หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ช่วยงานบ้านพ่อแม่กับไปทำบุญที่วัด อย่างไหนได้บุญมากกว่ากัน

คำถาม: วันหยุดถ้าเปรียบเทียบระหว่างดิฉันทำงานที่บ้าน ช่วยงานพี่สาวและแม่ ช่วยซักผ้า หุงข้าว กับการไปวัดไปปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ อย่างไหนจะได้บุญมากกว่ากันคะ? คำตอบ: ก็ทำให้ครบทั้ง 2 อย่างสิ เช้าก็ตื่นแต่เช้า รีบซักผ้า หุงข้าว เสร็จแล้วค่อยมาวัด เพราะรถที่จะมาวัดนี้ก็ได้จัดไว้ตั้งหลายจุดด้วยกันนะ แต่ละจุดคันสุดท้ายก็ออกสายหน่อย ไปดูจัดสรรแบ่งเวลาให้ดี จะได้บุญหลายๆ ประเภทนะ         คุณแม่พูดว่าการที่คนเราละทิ้งครอบครัวไปวัด จะไม่ได้บุญหรอก ดิฉันชวนคุณแม่มาวัด คุณแม่ไม่มา ที่แม่พูดจริงหรือเท็จอย่างไร?         ก็ขึ้นอยู่กับสภาพตัวเราเองนะ ถ้าสภาพบ้านเราย่ำแย่มาก อดตายแน่ๆ เลย ถ้ามาคลุกคลีอยู่ที่วัดทั้งวัน ในกรณีนี้ต้องหากินกันก่อนละ รอจนกว่าจะมีกินมีใช้ตามอัตภาพกันทั้งครอบครัวแล้ว พอจะวางงานได้ ก็ต้องแบ่งเวลามาวัดกันนะ อย่าไปกังวลเรื่อคำพูดของคุณแม่เลย ตรองเหตุผลด้วยตนเอง แล้วที่สำคัญอย่าไปเถียงท่านเข้าล่ะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ผู้ที่นอนหลับยากและตื่นง่ายเกิดจากกรรมอะไร

คำถาม: ผู้ที่นอนหลับยาก ตื่นง่ายเกิดจากกรรมอะไรครับ? คำตอบ: เกิดจากกรรมหลายอย่าง พวกนอนหลับยากแต่ตื่นง่าย แสดงว่ามีความกังวลมาก โบราณเวลาท่านให้พรลูกหลานที่มาขอพร ท่านมักพูดว่า “ลูกเอ๊ย นอนหลับให้ได้เงินหมื่น นอนตื่นให้ได้เงินแสน” ถ้าหลับๆ ตื่นๆ ล่ะครับ? “หลับๆ ตื่นๆ ก็หนี้เป็นหมื่นเป็นแสนซิลูก”         คนที่นอนไม่หลับ ก็แสดงว่ามันเครียด มันกังวล ความเครียด ความกังวลของคนนั้นเกิดได้หลายสาเหตุ อาจจะเครียด อาจจะกังวลเพราะเรื่องการทำมาหากิน บางคนไม่ใช่การทำมาหากิน แต่ว่าเครียดเรื่องลูกเรื่องหลาน เรื่องครอบครัว บางทีก็เรื่องสัพเพเหระต่างๆ         แต่โดยสรุปแล้ว คนที่นอนหลับยาก ตื่นง่าย คือคนที่ใจยังไม่เป็นสมาธิ เพราะฉะนั้นลงมือฝึกสมาธิเสียตั้งแต่วันนี้ แล้วอาการเหล่านั้นจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ปัญหารถติดแก้ไขอย่างไรดี

คำถาม: การจราจรติดขัดมากในกรุงเทพฯ ประเทศอื่นรถยนต์เขาก็มีกันตั้งมาก ทำไมเขาไม่มีปัญหารถติดมากๆ อย่างเรา? คำตอบ: การจราจรติดขัด เกิดจากการไม่ยอมลดราวาศอกให้กันและกัน และการไม่ยอมกัน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่เลี้ยงลูกไม่เป็น วิธีเลี้ยงลูกไม่ค่อยถูกต้อง         เอาง่ายๆ ถ้าลูกทะเลาะกันหรือลูกไม่ลงรอยกัน ถามว่าแม่จะห้ามไหม มีไม่กี่คนที่ไม่ห้าม ส่วนมากจะเข้าห้าม แล้วตัดสินลงโทษ ซึ่งบางทีก็ตัดสินพลาดไป ในทัศนะนี้ญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เขาบอกว่ายังไงเสียเด็กก็ไม่ตีกันจนถึงตายหรอก เพราะฉะนั้นถ้าลูกทะเลาะกันเขาจะไม่ห้าม เขาปล่อยให้เด็กหาวิธียุติปัญหากันเอง คนโตอาจจะเกรี้ยวกราดกับน้องมากไปหน่อย แต่คนเล็กก็ต้องมีวิธีการพูดเสียงอ่อยๆ ทำให้น่าเห็นใจ จนพี่ต้องยอม เรื่องมันก็จบ หรือถ้าพี่รังแกน้องมากเข้าน้องก็ไม่เล่นด้วย พี่ก็ต้องมาตามง้อน้อง ก็เป็นเรื่องที่เขาจะแก้ปัญหากันเอง ไม่ใช่พ่อแม่ลงมาเล่นบทบู๊เสียเอง         คนไทยไม่เป็นอย่างนั้น เรื่องก็เลยกลายเป็นว่าทุกครั้งที่คนไทยมีเรื่องก็ทะเลาะกันต้องมีบุคคลที่สามมาห้าม ถ้าถึงขั้นจลาจลในหลวงต้องทรงลงมาไกล่เกลี่ยให้เสมอ แล้วถ้าครั้งนั้นในหลวงทรงห้ามไม่ทันจะทำอย่างไรกัน?         นิสัยอีกอย่างของคนไทย คือความรักอิสระ คนไทยแม้ไปอยู่ต่างประเทศก็รวมตัวกันไม่ได้ เมื่อมีเรื่องขึ้นมาก็ไม่รู้จะไปหาผู้ใหญ่ที่ไหนมาไกล่เกลี่ย ไม่มีตัวประสาน ขณะที่ชนชาติอื่นบางชาติ แม้ไปอยู่ต่างประเทศ เขาก็สามารถรวมตัวกันได้แน่นแฟ้น เขาไม่ต้องการให้ใครอื่นมาประสาน เขาประสานตัวของเขาเอง วินัยระดับชาติก็เป็นผลมาจากวิธีการเลี้ยงลูกของเขา         ในที่ประชุม ฝรั่งเขาโต้เถียงกันแบบเอาเป็นเอาตาย พอออกจากที่ประชุมเรื่องก็จบ ญี่ปุ่นก็เหมือนกัน แม้จะไม่ถูกกันเป็นส่วนตัว แต่ในที่ทำงานเขาประชุมกันอย่างดี พอออกจากที่ประชุมปั๊บต่างคนต่างไป …

ปัญหารถติดแก้ไขอย่างไรดี Read More »

ทำอย่างไรจึงจะทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณได้

คำถาม: ดิฉันรู้สึกตัวว่ากว่าจะเติบโตมาจนกระทั่งถึงวันนี้ ต้องเป็นหนี้พระคุณของพ่อแม่ และผู้มีพระคุณอื่นๆ อีกมากมาย หลายท่าน อยากทราบว่าจะมีหนทางใดบ้าง ที่จะสามารถทดแทนพระคุณของท่านเหล่านั้นได้มากที่สุดคะ? คำตอบ: วิธีจะทดแทนคุณผู้มีพระคุณอย่างยิ่งของเรา เช่น คุณพ่อคุณแม่ ลุง ป้า น้า อา ที่ช่วยกันไกวเปลเห่กล่อมเรามาก็ดี ครูบาอาจารย์ที่ให้ความรู้แก่เราก็ดี เราจะแทนคุณท่านให้ได้สูงสุดแล้ว ไม่มีอะไรหรอก ที่จะเกินไปกว่าให้ท่านได้รู้ความจริงเกี่ยวกับโลกและชีวิตเป็นสัมมาทิฏฐิบุคคล แล้วดำเนินชีวิตไปในเส้นทางที่ถูกต้อง         เราต้องยอมรับว่าการดำเนินชีวิตทางโลก ไม่ว่าจะระมัดระวังอย่างไร มีอาชีพอะไร จะมีลักษณะที่เรียกว่า บุญปนบาประคนกันไปเสมอ แม้แต่พ่อแม่ของเรากว่าจะเลี้ยงพวกเราโตมาได้ ชีวิตของท่านก็อยู่ในลักษณะบุญปนบาปเช่นกัน เช่น วันนี้ลูกรักอยากจะกินปลาต้มยำ คุณแม่ก็ทุบหัวปลาเปรี้ยงเลย ฆ่าปลามาต้มยำให้ลูกกิน ลูกดีใจได้กินปลาต้มยำอร่อย แต่แม่แบกบาปไปแล้ว         ชีวิตทางโลกจะมีลักษณะบุญปนบาปกันอย่างนี้ ใครฉลาดก็เลือกทำสิ่งที่ได้บุญมากๆ บาปน้อยๆ ที่จะให้ไม่มีบาปปนบ้างเลย บางทีก็ยากเหมือนกัน และเนื่องจากผู้มีพระคุณเหล่านี้ยังไม่หมดกิเลส หลายครั้งที่ท่านทำบาปเพราะรักเรา ตายแล้วยังต้องไปเกิดตามกรรม เพราะฉะนั้นเราซึ่งเป็นลูก ก็ต้องหาทางปิดนรกให้ท่าน เช่น ถ้าท่านยังไม่เข้าวัดก็ต้องหาทางพาท่านเข้าวัด ถ้าท่านเข้าวัดแล้วแต่ยังไม่ได้ทำทาน ก็ต้องหาทางให้ท่านทำทาน ยังไม่รักษาศีล ก็ต้องหาทางให้ท่านรักษาศีล ถ้ายังไม่ได้เจริญภาวนาก็ต้องหาทางให้ท่านเจริญภาวนาให้จงได้         แล้วสุดยอดเลยคือ พยายามประคับประคองให้ท่านเหล่านั้นปฏิบัติธรรม …

ทำอย่างไรจึงจะทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณได้ Read More »

เมื่อญาติหรือคนที่เรารักป่วยหนักควรดูแลอย่างไร

คำถาม: เมื่อญาติหรือคนรักป่วยหนัก ควรดูแลอย่างไร? คำตอบ: การดูแลคนไข้ต้องแบ่งเป็น 2 เรื่องด้วยกัน คือ     1. ดูแลรักษาโรคทางกาย ทางนี้ต้องพยายามหาแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถดีที่สุด มาให้การดูแลรักษาให้เต็มที่ เท่าที่ฐานะและสภาพแวดล้อมจะอำนวยให้     2. ดูแลรักษาใจ คนใกล้ชิดจะต้องช่วยกันประคองรักษาใจของคนไข้ ให้ผ่องใสตลอดเวลา จะได้มีกำลังใจที่จะอยู่ผจญกับความร้ายแรงของโรค ไม่ท้อแท้ เบื่อหน่าย หรือสิ้นหวังในชีวิตเสียก่อน สิ่งที่ผู้ดูแลต้องทำเป็นการให้กำลังใจคนไข้ คือ คนใกล้ชิดจะต้องช่วยกันประคองรักษาใจของคนไข้ให้ผ่องใสตลอดเวลา คนใกล้ชิดจะต้องช่วยกันประคองรักษาใจของคนไข้ให้ผ่องใสตลอดเวลา         2.1 เรื่องร้อนใจใดๆ ต้องป้องกัน อย่าให้คนไข้ได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเสียหายของทรัพย์สิน เรื่องเดือดร้อนของลูกหลาน หรือเรื่องแสลงใจใดๆ ก็ตาม ต้องป้องกันให้เต็มที่         2.2 โน้มน้าวใจคนไข้ให้มีจิตใจแช่อิ่มอยู่ในบุญ ด้วยการเอ่ยถึงความดีที่คนไข้เคยทำไว้ เช่น พูดชวนให้นึกถึงบุญที่เคยบวชพระ เคยทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สร้างสาธารณประโยชน์ต่างๆ ตลอดจนบุญที่เคยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น         2.3 ชักจูงคนไข้ให้สร้างบุญกุศลใหม่ให้เต็มตามความสามารถของเขา ตั้งแต่ชวนให้ทำทาน เช่น ให้ตักบาตรเป็นประจำทุกวัน แม้คนไข้ลุกขึ้นมาไม่ได้ ก็อาจนิมนต์พระให้ไปรับบาตรถึงในบ้าน ในห้องนอน หรือถ้าไม่สะดวก อาจนำข้าวปลาอาหารนั้นมาให้คนไข้จบอธิษฐานก่อน แล้วให้คนใดคนหนึ่งไปใส่บาตรแทนก็ได้ เมื่อตักบาตรเสร็จก็มาบอกให้คนไข้ทราบด้วย จะได้เพิ่มความปลื้มปีติขึ้นอีกส่วนหนึ่ง         …

เมื่อญาติหรือคนที่เรารักป่วยหนักควรดูแลอย่างไร Read More »

ทำบุญแล้วไม่เห็นบุญจะส่งผลเลย มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก

คำถาม: หลวงพ่อคะ ดิฉันมาวัดเป็นประจำ อีกทั้งยังทำบุญให้ทานอยู่เสมอ แต่ความดีและผลบุญไม่เห็นส่งผลเลย มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก ที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไรคะ? คำตอบ: ถ้าตอบตามประสาพระ แล้วก็พูดตรงๆ ไม่เอาความไพเราะ ก็ต้องบอกว่าเพราะเรามันผิดเองพลาดเองตั้งแต่ว่า พระท่านสอนนักสอนหนาว่าอยู่คนเดียวไปเถอะจะสบาย ก็ไม่เชื่อ ดื้อไปมีสามีจนได้ ตอนจะมีก็ดูคนไม่เป็น ไปเลือกเอาคนขี้เหล้ามา มันก็ผิดซ้ำสองอย่างนี้แหละ         ถามว่าทำไมมีลูกสอนยาก? ตอบว่า ก็ไปคว้าเอาคนอย่างนั้นมาเป็นพ่อของลูก แล้วจะได้ลูกฉลาดมาจากไหน พ่อมันดื้อๆ ด้านๆ ใครห้ามก็ไม่ฟัง จนเป็นขี้เมาประจำตำบล แบบนี้ลูกจะไปไหนพ้น ก็ต้องดื้อเหมือนพ่อเหมือนแม่ คนที่ฉลาดหน่อยเมื่อพลาดไปแล้ว เขาจะรีบสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กอยู่ ถ้าขนาบไว้ตั้งแต่เริ่มรู้เดียงสา สอนไปขนาบไปเรื่อยๆ ดื้ออย่างไรก็พอเอาอยู่ แต่ถ้าปล่อยให้ดื้อจนโต จะยิ่งสอนยาก         ชีวิตการครองเรือนมันไม่ง่ายนัก ถ้าผิดตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งจบ ชีวิตก็จะเป็นอย่างนี้แหละ คุณผู้ที่ยังโสดจำไว้นะ ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ไม่มีหรอก ที่นั่งอยู่นั่นน่ะ เจ้าชู้ทั้งนั้นแหละ ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ไม่ขี้เหล้าหายาก เพราะฉะนั้นอยู่คนเดียวไปเถอะ สบายดี         ปัญหาของคุณโยม ถ้าอธิบายตามกฎแห่งกรรมก็ต้องบอกว่า การได้คู่ชีวิตขี้เหล้านั้นเป็นเพราะในอดีตชาติ เราเคยอนุโมทนาบาปเอาไว้ เห็นคนกินเหล้าก็ไม่ห้ามปราม กลับหากับแกล้มเหล้าอร่อยๆ …

ทำบุญแล้วไม่เห็นบุญจะส่งผลเลย มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก Read More »

จะบาปหรือไม่ถ้าลูกเกลียดพ่อ

คำถาม: พ่อชอบเอาเปรียบแม่ไม่ห่วงใยลูก เอาแต่ใจตนเอง หวังแต่ความสุขสบายส่วนตัว เวลาตกอับ ก็ปล่อยให้แม่แต่เพียงผู้เดียว ต้องดิ้นรนค้าขายเลี้ยงดูลูก ส่วนตนสุขสบาย อยู่ที่บ้าน เจ้าชู้กับคนรับใช้ในบ้าน ลูกจะบาปหรือไม่ ถ้าลูกเกลียดพ่อ? คำตอบ: พ่อที่ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ ท่านก็มีความผิดเป็นของท่านอยู่แล้ว ยิ่งเอาแต่ความสุขความสบาย ไปเจ้าชู้กับคนรับใช้ในบ้าน นี่ก็ผิดศีลกาเมฯ เข้าไปอีก ท่านบาปเต็มตัวของท่านอยู่แล้ว ส่วนที่ท่านมีเรื่องกับแม่ จะทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน ก็เป็นเรื่องระหว่างท่านกับแม่ของเราเท่านั้น         สำหรับเรา หลวงพ่ออยากจะฝากนะ เวลาเรามองคุณพ่อมองคุณแม่ ขอให้มองอย่างนี้ สัตว์โลกเวลาจะเกิด มีความจำเป็นต้องมีต้นแบบ สมมติก็แล้วกันว่า เรามีก้อนดินเหนียว ถ้าเราได้แบบพิมพ์เป็นรูปถ้วย เอาก้อนดินเหนียวอัดเข้าไปในแบบพิมพ์ เราก็ได้ถ้วยมาใช้ ถ้าได้แบบพิมพ์เป็นชาม เราก็ได้ชามมาใช้ มีแบบพิมพ์เป็นตุ๊กตา เอาดินอัดเข้าไปในแบบพิมพ์ตุ๊กตา เราก็ได้ตุ๊กตาไว้ดูเล่น ถ้าเราได้แบบพิมพ์ที่เป็นพระพุทธรูป เอาดินเหนียวอัดเข้าไปในแบบพิมพ์พระพุทธรูปเราก็ได้พระพุทธรูปมากราบไหว้บูชา ดินเหนียวก้อนเดียวกัน เมื่อได้แบบพิมพ์ไม่เหมือนกัน ดินก้อนนั้นก็มีค่าไม่เท่ากัน ถ้าไม่มีแบบเลย ดินก้อนนั้นก็เป็นแค่ดินเละๆ ยิ่งไม่มีค่าอะไรเลย         คนเราจะมาเกิดก็ต้องมีต้นแบบ ถ้าได้ต้นแบบพ่อแม่เป็นวัวเป็นควาย ลูกมาเกิดก็ต้องเป็นวัวเป็นควาย ถ้าต้นแบบพ่อแม่เป็นลิง ลูกก็เป็นลิง ถ้าต้นแบบเป็นคน ลูกก็เป็นคน ถามตัวเองก็แล้วกันว่า …

จะบาปหรือไม่ถ้าลูกเกลียดพ่อ Read More »

พ่อแม่เข้าข้างลูกเมื่อลูกทำผิด จะมีผลเสียมากน้อยเพียงใด?

คำถาม: พ่อแม่เข้าข้างลูกเมื่อลูกทำผิด จะมีผลเสียมากน้อยเพียงใด? คำตอบ: พ่อแม่ที่เข้าข้างลูกเมื่อลูกทำผิด ได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างความหายนะให้แก่ลูกอย่างที่สุด โดยทั่วไปแล้วคนเราจะดำเนินชีวิตตามความเห็นของตนเอง ความสำเร็จหรือความผิดพลาดของชีวิต ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเห็น ผู้ที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างดีที่สุด ต้องมีความเห็นที่ถูกต้อง ลูกจะดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง พ่อแม่ต้องสอนลูกให้ซาบซึ้งแก่ใจว่า ลูกทำดี ลูกจะได้รับผลดีตอบแทนเสมอ แต่ถ้าลูกทำชั่ว ลูกจะต้องเป็นผู้รับผลของความชั่วนั้นอย่างไม่มีวันหลีกเลี่ยงได้         เมื่อลูกทำผิดหรือทำชั่ว ถ้าพ่อแม่เข้าข้างลูกเสียแล้ว ก็ขอให้รู้เถอะว่า พ่อแม่เองนั่นแหละ คือผู้สร้างความหลงเข้าใจผิดให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ปูทางชีวิตที่ผิดให้ จนกระทั่งลูกหลงผิดคิดไปว่า “ทำชั่วได้ดีมีถมไป ทำดีได้ดีมีที่ไหน” ลูกย่อมมุ่งแต่จะทำชั่วเรื่อยไป ชาตินี้ทั้งชาติไม่มีวันได้สร้างความดี ชีวิตของลูกจะมีแต่ความผิดพลาด สร้างแต่ความเดือดร้อนให้เกิดขึ้น เพราะความเห็นผิดที่พ่อแม่ปลูกฝังไว้ให้ตั้งแต่เล็ก         ครั้นเมื่อตายลง ทุคติ คือนรกก็จะเป็นที่ไป ถามว่าใครล่ะ ที่เป็นผู้ชี้ทางนรกให้ลูก? ดังนั้น พ่อแม่ทั้งหลายต้องตระหนักถึงโทษของการเข้าข้างลูก เมื่อลูกทำผิด อย่าคิดว่ารักลูกแล้วต้องตามใจลูกตลอดเวลา จนไม่คำนึงถึงโทษที่จะเกิดขึ้น ถ้าลูกทำผิดพ่อแม่ต้องว่ากล่าวตักเตือน ถ้าไม่เชื่อฟังก็ต้องลงโทษ อย่าให้ท้ายลูก ยอมให้ลูกเจ็บเสียแต่ตอนนี้ ดีกว่าให้ชีวิตของลูกเจ็บปวดเดือดร้อนไปตลอดชีวิต ลูกบางคนอาจได้รับความเจ็บปวด เดือดร้อนข้ามภพข้ามชาติไปทีเดียวนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง …

พ่อแม่เข้าข้างลูกเมื่อลูกทำผิด จะมีผลเสียมากน้อยเพียงใด? Read More »

คุณพ่อกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวันจะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าได้อย่างไร

คำถาม: คุณพ่อผมกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวัน จะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าอย่างไรดีครับ? คำตอบ: ถ้าเป็นคนอื่นยังพูดง่าย เป็นพ่อนี่พูดยากที่สุด พอเอ่ยปากพูดไม่ทันจบ ก็ถูกห้ามเสียแล้ว “อย่าพูดๆ ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย” หลวงพ่อเคยโดนห้ามทำนองนี้มาแล้ว ขนาดบวชแล้วเทศน์ให้คนอื่นเลิกเหล้าเลิกบุหรี่มาได้มากมาย กลับบ้านไปเทศน์ให้โยมพ่อเลิกเหล้า พูดเรื่องนี้ทีไร โดนคำพูดแบบศอกกลับมาทุกที         “โยมพ่อ..เลิกเหล้าเถอะนะสุขภาพจะได้ดีขึ้น เอาเวลาไปนั่งสมาธิดีกว่า” ตอนนั้นโยมพ่ออายุ 70 กว่าปีแล้ว ก็ตั้งใจจะให้ท่านสวดมนต์ภาวนานั่งสมาธิ กำหนดองค์พระ หรือดวงแก้วให้ใจผ่องใส พอเทศน์จบท่านตอบกลับมาอย่างนี้ “ดีเหมือนกันนะท่าน โยมจะนั่งสมาธิตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่นั่งไปกินเหล้าไป พร้อมๆ กับนั่งสมาธิ เวลานึกถึงดวงแก้วมันคงจะชัดดี”         ท่านพูดมาอย่างนั้นแล้วเราจะไปว่าอย่างไร พูดแรงไป เดี๋ยวแบกบาปอีกเพราะว่าเป็นพ่อ ครั้นไม่เตือนเลย เราก็จะไม่ได้แทนคุณท่าน กระอึกกระอักอยู่หลายปีกว่าจะแก้ตก หลวงพ่อต้องใช้กุศโลบายแก้เป็นเปลาะๆ ไป เริ่มตั้งแต่บอกโยมแม่ว่าอย่าซื้อเหล้าให้โยมพ่อกิน เมื่อท่านเคี่ยวเข็ญโยมแม่ไม่ได้ ก็หันไปทางพี่สาว หลวงพ่อก็บอกโยมพี่อีกว่า อย่าซื้อเหล้าให้โยมพ่อกินนะ พอใช้ลูกไม่ได้ ท่านก็ไปใช้หลาน         หลวงพ่อก็ต้องกำชับหลานว่าอย่าซื้อเหล้าให้ตานะ พอหลานไม่ซื้อท่านก็บ่น บ่นยังไม่พอ ด่าอีกด้วย หลวงพ่อก็บอกหลานให้ทนๆ เอา ให้เห็นแก่หลวงน้า ท่านไปเคี่ยวเข็ญแม้กระทั่งเหลนอายุ 7-8 …

คุณพ่อกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวันจะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าได้อย่างไร Read More »

ธรรมะข้อโสรัจจะนี้สามารถช่วยปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้หรือไม่

คำถาม: ลูกรู้ตัวว่าลูกไม่มีโสรัจจะ คือเวลาปรนนิบัติคุณแม่ที่ป่วยนานๆ จิตใจมักเศร้าหมอง เบื่อด้วย รำคาญด้วย เพราะคุณแม่ทั้งบ่นทั้งจู้จี้สารพัดเลย แต่เนื่องจากปฏิบัติต่อท่านอย่างดีตลอดเวลา ท่านคงไม่รู้หรอกว่า ในใจลูกนั้นเบื่อ แสนจะเบื่อ ลูกจะเอาธรรมะข้อโสรัจจะนี้ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นจะได้ไหม หรือว่าหลวงพ่อมีข้อแนะนำอะไรอีกบ้างคะ? คำตอบ: โสรัจจะ แปลว่า “ความเสงี่ยม” การปรนนิบัติดูแลคุณพ่อคุณแม่เวลาท่านเจ็บป่วยด้วยความเสงี่ยมงามนี้ได้บุญติดตัวมากนะ พ่อแม่ได้ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ของลูก เราดูแลท่านก็เหมือนดูแลพระอรหันต์นั่นแหละ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณท่านอย่างหนึ่ง นอกจากนั้นระหว่างดูแลท่าน จะทำให้เราได้ข้อคิดมากมาย         เพราะฉะนั้นเบื่อแสนเบื่อก็ควรทำ ระหว่างนั้น ควรจะตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่ไม่ดีของท่านคือข้อเตือนใจของเรา ยกตัวอย่างเช่น ท่านจู้จี้ขี้บ่น เราอย่ามองท่านว่าจู้จี้ขี้บ่น ถ้ามองอย่างนั้นไม่ได้อะไร เราควรมองว่าท่านเคยทำผิดศีลข้อไหน หรือท่านขาดคุณธรรมข้อไหน จึงได้มาจู้จี้ขี้บ่นอย่างนี้ สาวให้รู้ต้นเหตุให้ได้         ถามว่ารู้แล้วจะได้อะไร? ได้มากเลย ได้ข้อเตือนใจตัวเองว่าเราจะไม่ทำอย่างนั้น ถ้าไม่หัดสังเกต และป้องกันตัวไว้ก่อน พอเราอายุมากเหมือนคุณแม่ เราก็จะจู้จี้ขี้บ่นเหมือนกับท่านอีกคน         นับแต่นี้ไปให้ปรับปรุงแง่คิดมุมมองของเราเสียใหม่ เห็นความไม่น่ารักของท่านข้อไหนบ้างให้จดเอาไว้ แล้วมาถามหลวงพ่อ ถ้าสาวไม่ออกว่า ท่านก่อกรรมทำเข็ญเรื่องอะไร หลวงพ่อจะชี้ให้ดูเป็นฉากๆ ไป ถ้าเข้าใจกันอย่างนี้แล้ว เราจะได้ป้องกันตัวเองถูกต้องตั้งแต่ตอนยังไม่แก่ว่า ความไม่ดีอย่างนั้นๆ เราจะไม่ทำ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ได้รับหน้าที่พยาบาลคุณพ่อคุณแม่ ขอให้คิดอย่างนี้ …

ธรรมะข้อโสรัจจะนี้สามารถช่วยปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้หรือไม่ Read More »

หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดที่กรุงเทพบ้างหรอคะ

คำถาม: บ้านของอิฉันเป็นร้านค้าอยู่แถวถนนเยาวราช หลวงพ่อนึกภาพออกใช่ไหมคะว่ามันยุ่งทั้งวันทั้งคืน อิฉันมาวัดกับหลานชายสองครั้ง เห็นวัดสงบเงียบดีก็ชอบใจ แต่จะมาบ่อยๆ ก็ไม่ได้เพราะไกล หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดในกรุงเทพฯ บ้างหรือคะ อิฉันมาวัดกับหลานชายสองครั้ง เห็นวัดสงบเงียบดีก็ชอบใจ แต่จะมาบ่อยๆ ก็ไม่ได้เพราะไกล หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดในกรุงเทพฯ บ้างหรือคะ อิฉันยินดีออกเงินช่วยซื้อที่ดินให้  คำตอบ: ขอบคุณต่อข้อเสนอของคุณโยมจริงๆ แต่อยากให้มาช่วยหลวงพ่อสร้างวัดพระธรรมกายให้เสร็จเร็วๆ เสียก่อนดีกว่า แถวบ้านยุ่งนักคุณโยมเองก็แก่แล้วน่าจะย้ายมาอยู่ข้างๆ วัด จะได้อยู่อย่างสงบ มาวัดสะดวกๆ ทำอย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้อย่างไร

คำถาม: พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีความรับผิดชอบได้อย่างไร? คำตอบ: ก่อนอื่นพ่อแม่ต้องเป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดู คือเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ไม่ทอดทิ้ง ไม่ปล่อยปละละเลยลูก ทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดีให้สมบูรณ์ สร้างฐานะของครอบครัวให้มั่นคง และฝึกลูกตั้งแต่ยังเล็ก ให้รู้จักช่วยตัวเอง รู้จักรับผิดชอบในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ต้องสอนให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่จะอยู่กับลูกตลอดไปนั้นเป็นไปไม่ได้ ลูกต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเอง         การฝึกลูกให้เป็นคนมีความรับผิดชอบอาจทำได้ โดยมอบหมายหน้าที่ที่เหมาะสมกับวัยให้ลูกทำ เช่น ให้รับผิดชอบหน้าที่กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ช่วยงานแม่ในครัว หรือช่วยงานพ่อในสนาม เช่น ช่วยตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ ปลูกต้นไม้ ดูแลความสะอาดบริเวณบ้าน นอกจากรับผิดชอบงานส่วนรวมของบ้านแล้ว งานส่วนตัวก็ต้องสอนให้รับผิดชอบ ไม่ให้เป็นภาระแก่คนอื่น เช่นการดูแลเรื่องเสื้อผ้าของตนเอง เป็นต้น พ่อแม่ต้องฝึกลูกให้เป็นคนตรงต่อเวลา ให้เป็นคนมีระเบียบวินัย ในการกิน การเล่น ดูหนังสือ และนอนให้เป็นเวลา เพื่อลูกจะได้รู้จักบริหารเวลาเป็น ทำงานเป็น นิสัยตรงต่อเวลาจะได้เกิดขึ้นกับลูก         เมื่อมอบหมายหน้าที่ให้ลูกรับผิดชอบแล้ว พ่อแม่ต้องคอยสอดส่องดูแล สอนลูกให้ตระหนักในหน้าที่ของตัวเอง ถ้าลูกปล่อยปละละเลยก็ต้องตักเตือน หรือบางครั้งอาจต้องลงโทษ แต่ถ้าลูกรับผิดชอบในหน้าที่การงานได้ไม่บกพร่องเลย พ่อแม่ก็ควรชมเชยหรือให้รางวัลด้วย เพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป         นอกจากนั้นยังต้องฝึกลูกให้เป็นคนมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ …

พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้อย่างไร Read More »

พ่อแม่เป็นห่วงลูกมากเกินไปหรือไม่

คำถาม: หลวงพ่อครับ ผมและเพื่อนๆ ชอบเล่นสเก็ตน้ำแข็งมาก แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยยอมอนุญาต บอกว่าห่วง ผมไม่เห็นมีอะไรน่าห่วงเลยครับ? คำตอบ: ลูกพูดอย่างนี้ หลวงพ่อขอเป็นตัวแทนของลูก พูดไปถึงคุณพ่อคุณแม่ทางบ้านหน่อยนะ แล้วในเวลาเดียวกัน ก็จะเป็นตัวแทนของคุณพ่อคุณแม่ ตอบคำถามของลูกด้วยว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านห่วงทำไม หลวงพ่อจะทำตัวเป็นกลางที่สุดนะ ขอเป็นตัวแทนคุณพ่อคุณแม่อธิบายให้คุณลูกฟังก่อนว่าทำไมต้องห่วง ทำไมไม่อยากอนุญาตในเรื่องบางเรื่อง สิ่งที่อยากให้คุณลูกได้รับรู้ไว้มี 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ         เรื่องที่หนึ่ง การที่ลูกจะไปเล่นอะไรที่ไหนก็ตาม จะเป็นสเก็ตหรือสกีอะไรอีกก็ตามทีเถอะ การเที่ยวเล่นลักษณะนี้ที่แน่ๆ เลยคือ ค่าใช้จ่ายสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องควักกระเป๋าแน่นอน ถ้าอนุญาต ลูกลองคิดดูซิว่ามันคุ้มกันไหม คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยแทบตายกว่าจะหาเงินมาได้เป็นกอบเป็นกำ เสร็จแล้วเงินนั่นกลับกลายเป็นค่าความสนุกของเราไป เดี๋ยวนี้เงินทองก็ไม่ใช่หาง่ายๆ มันหายากนะ หรือแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณหนูจะมีฐานะดี เงินทองหาง่าย แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ขอให้ลูกๆ วัยรุ่นทั้งหลายมองเรื่องนี้ให้กว้างๆ จะได้เข้าใจหัวอกคุณแม่คุณพ่อว่าเป็นธรรมดาที่ท่านต้องคิดว่าท่านต้องแก่ ต้องตายจากลูกไปแน่ๆ จะช้าจะเร็วไม่รู้ อะไรที่จะเป็นสมบัติทิ้งไว้ให้ลูกทุกคนได้ ท่านก็ยินดีจะเก็บสมบัตินั้นไว้มากกว่าที่จะปล่อยให้มันละลายไป เพราะตามใจลูกเรื่องเที่ยว เรื่องเล่น         คุณหนูอาจจะแย้งว่า การเล่นสเก็ตน้ำแข็งเป็นการออกกำลังกาย ข้อนี้หลวงพ่อไม่เถียง แต่ว่าการออกกำลังกายนี่ ยังมีวิธีอื่นอีกตั้งมากที่จะทำให้ได้เรี่ยวแรง แล้วก็ได้สุขภาพพลานามัยดี ไม่น้อยหน้ากว่าเจ้าสเก็ตน้ำแข็งนี้ และวิธีนั้นก็ไม่ต้องใช้เงินอะไรเลย         …

พ่อแม่เป็นห่วงลูกมากเกินไปหรือไม่ Read More »

พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร?

คำถาม: พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร? คำตอบ: ลูกจะมีนิสัยประหยัดได้ พ่อแม่ต้องประหยัดเป็นแบบอย่างให้ลูกดูเสียก่อน การเพาะนิสัยประหยัดให้ลูก ทำได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก คือ         1. ฝึกลูกให้รู้จักคุณค่าของเงิน เมื่อลูกขอเงินต้องซักถามให้ละเอียดก่อนว่า จะเอาเงินนี้ไปทำอะไร มีความจำเป็นแค่ไหนจึงต้องใช้เงิน ถ้าลูกขอโดยไม่มีเหตุผล ก็ไม่ควรให้ ต้องชี้แจงให้ลูกทราบด้วยว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ให้ แม้ลูกจะไม่พอใจก็ต้องทำใจแข็งไว้ อย่าให้เงินลูกเพียงเพื่อตัดความรำคาญ อย่าให้ลูกมีความคิดว่าเงินได้มาอย่างง่ายๆ ต้องสอนให้ลูกรู้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อแม่หามาได้หมายถึงหยาดเหงื่อแรงกายของพ่อแม่ ลูกจะได้รู้คุณค่าของเงินและใช้เงินอย่างคุ้มค่า         2. ฝึกให้งดเว้นของฟุ่มเฟือย สิ่งใดที่เห็นว่าเป็นของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น พ่อแม่อย่าซื้อหาให้ลูก ถ้าขัดไม่ได้ ก็หาอย่างอื่นที่ราคาไม่แพง แต่ใช้ทดแทนกันได้มาให้ หาวิธีอธิบายให้ลูกรู้ว่าของดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ฝึกให้ลูกรู้จักใช้ของอย่างคุ้มค่า ให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ไม่ใช้ทิ้งๆ ขว้างๆ เมื่อของเสียหาย ต้องสอนให้รู้จักซ่อมแซมของนั้นด้วยตัวเอง         3. ฝึกให้ลูกรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สอนลูกให้รู้จักทำของใช้เอง เป็นการเสริมสร้างปัญญาให้ลูก โดยเฉพาะของเล่น ให้ลูกรู้จักประดิษฐ์ขึ้นเอง หรือประกอบจากชิ้นส่วนเอง ลูกจะได้รู้จักช่วยตัวเองเป็น และมีความภาคภูมิใจในความสำเร็จ มีกำลังใจสูงขึ้น นอกจากนั้น ควรฝึกให้ลูกรู้จักวิธีตัดทอนงบประมาณค่าใช้จ่ายของลูกเองเพื่อลูกจะได้รู้จักวิธีอดออม และรู้จักทำงานให้ได้เงินด้วยตัวเอง         4. ฝึกลูกให้รู้จักเก็บออมทรัพย์ หากระป๋องออมสินให้ลูกสำหรับเก็บเงินที่เหลือจากค่าขนม หรือค่าใช้จ่ายประจำ พาลูกหรือสอนลูกให้เอาเงินที่เก็บออมได้ไปฝากเข้าบัญชีในธนาคาร เมื่อลูกได้เงินพิเศษ จากญาติผู้ใหญ่ในวันสำคัญของลูก เช่น วันเกิด …

พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร? Read More »

หน้าที่ของลูกที่มีต่อพ่อแม่มีอะไรบ้าง

คำถาม: หน้าที่ของบุตรที่มีต่อบิดามารดา มีอะไรบ้างคะ? คำตอบ: พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณอย่างที่สุดของลูก นับตั้งแต่เป็นต้นแบบที่ดีของลูก คือเป็นผู้ให้รูปร่างมนุษย์ที่เหมาะสมในการสร้างความดีทุกรูปแบบ ดังนั้นแม้พ่อแม่จะไม่เลี้ยงดูบุตร ก็ได้ชื่อว่ามีพระคุณอยู่แล้ว และถ้าท่านเลี้ยงดู ทำหน้าที่ของพ่อแม่ดีที่สุดอย่างสมบูรณ์แบบ พระคุณของท่านก็จะยิ่งมากมายสุดจะนับจะประมาณได้         พ่อแม่เป็นผู้ให้อภัยแก่ลูกอยู่เสมอ ไม่ผูกโกรธ แม้จะดุด่าว่ากล่าวหรือเฆี่ยนตีลูกบ้าง ก็เป็นเพราะความรัก ความห่วงใย ต้องการสั่งสอนให้ลูกเป็นคนดี ทุกครั้งที่ไม้เรียวกระทบเนื้อลูก เชื่อเถอะว่ามันเหมือนมีมีดกรีดลงบนหัวใจของพ่อแม่ด้วย ในโลกนี้ไม่มีใครที่รักลูกเป็นมิตรแท้ต่อลูกเหมือนพ่อแม่ เพราะท่านคิดแต่จะให้เพียงอย่างเดียว ลูกๆ ไม่ต้องหวาดระแวงเลยว่าพ่อแม่จะทรยศหักหลังเหมือนคนอื่น         พระคุณของพ่อแม่มีมากมายเกินกว่าจะตอบแทนได้หมด ลูกที่ดีต้องสำนึกในพระคุณของพ่อแม่ให้เปี่ยมล้นในใจอยู่เสมอ ปฏิบัติต่อท่านให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ท่านเป็นพระในบ้าน หน้าที่ของลูกที่ควรปฏิบัติต่อพ่อแม่ กล่าวโดยย่อ คือ         1. คอยดูแลท่านให้ดี ตั้งแต่เรื่องอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ยามเจ็บป่วย ก็ช่วยพยาบาลรักษาให้ดีที่สุด ทำให้สม่ำเสมอตราบจนวาระสุดท้ายของท่าน         2. ประพฤติตนเป็นคนดี สร้างชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูล ให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ         3. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับการที่จะเป็นผู้รับมรดก         4. ทำกิจการงานแทนท่านไม่ให้บกพร่อง         5. ชักชวนหรืออำนวยความสะดวก สนับสนุนให้ท่านได้มีโอกาสทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา จะได้เป็นบุญติดตัวท่านไปในภพเบื้องหน้า เป็นการถากถางหนทางไปสู่พระนิพพานของท่านเอง หน้าที่นี้เป็นหน้าที่สำคัญที่สุดที่ลูกทุกคนต้องปฏิบัติต่อพ่อแม่ …

หน้าที่ของลูกที่มีต่อพ่อแม่มีอะไรบ้าง Read More »