มงคลที่ ๓๐ สนทนาธรรมตามกาล – แผ่นดินไหวด้วยมหาทานบารมี

มงคลที่ ๓๐ สนทนาธรรมตามกาล – แผ่นดินไหวด้วยมหาทานบารมี

โดยทั่วไป ถ้าคนเราไม่มีหลักธรรมเป็นที่พึ่งที่ยึดในการดำรงชีวิตแล้ว เมื่อประสบความทุกข์ พบกับอุปสรรค ก็จะเคว้งคว้างเหมือนว่าวที่ขาดล่องลอยไป ความทุกข์นั้นเปรียบเสมือนไฟ ซึ่งมีความกังวลเป็นเชื้อ ถ้าเรามีความทุกข์ อย่าไปกังวลว่าจะทุกข์อย่างไร หรืออุปสรรคจะมากมายเพียงใด เราไม่ควรขยายความทุกข์นั้น เพราะจะทำให้ไฟภายในเผาลนจิตใจจนไหม้เกรียม สรรพสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมาจากเหตุ ความดีหรือชั่วย่อมเป็นผลที่มาจากเหตุทั้งสิ้น ทำดีผลย่อมดีแน่นอน

ดังนั้น จึงควรทำแต่เหตุที่ดี โดยเริ่มต้นที่จิตใจก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งทำได้ด้วยการทำใจหยุดใจนิ่ง กระทั่งใจผ่องใส ก่อเกิดดวงปัญญาที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และกำจัดเหตุแห่งความทุกข์ทรมานให้หมดสิ้นไป

ใน มหาปรินิพพานสูตร ทีฆนิกาย มหาวรรค ได้บันทึกเหตุที่ทำให้แผ่นดินไหวไว้ว่า…

ประการแรก แผ่นดินใหญ่ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ สมัยที่ลมใหญ่พัด ย่อมทำน้ำให้ไหว ครั้นน้ำไหวแล้ว ย่อมทำให้แผ่นดินไหว
ประการที่๒ สมณะหรือพราหมณ์ผู้มีฤทธิ์ถึงความชำนาญทางจิต หรือเทวดา ผู้มีฤทธิ์มาก เจริญปฐวีสัญญาเล็กน้อย เจริญอาโปสัญญามาก ย่อมทำแผ่นดินให้ไหวได้
ประการที่๓ ในคราวที่พระโพธิสัตว์เคลื่อนจากดุสิต ก้าวลงสู่พระครรภ์พระมารดา
ประการที่๔ ในคราวประสูติ
ประการที่๕ ในคราวตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ประการที่๖ ในคราวที่ทรงแสดงธรรมครั้งแรก
ประการที่๗ ในคราวที่ทรงปลงอายุสังขาร
และประการสุดท้าย คือ ในคราวปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ

เมื่อนั้น แผ่นดินย่อมไหวสะเทือน
นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยทำให้แผ่นดินใหญ่ไหวได้

ปัจจุบันโลกของเราเกิดแผ่นดินไหวหลายแห่ง ตึกหลายชั้นและบ้านเรือนได้พังทลายลงมาทับผู้คนล้มตาย และได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์ได้วิจัยตามหลักทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ว่า บริเวณนั้นเป็นบริเวณที่ลาวาภายในโลกยังคุกรุ่นอยู่ ทำให้เกิดรอยแยก เป็นเส้นทางพาดผ่านของภูเขาไฟและพร้อมที่จะปะทุขึ้นมาทุกขณะ เป็นต้น

ซึ่งรายละเอียดหรือเหตุผลต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์นั้น หลวงพ่อจะไม่นำมากล่าวในที่นี้ เพียงแต่จะโยงเข้ามาหาหลักฐานที่เป็นปรากฏการณ์แผ่นดินไหว ในทางพระพุทธศาสนาว่า นอกจากเกิดจากสาเหตุทั้ง ๘ประการข้างต้น หรือสาเหตุที่เป็นสมมติฐานในทางวิทยาศาสตร์ ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แผ่นดินไหว คือ การบริจาคมหาทานอย่างอุกฤษฏ์ของพระเวสสันดรถึง ๗ครั้ง

เหตุผลในทางพุทธศาสนา ดูเหมือนจะไม่ตรงกัน คือ ความเป็นจริงเกี่ยวกับแผ่นดินใหญ่ไหว ระหว่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า สาเหตุของแผ่นดินใหญ่ไหวมี ๘ประการ กับแผ่นดินใหญ่ไหว เพราะอำนาจการบริจาคมหาทานของพระเวสสันดรถึง ๗ ครั้งนั้น จะเป็นอย่างไร เรามาศึกษาให้เข้าใจแจ่มกระจ่างกันต่อไป

