หนังสือ คำสอนยาย

ไม่อยากเด่น  อยากดัง

    ยายเป็นคนที่ไม่ทะเยอทะยาน  ไม่อยากดัง  ไม่อยากเด่นอย่างคนอื่น ๆ เขา  เป็นนิสัยติดตัวมาอย่างนี้นานมากแล้ว มาอยู่วัดปากน้ำทำวิชชากับหลวงพ่อ  ก็เป็นคน เงียบ ๆ  พูดจาแต่เรื่องที่เป็นสาระ  อยู่ในที่ทำวิชชาก็ไม่ค่อยพูด  แต่เวลายายพูด  คนอื่นก็ต้องฟังกันทั้งหมด      เรื่องอื่น ๆ ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวกับเขา  แต่เรื่องวิชชาที่หลวงพ่อสั่งแล้ว  ใครทำผิดก็ต้องว่ากัน  อยู่ในที่ทำวิชชาก็พูดเฉพาะเรื่องทำวิชชา  นอกนั้นปกติไม่พูดอะไร  ทำหน้าที่ไปเรื่อย ๆ หลวงพ่อถามคำก็พูดคำ  ถามวิชชาก็ตอบเรื่องวิชชา  นอกนั้นไม่ได้เสนออะไรกับท่าน  มีเรื่องจึงจะพูด  มีหน้าที่ตอบหลวงพ่ออย่างเดียวยายไม่มีความทะเยอทะยานอย่างคนอื่นเขา       ถ้าอยากเด่นอยากดัง  ในที่สุดจะไม่ได้ดังสมอยาก  เพราะบุญทำไว้ไม่พอที่จะรองรับได้  เหมือนฐานไม่ดี ก็ต้องพัง โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

สั่งสมความดี

     คนเราเกิดมาแล้ว  ต้องสร้างความดี ยายสั่งสมความดีไว้ทีละเล็กละน้อย ทำไปเรื่อย ๆ  อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีความอยากเด่นอยากดังเข้ามาเจือปน เมื่อสั่งสมความดีนานเข้า  ความดีมากขึ้น ผลของความดีก็ปรากฏ  ได้ชื่นชมกับความดีที่ทำไว้ ความดีที่สั่งสมไว้นี้  ไม่มีใครจะปิดบังได้  ไม่อยากดัง ก็ดังเอง       คนทางโลก  ทำดีแล้วไม่เห็นผลก็บ่น จริง ๆ แล้ว เพิ่งจะทำความดีได้นิดเดียว ยังไม่มีผลก็บ่นแล้ว ยายสร้างความดีมาตลอด  จนกระทั่งเห็นผลปรากฏ  เมื่อนึกถึงการสร้างบารมีที่ผ่านมาทั้งหมด  ก็ปีติในบุญและชัยชนะที่สะอาดบริสุทธิ์ทุกครั้ง  ยายจึงไม่มีปมด้อยในใจเลย โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

ต้องมีความดีเป็นฐาน 

     คนที่ยังไม่มีความรู้ยังไม่มีความดี  แต่อยากดัง อยากมีชื่อเสียง อยากเป็นใหญ่ อย่างนี้ไปได้ไม่นานก็ตกกระป๋อง เพราะไม่มีฐานของความดีรองรับไว้ ยิ่งประกาศอย่างนี้  ยิ่งทำลายตัวเองเร็วขึ้น โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

ไม่อยากได้สมบัติใคร

    ยายเป็นคนสร้างวัด อาศัยบุญ  มีกิน  มีน้ำอาบ  มีที่อยู่ ไม่อยากได้สมบัติใคร ไม่ไปลักขโมยใคร ใครทำอะไรกับยาย ให้เขาแบกเอาไปให้หมด ยายจะไม่ทำให้ใครกระเทือนใจ โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

การคบคน

     การเลือกคบคนนั้นต้องเลือกคน บางคนคบได้นอกรั้ว บางคนคบในบ้านได้ คนไม่ดี  ไม่ควรคบ  เพราะเราอาจติดเชื้อเอาได้      ตอนแรกเราก็เห็นว่า  ไม่ดี  แต่ต่อ ๆ  ไปเมื่อเขาพูด กรอกหูเราบ่อย ๆ เข้า  เราก็จะเห็นว่า  ดี เหมือนคนสูบเฮโรอีน  ตอนแรกก็รู้ว่า  มันไม่ดี  ไม่ยอมสูบ  แต่พอโดนชวนบ่อย ๆ เข้าก็ลองนี่แหละเขาเรียกว่า  “ติดเชื้อ”  ล่ะ คบคนไม่ดีระวังจะติดเชื้อ  คือ  ติดเอาความวิบัติมา      ความวิบัติเหมือนกับเสนียด เราไม่รู้หรอกว่า  ติดเข้าไปตั้งแต่เมื่อไร เพราะสิ่งเหล่านี้ซึมซับเข้าไปทีละน้อย กว่าจะรู้ตัวก็ถอนไม่ออก โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

ดูคนให้เป็น

    เราต้องหัดดูคนให้เป็น ดูแต่เรื่องหมาจิ้งจอกกับราชสีห์  ชาติหมาจิ้งจอกมันกินขี้  เขาเอามาเลี้ยงจะให้เป็น ราชสีห์  มันก็ทำทีจะเป็นได้  แต่เวลามันเจอขี้  มันก็ลืม  มันไปกินขี้นั่นแหละ  เขาเรียกว่า  ไอ้ชาติหมาจิ้งจอก ยังไง ๆ มันก็ยังเป็นหมาจิ้งจอกอยู่วันยังค่ำ เพราะฉะนั้น เราต้องรู้ ต้องดูให้เป็นว่า ใครเป็นใคร ดูให้ละเอียดว่า  เป็นอะไรแน่ อย่างเรื่องราชสีห์กับหมาจิ้งจอกนั้นสันดานมันฟ้อง จะเป็นอะไรแน่  ต้องดูที่สันดานมัน โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

เอาหมู่คณะ

     ยายเป็นคนเอาหมู่คณะ เราต้องทำตัวให้เข้ากับทุกคน ไปไหน จะวางตัวเบ่ง ข้าก็แน่ จะไม่มีหมู่คณะ เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ก็จะไม่มีใครช่วย โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

รีบโกย รีบพาย 

     “ยังหนุ่มยังแน่น  รีบโกย  รีบพาย ตลาดจะวาย  สายบัวจะเน่า” เราต้องรีบโกย  รีบพายนะ  ใครจะพร่องก็ช่างเขา แต่สำหรับเราเองต้องให้สมบูรณ์ ภพชาติสุดท้ายแล้ว  ต้องเอาแต่สิ่งที่ดี ๆ  ติดตัว ไป  ไปคว้าธงชัยของชีวิตให้ได้  ที่จะให้ถอยหลังกลับไม่มีอีกแล้ว  มีแต่รุดหน้าไปเรื่อย ๆ      ที่ว่าภพชาติสุดท้าย  เพราะว่าก่อน ๆ  นั้นทำกัน จริงบ้าง  ไม่จริงบ้าง  แต่ภพชาตินี้ต้องจริงที่สุด  ไม่มีใครยอมใครแล้ว ฉะนั้นต้องอธิษฐานล้อมคอกไว้ให้ดี  ให้พบแต่สิ่ง ที่ดี ๆ  ตลอดไป  ให้ได้ประพฤติพรหมจรรย์ทุกภพทุกชาติ ตลอดอายุขัย  ตราบจนกระทั่งเข้าสู่พระนิพพาน คนไม่ดี  ไม่มีศีล  ไม่มีสัตย์  อย่าได้พบเลย ที่สุดในโลกเรานี้ก็มีแต่บุญและบาป  มีแต่ธาตุ กับธรรมเท่านั้น  ไม่มีอย่างอื่นเลย  มนุษย์เป็นเพียงหุ่นที่ถูกเชิดด้วยบุญและบาป โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

มนุษย์สัมพันธ์

     เราต้องเข้ากับคนให้ได้ เขาไม่พูดด้วย  เราก็พูดกับเขา เดี๋ยวเขาก็พูดกับเราเอง พวกที่หยิ่งคิดกันว่า พวกข้าก็แน่ กูก็แน่ พวกนี้อยู่คนละมุมโลกเลย เราต้องเข้ากับคนให้ได้ทุกชั้นทุกคน เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้พึ่งพาอาศัยเขาได้ โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

เหมือนหุ่นเชิด

     ยายนึกถึงความตาย จึงได้ทอดกฐิน  ทอดผ้าป่า ยายคิดว่า  เวลามันไม่รอ   เดี๋ยววัน  เดี๋ยวคืน  เดี๋ยวพรุ่ง  ไม่รู้จะตายเมื่อไร  ยายรีบ ๆ  ทำไว้เป็นบุญติดตัวไปคนเราตายไปแล้ว  เอาอะไรไปไม่ได้  เอาไปได้ก็แต่บุญกับบาป  คนเราเหมือนหุ่น  บุญบาปพาไป ทำบุญ  บุญก็เชิด ทำบาป  บาปก็เชิด โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

ไม่เกลียดใคร

     ยายไม่เกลียดใครเลย เพราะยายกลัวว่า ชาติต่อไปคนเขาจะมาเกลียดยาย ยายมองไกล ๆ ไม่ได้มองแค่สั้นๆ เฉพาะหน้า  เพราะฉะนั้น  ยายไม่เกลียดใคร ยายรักเขาทุกคน โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

อย่าปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์

     ชีวิตของคนเรามีแต่ร่อยหรอลงไปทุกวัน รีบทำความดีให้มาก ๆ อย่าปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ เสียดายเวลาที่ผ่านไป เพราะมันทำให้ชีวิตของเราพลอยร่อยหรอไปด้วย โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

แม้รู้ทัน  ก็นิ่งเสีย

     ยายนี่นะ  เหมือนมีญาณอยู่อย่างหนึ่ง  ถึงยายจะไม่รู้หนังสือ แต่ยายรู้เรื่องคน แล้วก็ทันคน แต่ยายไม่อยากพูด ถ้าไม่ทันคน ยายสร้างวัดไม่ได้หรอก แต่ยายคิดว่า พูดไปสองไพเบี้ย  นิ่งเสีย  (ได้)  ตำลึงทอง โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

เวลาไม่คอยใคร

     พวกที่ขี้เกียจ พวกนี้มันไม่มีปัญญาคิด ตื่นขึ้นมา  ต้องคิดสิว่า เดี๋ยวก็วัน  เดี๋ยวก็เดือน  เดี๋ยวก็ปี เวลาผ่านไปไม่รอ อยากทำความดีอะไร  ให้รีบทำ ให้ทำแต่ความดี ทำบุญก็โกยบุญ  เอาบุญไป ทำบาปก็แบกบาปไป โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่มา หนังสือคำสอนยาย

การรับแขก

  เรื่องรับแขกเป็นของยาก  จะต้องทำตัวให้ดี ถึงเราทำตัวดีแล้ว  ก็ต้องระวังรักษาความดีไว้อีก โดยเฉพาะเรื่องของธรรมะ แขกที่มาหา  บางคนมีแต่เรื่องมาให้แก้ไข มาปรับทุกข์ด้วย  นำเรื่องครอบครัวมาเล่าให้ฟัง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องดึงใจเราออกจากธรรมะ ออกจากศูนย์กลางกาย เราอยู่ทางธรรม ก็ต้องพูดเรื่องที่ดึงใจเขาเข้าหาธรรมะ      ถ้าเราคุยไม่ดี  ไม่มีสติ  จะถูกเขาดึงใจเราออกไป แต่ถ้าคุยดี  มีสติ  เราจะต้องค่อย ๆ ตะล่อมดึงใจ เขาเข้ามา  พูดง่าย ๆ  เหมือนเล่นชักเย่อกัน  ใครมีกำลัง มากก็ชนะ การรับแขก  ต้องระวังตัวไว้ให้ดีเพราะแขกมีหลายประเภท ที่สำคัญจะต้องทำตัวเราให้ดีก่อนจะต้องดูตัวเองให้เข้าใจ  ให้แจ่มแจ้งเสียก่อน  ถ้าเราเข้าใจตัวเราดีแล้วเราก็เข้าใจคนอื่นได้ที่เรียกว่า  รู้เขา  รู้เรา  รู้ทั้งหมดได้      พอรู้อย่างนี้แล้ว เราก็จะเข้าใจปัญหาที่เขามาพูด  มาคุยด้วยได้ ต้องทำใจให้อยู่ในบุญมาก ๆ  อยู่ในความเมตตา แล้วมองดูตัวเอง  ระลึกชาติของตัวเองในอดีต ดูในธรรมะระลึกไปเรื่อย ๆ ว่าเราสร้างบารมีมามากเท่าไร แล้วมองดูในปัจจุบันว่า เรามีความพยายามทำตัวเองให้บริสุทธิ์ได้มากแค่ไหน ดูด้วยว่า เราอยู่ในฐานะอย่างไร อยู่ในฐานะที่ต้องฉุดเขาขึ้นมาหรือไม่ คนนี้ฉุดได้  …

การรับแขก Read More »