวลานั่งสมาธิลูกจะเป็นคนคิดมาก จะนิ่งสงบภายในเวลาแค่ ๑ – ๒ นาที นอกนั้นก็ฟุ้งค่ะ หลวงพ่อ : ต้องนั่งสม่ำเสมอทุกวัน ต้องมีชั่วโมงหยุด ชั่วโมงนิ่ง ชั่วโมงกลางเยอะ ๆ มีพระธรรมทายาท ท่านถามหลวงพ่อว่า ตอนหลวงพ่อนั่ง ใหม่ ๆ เป็นอย่างไรบ้าง หลวงพ่อก็บอกว่า นั่งใหม่ ๆ ก็เมื่อย นั่งมืด นั่งฟุ้ง นั่งหลับ นั่งท้อ นั่งน้อยใจในโชควาสนาบารมี นั่งไปด้วยก็บ่น ไปด้วย ก็เป็นอย่างที่ลูก ๆ เป็นนั่นแหละ ไม่ใช่ของอัศจรรย์หรือของ แปลก หรือเราเป็นคนเดียว แต่ตอนนั้นหลวงพ่อเข้าใจว่า หลวงพ่อ เป็นคนเดียวในโลก ก็บ่นรำพึงกับคุณยาย คุณยายก็ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ก็ทำความเพียรไปเรื่อย ๆ แต่มันก็ไม่ได้ผล เพราะ ตอนนั้นอยากได้มาก ๆ มาได้ผลตอนที่ปลงตกแล้ว ตอนนั้นปี พ.ศ. ๒๕๐๖ …

นั่งสมาธิแล้วฟุ้ง Read More »

หลวงพ่อฝึกธรรมะใหม่ ๆ

สามเณร : ตอนสมัยหลวงพ่อเรียนธรรมะกับคุณยายใหม่ๆ หลวงพ่อฝึกอย่างไรครับ หลวงพ่อ : ก็ฝึกอย่างที่สอนลูกเณรอย่างนั้นแหละ ในใจลึก ๆ ของหลวงพ่อ ตอนก่อนเข้ามหาวิทยาลัย มัน แสวงหาคำตอบหลาย ๆ ข้อ เช่น นรกมีจริงไหม สวรรค์มีจริง ไหม มนุษย์มาจากไหน แล้วก็แสวงหาความรู้เหล่านี้จากครูบา อาจารย์ต่าง ๆ อ่านตำราบ้าง แต่ก็ไม่มีใครตอบหลวงพ่อได้ ไปถาม ครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นพระ ส่วนใหญ่บอกว่า น่าจะมีนะ เพราะ พระไตรปิฎกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ไม่ค่อยถูกใจหลวงพ่อเท่าไร แต่ก็เกรงใจท่าน ไม่ได้ถามต่อ จนกระทั่งมาเจอยาย ก็ไปถามคำถามเดิม “นรกสวรรค์มี จริงไหม” ท่านบอกว่า “มี” “แล้วไปได้ไหม” “ได้” “ยายเคยไป หรือเปล่า ” “เคย” “คุณจะไปไหมล่ะ เดี๋ยวยายจะพาไป” “งั้น คุณ ทำอย่างนี้ ๆ นะ” ก็นั่งไป หลวงพ่อก็อยากรู้อยากเห็น …

หลวงพ่อฝึกธรรมะใหม่ ๆ Read More »

นั่งธรรมะต้องใจเย็น ๆ

ภิกษุ หลวงพ่อครับ ที่หลวงพ่อเล่าว่า เคยนั่งธรรมะกับคุณยาย แล้วท่านบอกว่า ให้ใจเย็น ๆ ตอนนั้นหลวงพ่อฝึกอย่างไรครับ หลวงพ่อ : ก็ฝึกอย่างพวกเราฝึกนี่แหละ ฝึกธรรมดา ท่านสอนว่า การเห็นข้างในกับข้างนอกมันต่างกัน ข้างนอก เราเห็นได้ทันที แต่การเห็นข้างในมันต้องค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ เห็น จากไม่มีจนกระทั่งเห็นว่ามี จากเลือนรางก็ค่อย ๆ ชัดขึ้น จากชัดน้อยก็ไปชัดมาก จากชัดมากก็ยิ่งชัดมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น ให้ทำความเข้าใจ และรู้จักกับวิธีการเห็นข้างใน ว่า มันเป็นแบบนี้ ก็ต้องทำแบบนี้ เมื่อเราเข้าใจมัน รู้จักมันอย่าง ดีแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไปฮึดฮัดหรือหงุดหงิดในกรณีที่ไม่ได้ดังใจ มันไม่ได้ แล้วจะใช้วิธีบังคับให้ชัด มันก็ไม่ได้ผล เพราะคนละวิธีกัน เหมือนเอามีดผ่าฟืนไปปอกผลไม้มันไม่ได้ หรือเอามีดปอกผลไม้ ไปผ่าฟืนก็ไม่ได้ ของใครก็ของมัน พอท่านสอนให้ทำความเข้าใจตรงนี้ ก็มาทดลองทำ ใหม่ ๆ ก็ยังไม่ค่อยได้ผล เพราะเราคุ้นกับการเห็นอะไรได้ดังใจ หรือเห็น อะไรไม่ชัด เราก็ต้องไปเพ่ง ทำตาหยี ๆ …

นั่งธรรมะต้องใจเย็น ๆ Read More »

หลวงปู่มีวิธีฝึกพระภิกษุสามเณรอย่างไร

ภิกษุ เมื่อสมัยหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านมีการฝึกพระภิกษุสามเณรอย่างไรบ้างครับ หลวงพ่อ : ท่านฝึกทุกเช้าเลย วันละ ๑๐ นาที ฝึกทั้งวัด แล้วท่าน ก็สอนให้คิดแบบพระ พูดแบบพระ ทำแบบพระ ท่านก็หยิบเอา พระวินัยบ้าง เสขิยวัตรบ้างมาเทศน์สอน ส่วนพวกทำวิชชา ท่านก็จะสั่งให้ใจอยู่ภายในตลอด ไม่ว่า จะไปฉัน หรือทำอะไรก็แล้วแต่ ใจต้องอยู่ตรงนั้น หลุดไม่ได้ ท่าน ใช้งานบ่อย หลุดท่านก็ดุเอา สมมติว่า ท่านบุญเยี่ยมนั่งธรรมะดี หลวงปู่วัดปากน้ำมี แขกมาหาท่าน ท่านก็จะเอาท่านบุญเยี่ยมมานั่งใกล้ ๆ พอแขก เข้ามากราบ “หลวงพ่อเจ้าขา คนนั้นเจ็บ คนโน้นป่วย” ท่านก็ต้อง แก้ไป “หลวงพ่อเจ้าขาฝนตกที่โน่น” ท่านก็ต้องเป็นเจ้ากรมอุตุฯ “หลวงพ่อเจ้าขา พ่อตายแม่ตายไปอยู่ที่ไหน” ท่านก็หันมา “อ้าว ท่านบุญเยี่ยม อยู่ตรงไหน” ท่านบุญเยี่ยมก็ต้องค้นไป ท่านใช้ช่วยเวลารับแขก ซึ่งมันสารพัดเรื่อง ช่วยทุกข์มนุษย์ ทั้งนั้น ท่านใช้อย่างนี้อยู่ตลอด เพราะฉะนั้นไม่คล่อง …

หลวงปู่มีวิธีฝึกพระภิกษุสามเณรอย่างไร Read More »

จะศึกษาวิชชาธรรมกายต้องมาเฉพาะที่วัดพระธรรมกายหรือ

ภิกษุ ทำไมจะศึกษาวิชชาธรรมกาย ต้องมาที่วัดพระ ธรรมกาย ไม่ไปที่วัดปากน้ำต้นแหล่ง หรือว่าไปที่ลูกศิษย์ หลวงพ่อวัดปากน้ำรูปอื่น ๆ ครับ หลวงพ่อ : ไปที่ไหนก็ได้ที่มีความมั่นใจว่าจะได้ศึกษาวิชชา ธรรมกาย เรามั่นใจตรงไหน เรามีความศรัทธาตรงไหน เราก็ไป ตรงนั้น เหมือนหลวงพ่อมีความมั่นใจที่คุณยาย หลวงพ่อก็ไปที่ยาย ก่อนหน้านี้ก็ไปวัดอื่นมาทั่ว แล้วมาสรุปที่วัดปากน้ำ ในวัดปากน้ำ ก็ไปทั่วหมด แล้วก็มาสรุปที่คุณยาย ทั้ง ๆ ที่บุคลิกของท่าน ถ้าไปเทียบกับครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ท่านสู้เขาไม่ได้ รูปร่างท่านจะผอมบาง แต่หลวงพ่อดูหลาย ๆ อย่าง ไม่มีใครเหมือนท่าน ดูตั้งแต่เรื่องหยาบของท่านไปก่อน เพราะคน จะทำงานละเอียดได้ จะต้องทำงานหยาบให้ละเอียดก่อน ท่านจะ ประณีต มีความสะอาด มีระเบียบ แสดงว่าจิตใจของท่านมีระเบียบ มีวินัย ควบคุมตัวเองได้ ท่านจะพูดแต่พอดี พูดเป็นอรรถเป็นธรรม เรื่องอื่นไม่คุย เลย และไม่ว่าร้ายใคร ชมก็ไม่ค่อยชม หลวงพ่อไม่เคยได้ยินยาย ชมเลย ไม่เคยได้รับคำชมจากยาย …

จะศึกษาวิชชาธรรมกายต้องมาเฉพาะที่วัดพระธรรมกายหรือ Read More »

วัดพระธรรมกายเป็นพุทธพาณิชย์จริงหรือ

วัดพระธรรมกายไม่ใช่พุทธพาณิชย์นะ มีแต่เขาแต่งตั้งให้ ว่าเป็นพุทธพาณิชย์ แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะไม่ได้ค้าขายอะไร เลย มีแต่เชิญชวนเขามาสร้างพระ มาสร้างบุญกุศล ก็เหมือน กับบรรพบุรุษปู่ย่าตายายของเราที่เขาทำกันมา แต่แปลกตรงที่ ถ้าครูไม่ใหญ่ทำ กลับกลายเป็นพุทธพาณิชย์ ทุกคนที่มาร่วมบุญ เขาก็มาทำด้วยความสมัครใจ เต็มใจ เมื่อร่วมบุญแล้วก็มีของขวัญให้เพื่อเอาไว้ระลึกนึกถึงบุญ ไม่ใช่เป็น ของขาย หรือของขลัง จะเอาหรือไม่เอาก็ได้ ไม่ได้ว่าอะไรเลย คือ ให้ไว้เพื่อระลึกนึกถึงบุญ เพราะความทรงจำเรามีจำกัด มันเสื่อมลง เมื่อกาลเวลาผ่านไป พอเห็นของขวัญ อ๋อ วันนั้น เดือนนั้น ปีนั้น เราได้ทำบุญอย่างนั้น ที่นั่น ที่นี่ ใจจะได้ปลื้มปีติ บุญก็เกิด เพราะฉะนั้น ขอยืนยันว่า “วัดพระธรรมกาย ไม่ใช่ พุทธพาณิชย์” ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๕ …

วัดพระธรรมกายเป็นพุทธพาณิชย์จริงหรือ Read More »