*เรื่องนี้ พระเจ้ามิลินท์ได้ตรัสถามพระนาคเสนว่า “ข้าแต่พระนาคเสน พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า เหตุปัจจัยที่จะทำให้แผ่นดินใหญ่ไหวมี ๘ประการเท่านั้น ถ้าคำนี้เป็นจริง คำที่ว่า แผ่นดินไหวถึง ๗ครั้ง ด้วยมหาทานของพระเวสสันดรนั้นก็ผิด เพราะการให้ทานไม่นับเป็นเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งในเหตุ ๘อย่าง ที่ทำให้แผ่นดินใหญ่ไหว เพราะฉะนั้นปัญหาข้อนี้ จึงเป็นอุภโตโกฏิ มี ๒มุม เป็นปัญหาละเอียด แต่ปัญหานี้ได้มาถึงพระคุณเจ้าผู้มีจักษุญาณแล้ว ผู้อื่นนอกจากพระคุณเจ้า ไม่อาจแก้ได้ ขอได้โปรดวิสัชนาให้กระจ่างด้วยเถิด”

พระเถรเจ้าตอบว่า “ขอถวายพระพร คำทั้งสองเป็นจริงทั้งนั้น ในโลกนี้มีเมฆอยู่เพียง ๓ฤดู คือ ฤดูฝน ฤดูหนาว ฤดูร้อน เท่านั้น ถ้าเมฆอื่นนอกจาก ๓ฤดูนั้นจะทำให้ฝนตกลงมา เมฆนั้นก็ไม่นับเข้ากับเมฆที่คนทั้งหลายรู้กัน เรียกว่า อกาลเมฆ ในทำนองเดียวกัน การที่แผ่นดินใหญ่ไหวถึง ๗ครั้ง ด้วยอำนาจมหาทานของพระเวสสันดร ก็เป็น อกาลกัมปนัง คือ แผ่นดินไหวนอกจากเหตุ ๘ประการดังกล่าวข้างต้น”

คำชี้แจงของพระนาคเสน ผู้เรืองปัญญายังไม่จบลงเพียงเท่านี้ ท่านยังอุปมาต่อไปเพื่อความกระจ่างยิ่งๆขึ้นไปว่า “ขอถวายพระพร มหาบพิตรได้เคยทรงสดับหรือไม่ว่า ผู้ที่ทำบุญในพระพุทธศาสนานี้แล้ว ได้รับผลบุญเห็นทันตา มีกิตติศัพท์ลือชาปรากฏไปในเทพยดาและมนุษย์”

เมื่อพระเจ้ามิลินท์ยอมรับว่าเคยได้ยินว่า มีอยู่ ๗คน คือ

นายสุมนมาลาการ
พราหมณ์เอกสาฎก
ลูกจ้างชื่อว่านายปุณณะ
พระนางมัลลิกาเทวี
พระนางโคปาลมาตาเทวี
นางสุปิยาอุบาสิกา
และ นางปุณณทาสี

พระเถระได้ทูลอธิบายว่า “ขอถวายพระพร มหาบพิตรได้เคยทรงสดับหรือไม่ว่า ผู้มีชื่อเช่นนี้ ให้ทานอยู่ในอดีตกาลหรือในปัจจุบันกาล ทำให้แผ่นดินใหญ่นี้ไหวครั้งหนึ่ง สองครั้ง หรือสามครั้ง”
“ไม่เคยได้ยินได้ฟังเลยพระคุณเจ้า”

พระเถระผู้ยอดเยี่ยมด้วยปฏิภาณจึงตอบว่า “ขอถวายพระพร อาตมภาพก็ไม่เคยได้ยินได้ฟังว่า เมื่อผู้อื่นให้ทาน ได้เกิดแผ่นดินไหวเพียงครั้งเดียว หรือสองครั้ง สามครั้ง นอกจากการให้ทานของพระเวสสันดรเท่านั้น…

ขอถวายพระพร ในระหว่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒พระองค์ คือ พระสักยมุนีพุทธเจ้า กับ พระกัสสปพุทธเจ้า…นั้น ล่วงมาแล้วหลายโกฏิปี ในระหว่างนั้น ก็ไม่เคยได้ยินได้ฟังเลย ถึงตรวจตราดูก็ไม่เห็นว่า ผู้อื่นให้ทานทำให้แผ่นดินไหว…

