หนังสือ คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ 1

อ่านหนังสือ คำตอบคุณครูไม่ใหญ่เล่ม ๑ ที่นี่

ทำไมคนนั่งสมาธิดีมีใบหน้าผ่องใส

ธรรมทายาทหญิง : ทำไมคนที่นั่งธรรมะดี ๆ ถึงมีหน้าตาที่ผ่องใส เกี่ยวข้องกับระบบสรีระของร่างกายอย่างไรเจ้าคะ หลวงพ่อ : กายและใจสัมพันธ์กัน พอใจสะอาด มันก็ขยายไปสู่ ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ความบริสุทธิ์ก็แผ่ซ่าน กลั่นธาตุ หยาบในตัวให้ผ่องใสตามไปด้วย เพราะฉะนั้นการปฏิบัติธรรม ใจหยุดนิ่งอยู่ภายในห้องศูนย์กลางกาย เป็นวิธีการเสริมสวยที่ดี ที่สุดเลย พอใจใสบริสุทธิ์ ธาตุในตัวก็กลั่นบริสุทธิ์ ร่างกายจะหลั่ง สารที่บริสุทธิ์ออกมา ทำให้เหมือนมีรัศมีอยู่ในตัว มีความผ่องใส เหมือนมีนวลใบตอง นวลผักคะน้า เป็นยองใย ถ้าบริสุทธิ์มาก ก็เหมือนมีแสงออกจากตัวเรือง ๆ เหมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ที่มีขอบรัศมีนวล ๆ กระจ่าง ถ้าบริสุทธิ์ยิ่งกว่านั้นก็มีแสงออกมา เลย นั่นล่ะที่เสริมสวยในศูนย์กลางกาย ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

เอาประสบการณ์ล่าสุดเป็นจุดเริ่มต้นได้หรือไม่

สาธุชน : สมมติว่าวันนี้เรานั่งเป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้เราเริ่มนั่งใหม่ ต้องนึกถึงประสบการณ์สุดท้าย หรือเปล่าคะ หลวงพ่อ : อันนี้สำหรับคนที่เขาทำเป็นแล้ว มั่นคงแล้ว เขาสามารถ ทำต่อได้เลย เช่น เมื่อวานเราเห็นดวงสว่าง วันนี้ดวงสว่างยังติด อยู่กับตัวเราตลอด ไม่ว่าเราจะนั่งนอนยืนเดิน หกคะเมนตีลังกา เคลื่อนไหวกายก็ยังอยู่ อย่างนี้ทำ ต่อไปเลย หยุดเข้าไปเรื่อย ๆ เลย แต่บางคนเมื่อวานเห็นดวง อ้า วันนี้หาไม่เจอแล้ว อย่างนี้ ต้องเริ่มต้นใหม่อย่างง่าย ๆ ณ จุดที่ไม่มีอะไร ที่เรามั่นใจว่าตรงนี้ ศูนย์กลางกาย ทำสบาย ๆ ทำนิ่ง ๆ ไปเถิด พอใจเราไม่กังวลกับ อะไร เราจะเห็นหรือไม่เห็น เราต้องการแค่ทำหยุดกับนิ่ง ปรับที่ใจ ไม่ไปปรับที่ภาพนะ คือใจเราให้นิ่ง ๆ อย่างเดียว เดี๋ยวก็ชัดขึ้นมา เกิดขึ้นมาเองเลย ทำอย่างนี้นะ แล้วจะสมหวัง ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. …

เอาประสบการณ์ล่าสุดเป็นจุดเริ่มต้นได้หรือไม่ Read More »

การนั่งเนสัชชิกังคัง

ธรรมทายาทหญิง : การนั่งเนสัชฯ มีผลดีผลเสียอย่างไรเจ้าคะ หลวงพ่อ : เนสัชชิกังคัง คือ การตั้งใจนั่งทำสมาธิทั้งคืน แบบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทำอย่างนั้น คือ มีความเพียรนั่งทั้งคืน ปล่อยใจลงไปอยู่ภายใน ไม่ให้ความง่วงเข้ามาแทรก พยายามฝึกใจ ให้หยุดนิ่งอย่างสบาย ๆ อย่างนี้เรียกว่า “เนสัชชิกังคัง” แต่ส่วนมาก มักจะเจอ เนสัชชิกังคุย นั่งแล้วออกมาเข้าห้องน้ำ มาคุยกัน เดี๋ยวกลับเข้าไปนั่งใหม่ อย่างนั้นเขาเรียกว่า “อดนอน” แล้วก็ภูมิใจ ว่า เออ ได้อดนอนมาคืนหนึ่ง มีผลดีผลเสียไหม มันก็ขึ้นอยู่กับธาตุของแต่ละคน บางคน เขาชอบอย่างนั้น นั่งแล้วสบาย มีความสุข แต่บางคนนั่งแล้วง่วง ฝืน แทนที่จะได้ผลดีกลับง่วง 00 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๐๐ พฤษภาคม …

การนั่งเนสัชชิกังคัง Read More »

ความสำเร็จมีอยู่แล้วในตัว

สาธุชน : ที่หลวงพ่อเคยพูดว่า พึงทำความสำเร็จให้เกิด ขึ้น เพราะความสำเร็จมีอยู่แล้ว หมายความว่าอย่างไรครับ หลวงพ่อ : คือความสำเร็จ ทุกสิ่งทุกอย่างมีอยู่ในตัวของเราหมด เลยนะ ความเพียรก็มีอยู่ในตัว สติก็มีอยู่ในตัว ปัญญาก็มีอยู่ในตัว ความขยันก็อยู่ในตัว แล้วแต่ว่าเราเอามาใช้แค่ไหน ถ้าเราเอามาใช้ มันก็ใช้ได้ ยกตัวอย่าง เช่น เวลาเราขี้เกียจ ถ้าเราดึงความขยันมาใช้ คือรีบทำตอนนั้นเลย ทำบ่อย ๆ จนกระทั่งเกิดความเคยชิน เดี๋ยวความ ขยันก็จะมีอานุภาพครอบงำความเกียจคร้านในการนั่งธรรมะได้ ความสำเร็จก็เช่นเดียวกัน มันมีจุดแห่งความสำเร็จอยู่ ไม่ว่าจะทางโลกทางธรรม เป็นจุดที่สบายที่สุด ถ้าหากเราทำใจของ เราให้สบาย ๆ มันจะไปถึงจุดตรงนั้นเอง เพราะจุดตรงนั้นเป็นจุดที่ สบาย เราจะต้องทำให้เหมือนกัน แล้วมันจะดูดเข้าไปหากัน แล้ว ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้น ทางโลกก็เช่นเดียวกัน ความสำเร็จก็คอยเราอยู่ อุปสรรค ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะต้องเอาชนะมัน ทำไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นได้ ความสำเร็จจะไม่เกิดขึ้น ในกรณี ที่เราไม่ดึงเอาความตั้งใจจริงมาใช้ คือแทนที่เราจะเดินทางต่อไป เรากลับหยุดเสียตรงนั้น …

ความสำเร็จมีอยู่แล้วในตัว Read More »

เมื่อความคิดไม่ดีเกิดขึ้นในใจ

ธรรมทายาทหญิง : เมื่อความคิดไม่ดีเกิดขึ้นในใจเราจะจัดการอย่างไร หลวงพ่อ : เวลาอกุศลกรรมเกิดขึ้น ต้องมีสติกับปัญญา ให้มีสติ รับรู้ว่า ตอนนี้จิตเป็นอกุศลแล้ว เราก็ใช้ปัญญาเอาชนะมัน บอก “ไม่ได้” ถ้าขืนคล้อยตามไปชีวิตจะเป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นเราจะ ไม่คล้อยตามในสิ่งที่อกุศลจิตแนะนำเราอยู่ ส่วนความคิดใดที่เป็น กุศลธรรม พอแนะนำในใจเรา เราก็ทำให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป 00 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๐๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

นั่งธรรมะเห็นหน้าคู่อริ

สาธุชน : หลวงพ่อครับ ผมนั่งแล้วเห็นหน้าคู่อริเก่า ๆ ควรทำอย่างไรดีครับ หลวงพ่อ : ก็ต้องสร้างนิสัยใหม่ มองทุกคนเป็นเพื่อนร่วมทุกข ์ เกิดแก่เจ็บตายเหมือนกับเราหมดทั้งสิ้น ทุกคนไม่อยากทำในสิ่ง ที่เราไม่ชอบหรอก เพราะทุกคนมีความรักตัวอยู่ เขาก็ไม่อยากจะ ทำความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นให้เราทุกข์ใจ และใคร ๆ ก็ไม่อยาก ให้เขาทำ แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่บังคับอยู่ในใจเขา เขาสู้ไม่ได้ มันแพ้ทุกที เขาก็เลยพลาดพลั้งทำอย่างนั้น หน้าที่ของเรา ในฐานะที่มาถึงแสงสว่างก่อน เรารู้ว่าสิ่งนี้ ไม่ดี เราก็ให้อภัยเขาก็จบกันไป สิ่งที่เธอทำกับฉัน ฉันให้อภัยเธอ ฉันไม่ถือ ไม่ถือก็ไม่หนักนะ ถ้าถือที่มือก็หนักที่มือ ถือที่บ่าก็หนัก ที่บ่า ถ้าถือที่ใจก็หนักที่ใจ ถ้าวางที่มือก็ไม่หนักมือ วางที่บ่ามันก็ ไม่หนักบ่า วางที่ใจก็ไม่หนักใจก็แค่นั้นแหละ แล้วเราจะได้มานั่ง อย่างมีความสุข ช่วงที่นั่ง สิ่งที่ควรคิด คือนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าไปนึกถึงเขา นึกแล้วไม่เกิดประโยชน์ นึกถึงองค์พระใส ๆ นึกถึง ดวง นึกถึงสิ่งที่ทำให้มีความสุข ทำอย่างนี้บ่อย …

นั่งธรรมะเห็นหน้าคู่อริ Read More »

นั่งสมาธิแล้วปวดตา

ธรรมทายาทหญิง : ช่วงหลังลูกนั่งธรรมะแล้วปวดตามากเจ้าค่ะ หลวงพ่อ : อย่ากลัวว่า ไม่เห็น อย่ากลัวว่า จะเห็นช้า อย่าอยากเห็น เร็ว ๆ เพราะความอยากจึงทำให้เราตั้งใจมาก เพราะกลัวจะเห็น ช้า เลยเร่ง จึงทำให้เกิดการเพ่ง พอเพ่ง ร่างกายก็ฟ้องว่า ไม่ถูกวิธี แต่วิธีบอก เขาพูดเป็นภาษาไม่ได้ เขาพูดด้วยอาการ โดยการตึง นั่นแหละว่า อย่างนี้ไม่ถูกวิธี อย่าฝืน ให้ผ่อนคลาย เพราะฉะนั้น วิธีแก้ก็คือ ทำให้ถูกวิธี วิธีที่ถูก หลวงพ่อวัด ปากน้ำท่านบอกว่า “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” ท่านไม่ได้บอกว่า อยาก เป็นตัวสำเร็จ แต่เราไปเข้าใจว่า อยากเป็นตัวสำเร็จ เราจึงเอาอยาก เดินหน้า ภาวนาตามหลัง ก็เลยตึง แก้ใหม่นะลูกนะ เดี๋ยวได้แน่นอน ขอให้ทำถูกวิธี อย่าท้อเสียก่อนก็แล้วกัน ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) …

นั่งสมาธิแล้วปวดตา Read More »

“จริงเท่าชีวิต” หมายความว่าอย่างไร

ธรรมทายาทหญิง : คำว่า “จริงเท่าชีวิต” ในนัยของหลวงพ่อวัดปากน้ำ มีความหมายว่าอย่างไร หมายความว่า เราต้องนั่งจนกว่าจะเห็นธรรม ถึงจะเลิกนั่งหรือเปล่าเจ้าคะ หลวงพ่อ : นั่นสำหรับผู้มีบารมีแก่แบบพระโพธิสัตว์ เป็นอย่างนั้น ซึ่งก็หายาก ไม่ใช่หาง่ายหรอก จริงของท่านจริงแบบพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ตัดสินใจว่า ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าหนทางพ้นทุกข์ เพราะฉะนั้นท่านจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ทำหยุดนิ่งอย่างเดียว ถ้าไม่พบหนทางก็ปล่อยชีวิตเลย สำหรับผู้มีบารมีมากนะ แต่สำหรับเรา ให้จริงในระดับที่ผ่อนมาหน่อยหนึ่ง คือ ทำทุกวันทุกคืน ทำจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่ว่า ทำ ๑ วัน หยุดไป ๕ วัน ทำ ๕ วัน หยุด ๑ เดือน ทำ ๑ เดือน หยุดไป ๕ เดือน อย่างนี้ ไม่จริง แต่ถ้าทำทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ อย่างนี้จริงในระดับที่ผ่อน …

“จริงเท่าชีวิต” หมายความว่าอย่างไร Read More »

วิธีรักษาใจหลังจบการอบรม

ธรรมทายาทหญิง : เมื่อลูกออกจากการอบรมไปแล้ว นอกจากรักษาศีลและมาวัดสม่ำเสมอแล้ว จะมีวิธีการรักษาใจอย่างไรคะ หลวงพ่อ : ต้องฝึก ต้องให้มีฉันทะ มีความรักในการปฏิบัติธรรม แล้วก็ให้เห็นประโยชน์ของการปฏิบัติธรรมว่า ทางนี้เป็นทางเดียว เท่านั้นที่จะทำให้จิตบริสุทธิ์ แล้วหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ไม่มีวิธี อื่นใดเลย หมั่นนั่งทุกวันจนกระทั่งติดเป็นนิสัยเหมือนอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน อีกหน่อยเราก็จะนั่งได้โดยที่เราไม่ต้องฝืน เป็นธรรมชาติ เป็นอัตโนมัติเลย แล้วก็มีความสุขกับการนั่ง การนั่ง ทุกครั้งถ้าหากใจหยุดนิ่งมีความสุข ต่อไปก็จะอยากนั่งด้วยตัวเอง ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องพยายาม อย่างนี้ความสม่ำเสมอก็จะเกิดขึ้น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๐๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

ทำไมต้องนั่งสมาธิ

ตำรวจ : กราบนมัสการหลวงพ่อ นี่เป็นการปฏิบัติครั้งแรกของผมครับ มีความรู้สึกยังกำหนดจิตของตัวเองไม่ได้ มีภาพเก่า ๆ ในอดีตที่เคยผ่านชีวิตมาวนเวียนตลอด ทำให้จิตไม่สงบเท่าที่ควร ก็จะพยายามฝึกปฏิบัติในโอกาสต่อไปครับ หลวงพ่อ : สำคัญนะ ในขณะที่ร่างกายเรายังแข็งแรงอยู่ ยังมี ภาพเก่า ๆ จากประสบการณ์ของชีวิตที่ผ่านมาวนเวียนอยู่ในใจ ตลอดเวลา แล้วเราบังคับไม่ได้ จะเลือกอยู่ในภาพใดภาพหนึ่งไม่ได้ หรือไม่ต้องการภาพนั้น จะขับไล่ภาพนั้นออกไปก็ยังไม่ได้ ขนาดเรา แข็งแรงอยู่ ยังเป็นอย่างนี้ ตอนป่วยจะยิ่งกว่านี้ ตอนนั้นทั้งร่างกาย และจิตใจอ่อนแอหมด เมื่อมันอ่อนแอ ภาพต่าง ๆ จะเกิดขึ้นตลอด เวลา แล้วเราควบคุมไม่ได้ ตรงนี้อันตราย อันตรายสำหรับชีวิตมนุษย์ทุกคนในโลก เพราะตัดสิน กันที่ภาพสุดท้ายก่อนที่เราจะหลุดจากกายหยาบ ตรงนี้สำคัญ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้หลักว่า ทางที่จะไปมีอยู่ ๒ ทาง อบายทางหนึ่ง สุคติทางหนึ่ง ภาพที่สดใส บริสุทธิ์ นึกแล้วปีติ ภาคภูมิใจ ภาพแห่งความดีปรากฏเห็นชัดเจน เกาะภาพนั้นก็ไปสุคติ แต่ถ้าเป็นภาพที่ไม่ดี เกาะภาพนั้นก็ไปอบาย ทีนี้ …

ทำไมต้องนั่งสมาธิ Read More »

คนมีงานน้อยจะนั่งธรรมะได้ดีกว่าไหม

ตำรวจ : คนที่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบน้อย ๆ จะทำ สมาธิได้เร็วและดีกว่าคนที่มีภาระความรับผิดชอบ มากหรือไม่ครับผม หลวงพ่อ : ไม่จำเป็นว่า ใครมีภาระรับผิดชอบน้อยจะนั่งได้ ดีกว่า ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับว่าฝึกอย่างสม่ำเสมอหรือเปล่า ถ้าทำ สม่ำเสมอทุกวัน ไม่ขาดเลยแม้แต่วันเดียว ทั้งที่เรามีความรู้สึก เหมือนนั่งแล้วไม่ได้อะไรเลย หลับบ้าง ฟุ้งบ้าง เมื่อยบ้าง ง่วงบ้าง แต่ว่าเวลาที่ใจรวมลงได้ มันประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้น ไม่แน่นะ บางทีมีภารกิจมาก แต่จิตก็รวมลงได้ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ้ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑

ควรนั่งนานแค่ไหนต่อวัน

ตำรวจ : ควรจะกำหนดไหมว่า วันหนึ่งควรนั่งนานแค่ไหนครับ หลวงพ่อ : หลวงพ่อว่า ใหม่ ๆ เอาแค่อิ่ม หมายความว่า แค่พึงพอใจ นั่งวันนี้ สมมติว่า สักครึ่งชั่วโมง เราพึงพอใจเราก็เลิก แต่ขอให้ทำ ทุกวัน สม่ำเสมอ แม้เราจะมีความรู้สึกว่าเหมือนไม่ได้ผลอะไรเลย แต่จริง ๆ แล้ว ใจถูกกลั่น ถูกกรอง ให้ละเอียดลงไปทุกวัน บริสุทธิ์ ขึ้นทุกวัน แล้วสักวันหนึ่ง มันก็จะรวมลงได้ เพราะฉะนั้นใหม่ ๆ ให้เริ่มต้นเท่าที่เราพึงพอใจก่อน พอเรานั่งถูกส่วน เดี๋ยวมันขยาย เวลาไปเอง ถ้าสมมติเราไปกำหนดว่า ต้องนั่ง ๑ ชั่วโมง บางทีมัน ฝืนนั่ง พยายามนั่ง เดี๋ยวจะเบื่อเสียก่อน แต่ขอให้นั่งทุกวัน ส่วนเวลาก็แล้วแต่เราสะดวกตอนไหน บางคนสะดวกช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น กลางคืน ก็แล้วแต่เราจะเลือกเอา บางคนไปได้ผลในรถด้วยซ้ำ นั่งที่บ้านไม่ได้ผล แล้วก็ไม่ค่อย …

ควรนั่งนานแค่ไหนต่อวัน Read More »

เดินจงกรม

ตำรวจ : ที่นี่มีการเดินจงกรมไหมครับ หลวงพ่อ : เดินจงกรม ก็คือการเปลี่ยนอิริยาบถในการทำ สมาธิ เท่านั้นเอง ขณะเดินก็ฝึกสติให้อยู่กับตัวไปด้วย ของเราจริง ๆ แล้ว ต้องทำทุกอิริยาบถทั้งนั่งนอนยืนเดิน แต่เราเดินแบบธรรมดาไม่ได้ กำหนดกฎเกณฑ์ว่า จะต้องเป็นท่านั้น ท่านี้ แต่เดินธรรมดา แล้ว ภาวนาไปเรื่อย ๆ จิตก็รวมลงได้เหมือนกัน ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