แผ่นดินอันใหญ่หนักด้วยของหนัก คือ คุณความดีของบุคคล จนไม่อาจรับไว้ได้ จึงสะเทือนสะท้านหวั่นไหว มหาบพิตร เกวียนที่บรรทุกหนักเกินไป จนดุมเกวียน กำเกวียน กงเกวียน รับไม่ไหว เพลาเกวียนก็หัก ฉันใด แผ่นดินใหญ่ก็หนักด้วยคุณความดีของบุคคล จนไม่อาจรับไว้ได้ จึงไหว ฉันนั้น…

อีกอย่างหนึ่ง ท้องฟ้าอันปกคลุมด้วยก้อนเมฆ หนักด้วยก้อนเมฆ มีลมพัดแรงเกินไป ย่อมมีเสียงดังกึกก้อง ฉันใด แผ่นดินใหญ่เมื่อไม่อาจทรงของหนัก คือ ความไพบูลย์แห่งกำลังทานของพระเวสสันดร แผ่นดินจึงไหว ฉันนั้น เพราะพระหฤทัยของพระเวสสันดรนั้น ไม่ได้ทำทานด้วยอำนาจ ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฐิ กิเลส ความโกรธ หรือความริษยา แต่ทำด้วยอำนาจแห่งทานอย่างเดียวเท่านั้น คือ พระเวสสันดรคิดอยู่ว่า พวกยาจกที่ยังไม่มาก็ขอให้มา ที่มาแล้วก็ขอให้ได้ตามความประสงค์ ได้แล้วขอให้มาอีก…

รัตนชาติหรือแก้วชนิดต่างๆ ที่เป็นของมนุษย์ ไม่อาจสู้แก้วมณีของพระเจ้าจักรพรรดิได้ แก้วมณีของพระเจ้าจักรพรรดิแผ่รัศมีไปข้างละ ๑โยชน์โดยรอบ ฉันใด ทานที่มีอยู่ทั้งสิ้น มีอสทิสทานเป็นอย่างเยี่ยม ย่อมสู้มหาทานของพระเวสสันดรไม่ได้ ฉันนั้น พระเวสสันดรไม่ได้ทรงให้ทาน เพราะปรารถนาภพหรือทรัพย์ ไม่หวังลาภ ยศ สรรเสริญ มุ่งแต่พระสัพพัญญุตญาณเท่านั้น…

ขณะที่ท่านให้ทาน ลมใหญ่ภายใต้ก็ไหว ทำให้น้ำที่อยู่บนลมไหวตาม เป็นไปตามลำดับขึ้นมาจนถึงแผ่นดินใหญ่ เมื่อพระเวสสันดรทรงบำเพ็ญมหาทาน แผ่นดินใหญ่จึงไหวถึง ๗ครั้ง เป็นการอนุโมทนาในมหาทานบารมีของท่าน”

พระเจ้ามิลินท์ได้สดับคำวิสัชนาแล้ว ทรงปลาบปลื้มตรัสชมเชยว่า “ข้าแต่พระนาคเสน ปัญหาที่ลี้ลับลึกซึ้ง พระคุณเจ้าได้คลี่คลายขยายออกแล้ว ได้ทำให้ตื้นแล้ว ได้ทำลายข้อที่ฟั่นเฟือนได้สิ้นแล้ว ข้าพเจ้าขออนุโมทนา”

เราจะเห็นว่า หลักคำสอนในทางพุทธศาสนานั้น มีความเป็นเหตุเป็นผลกันเสมอ และเชื่อมโยงกันไปเป็นลูกโซ่ ไม่ขัดแย้งกัน โดยเริ่มต้นจากง่ายไปหายาก จากหยาบไปหาละเอียด หรือจากเนื้อหาธรรมะที่เข้าใจได้ง่าย ไปสู่เนื้อหาธรรมะที่คัมภีรภาพ ที่สุขุมลุ่มลึกยิ่งๆขึ้นไป

เพราะฉะนั้น การศึกษาธรรมะให้แตกฉาน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักสร้างบารมี เราจะได้ช่วยกันเป็นทนายแก้ต่างให้พระศาสนา ให้หมั่นปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน จะได้เป็นพยานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันทุกคน

*มิลินทปัญหา (ฉบับปุ้ย แสงฉาย) หน้า ๑๗๔

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/4465
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับมงคลชีวิต ๕

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *