อย่ามองข้ามการปฏิสันถาร (พระเถระให้การต้อนรับปฏิสันถารโจรที่ตั้งใจมาปล้น ทำให้โจรเลื่อมใสปวารณารักษาวัด)

อย่ามองข้ามการปฏิสันถาร (พระเถระให้การต้อนรับปฏิสันถารโจรที่ตั้งใจมาปล้น ทำให้โจรเลื่อมใสปวารณารักษาวัด)

ชีวิตสมัยใหม่ดำเนินไปอย่างเร่งรีบฉับไว แต่ไม่ว่าจะเร่งให้เร็วเพียงใดก็ไม่เคยทันใจมนุษย์ เพราะคนส่วนใหญ่ใจร้อน ดูเหมือนจะรู้ว่าเวลาเป็นของมีค่า แต่กลับใช้เวลาอย่างไม่คุ้มค่า ปล่อยให้หมดไปกับสิ่งที่ไม่เป็นสาระ บางครั้งการยอมสูญเสียเวลาอันมีค่า เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดี หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานอันประณีตสมบูรณ์ เช่นการปฏิบัติธรรมของเราก็เป็นไปเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต แม้บางครั้งต้องใช้เวลาบ้าง แต่ผลการปฏิบัติที่ได้มา ย่อมคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป หากเราทำอย่างถูกวิธี มีความพากเพียรสม่ำเสมอไม่ช้าเราจะต้องเข้าถึงธรรมอย่างแน่นอน ขอให้เราทำอย่างมีความสุข แล้วเราจะรู้สึกว่าเราไม่ได้สูญเสียเวลาอันมีค่าไป ตรงกันข้ามเวลาแห่งใจหยุดใจนิ่ง กลับทำให้ชีวิตเรามีคุณค่ายิ่งขึ้น แม้ชีวิตในวันนี้ เราต้องก้าวไปอย่างฉับไว แต่ใจของเรายังคงหยุดนิ่งอยู่กับสิ่งที่ดีที่สุด คือพระรัตนตรัยในตัวนั่นเอง

มีวาระพระบาลีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน สักกัจจสูตร ความว่า

“ดูก่อนสารีบุตร ภิกษุเคารพในพระศาสดา จักไม่เคารพในพระธรรม ข้อนี้ ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ภิกษุเคารพในพระศาสดา ชื่อว่าเคารพในธรรมด้วย ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท จักไม่เคารพในปฏิสันถาร ข้อนี้ ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท ชื่อว่าเคารพในปฏิสันถารด้วย”

ความเคารพ คือความตระหนักซาบซึ้ง รู้ถึงคุณความดีที่มีอยู่จริงของบุคคลอื่น ยอมรับนับถือความดีของเขาด้วยใจจริง แล้วแสดงความนับถือต่อผู้นั้น ด้วยการแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนทั้งต่อหน้าและลับหลัง ความเคารพนั้นเป็นคุณธรรมที่สำคัญของบัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลาย เป็นทางมาแห่งความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต สิ่งที่ควรเคารพอย่างแรกคือเคารพในพระพุทธเจ้า ถ้าเรามีความเคารพต่อพระพุทธองค์แล้ว ความเคารพในพระธรรมคำสอนของพระองค์ย่อมเกิดขึ้นตามมา และจะเกิดความเคารพศรัทธาในพระสงฆ์สาวกผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ และเมื่อได้ศึกษาในศีล สมาธิ และปัญญาแล้ว ความเคารพในการศึกษา และความไม่ประมาทก็จะบังเกิดขึ้นตามมาเป็นลำดับ

เมื่อเกิดความเคารพในทุกอย่างข้างต้นแล้ว ความเคารพในการปฏิสันถารจะเกิดขึ้นโดยง่ายดาย คุณธรรม ๗ ประการนี้ นอกจากส่งผลดีให้ตนเองแล้ว ยังได้ชื่อว่า ดำรงพระพุทธศาสนาไว้ด้วย ดังที่พระบรมศาสดาตรัสกับพระกิมมิละ เรื่องมีอยู่ว่า

* สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่พระวิหารเวฬุวัน ใกล้เมืองกิมมิลา ครั้งนั้น ท่าน พระกิมมิละ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว ได้ทูลถามว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระสัทธรรมไม่ตั้งอยู่นาน ในเมื่อพระตถาคตเสด็จปรินิพพานไปแล้ว” พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “ดูก่อนกิมมิละ เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในพระธรรมวินัยนี้ จะเป็นผู้ไม่เคารพ ไม่ยำเกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท ในการปฏิสันถาร ดูก่อนกิมมิละ นี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระสัทธรรมไม่ตั้งอยู่นาน”

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้นาน ในเมื่อพระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้ว” พระบรมศาสดาจึงตรัสตอบว่า “เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีความเคารพ มีความยำเกรงในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท ในการปฏิสันถาร นี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้นาน”

เราจะเห็นได้ว่า ความเคารพนั้นสำคัญเพียงใด พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้แล้ว และครั้งนี้จะได้กล่าวถึงอานิสงส์ในการปฏิสันถาร เนื่องจากการต้อนรับปฏิสันถารเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าผู้มาเยือนจะเป็นใคร มาด้วยวัตถุประสงค์ใด หรือในสถานการณ์ใดก็ตาม หากเราให้การต้อนรับอย่างชาญฉลาด ถือว่าเราสามารถชนะใจคนตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว การต้อนรับด้วยอัธยาศัยอันดีงาม ไม่เพียงแต่เป็นการให้เกียรติแก่ผู้มาเยือนเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความสูงส่งแห่งจิตใจของผู้ที่ให้การต้อนรับอีกด้วย นอกจากนี้บรรยากาศอันน่าชื่นใจในการต้อนรับ ยังสามารถปิดช่องว่าง ข้อผิดพลาดบกพร่องต่างๆ และยังสามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้อีกด้วย

ครั้งหนึ่ง พระเถระแห่งคีรีวิหารได้ให้การต้อนรับปฏิสันถารที่ดี ทำให้สามารถพลิกสถานการณ์อันเลวร้ายให้กลายเป็นดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในสมัยก่อน ประเทศศรีลังกาเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง เกิดความเดือดร้อนทุกหนทุกแห่ง และเกิดมีโจรอยู่ก๊กหนึ่ง คอยดักปล้นจี้ตีชิงข้าวของเงินทอง จนชาวบ้านหวาดกลัว พากันหนีไปอยู่เมืองอนุราธบุรี ทั้งยังไม่กล้าไปกราบไหว้พระเจดีย์ที่คีรีวิหารอย่างที่เคยปฏิบัติกันมา เพราะกลัวภัยจากโจร

วันหนึ่ง พวกโจรเห็นว่า เมื่อไม่สามารถปล้นชาวบ้านได้ เพราะไม่มีใครกล้าผ่านมา ทำให้พวกโจรอดอยาก จึงได้ชักชวนกันไปปล้นวัดคีรีวิหาร เมื่อคนรักษาวัดเห็นโจรยกพวกมา จึงรีบไปกราบเรียนพระเถระ พระเถระถามคนรักษาวัดว่า เรามีข้าวสารอาหารแห้ง เนื้อ ปลา นม เนยหรือไม่ คนรักษาวัดตอบว่า มีแต่ของที่จะถวายสงฆ์เท่านั้น พระเถระจึงสั่งให้นำของเหล่านั้นไปหุงต้มเลี้ยงดูโจร ทั้งกำชับว่า ให้ต้อนรับโจรเหล่านั้นด้วยมารยาทอันดี

เมื่อโจรเหล่านั้นมาถึง พวกเขามิได้คาดคิดว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดีถึงเพียงนี้ เพราะเคยได้รับแต่ความเกลียดชังตลอดมา โจรสมัยก่อนเป็นโจรมีคุณธรรม มีสัจจะ มีความกตัญญู อันที่จริง ทุกคนต่างก็อยากเป็นคนดีกันทั้งนั้น แต่ที่หลงไปทำความชั่ว เพราะไม่รู้ว่าอย่างไรเรียกว่า ความดี จึงปฏิบัติไม่ถูก ทำไปตามอำนาจกิเลส หรือยังมีกำลังใจไม่พอที่จะเอาชนะกิเลส และเป็นเพราะสังคมสิ่งแวดล้อมเหตุการณ์บังคับให้ทำไปอย่างนั้น เป็นต้น

พวกโจรรู้สึกแปลกใจในการต้อนรับนั้น จึงถามคนรักษาวัดว่า “ทำไมต้อนรับพวกเราอย่างดีเช่นนี้” คนรักษาวัดจึงตอบว่า “พระเถรเจ้าอาวาสของเรา เป็นผู้มีความเมตตากับทุกๆคน ท่านเห็นคุณค่าของชีวิตมนุษย์ ให้เกียรติต่อทุกคนด้วยการต้อนรับปฏิสันถารมิได้ขาดแก่ทุกๆ คนอยู่เสมอ” โจรทั้งหลายได้ฟังเช่นนั้น จึงพากันไปกราบพระเถระแล้วกล่าวว่า “ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ พวกผมมาในครั้งนี้ตั้งใจว่าจะมาปล้นวัดของท่าน แต่นี่กลับได้รับการต้อนรับจากท่านเป็นอย่างดี พวกผมซาบซึ้งใจ และเลื่อมใสในการต้อนรับของท่านเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีใครดีต่อพวกผมอย่างนี้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกผมขอรับอาสาเป็นผู้รักษาวัด ไม่ให้มีอันตราย ขอพระคุณเจ้าจงป่าวประกาศให้ชาวบ้านมากราบไหว้พระเจดีย์ได้ตามปกติเถิด”

นับแต่นั้นมา ชาวบ้านต่างพากันมาทำบุญถวายทานที่วัดเช่นเดิม โดยมีพวกโจรคอยต้อนรับที่ริมฝั่งแม่น้ำ พาชาวบ้านข้ามฝั่งไปสู่วิหาร เพื่อให้ทำบุญกุศล และกราบไหว้พระเจดีย์ได้ดั่งใจปรารถนา หลังจากชาวบ้านถวายทานแด่พระสงฆ์แล้ว ของที่เหลือก็เก็บไว้ให้โจรกลับใจเหล่านั้น ครั้นถึงเวลากลับ พวกโจรซึ่งเป็นฝ่ายปฏิสันถารก็จะตามไปส่ง โดยให้การอารักขาเป็นอย่างดี ทำให้ชาวบ้านทั้งหลายพากันมาทำบุญให้ทานอย่างต่อเนื่องตลอดมา

ภายหลัง พระภิกษุผู้ไม่รู้ได้ทักท้วงขึ้นว่า พระเถระประพฤติไม่ถูกต้อง นำเอาของสงฆ์ไปให้พวกโจร เมื่อมีความสงสัยเกิดขึ้น พระเถระไม่ได้เดือดร้อนใจแต่อย่างใด เพราะท่านคิดว่าได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าอาวาสทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่เพื่อเป็นการให้เกิดความสามัคคี และความเข้าใจอันดีต่อกัน และเพื่อเป็นประโยชน์แก่พระภิกษุที่บวชเข้ามาใหม่ ที่มีสติปัญญาตรองตามไม่ทัน ท่านจึงเรียกให้มีการประชุมพระภิกษุทั้งวัด เพื่อถามผู้ดูแลวัดถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ใช้ไป แล้วให้รวมราคามูลค่าว่ามีเท่าไร เมื่อรวมแล้วปรากฏว่า มีมูลค่าไม่ถึงแม้ค่าผ้าที่ปูลาดในพระวิหาร ท่านชี้แจงว่า ถ้าเราไม่ให้การต้อนรับปฏิสันถารเช่นนี้แล้ว เราอาจต้องสูญเสียข้าวของที่มีมูลค่ามหาศาลทั้งหมดในวัดไปก็ได้ เมื่อท่านอธิบายชี้แจงแล้ว พระภิกษุต่างก็เข้าใจ และชื่นชมอนุโมทนาสาธุการในสติปัญญาของท่าน

เราจะเห็นว่าการต้อนรับ ด้วยการแสดงน้ำใจไมตรีอย่างจริงใจ สามารถเปลี่ยนใจโจรร้ายให้กลายเป็นคนดีได้ และสามารถชี้หนทางสว่างให้กลับใจมาทำความดี อีกทั้งมองเห็นคุณงามความดีในตนเอง จนกระทั่งเลิกทำบาปอกุศลอีกต่อไป สมกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยกย่องการต้อนรับปฏิสันถารอันดีว่า เป็นเหตุแห่งความสุข ความเจริญอย่างแท้จริง

ดังนั้น ทุกครั้งที่เราให้การต้อนรับ ให้คิดว่า เรากำลังจะเอาบุญใหญ่ ด้วยการแสดงน้ำใจของพระโพธิสัตว์ สงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และชาวโลกทั้งหลาย โดยเปิดใจให้กว้าง พร้อมที่จะเผื่อแผ่แบ่งปันความสุขให้กับทุกๆ คน ประดุจเอากุญแจวิเศษ แห่งการต้อนรับนี้ ไขประตูใจของผู้ที่มาเยือนให้ได้รับความสุขความปรารถนาดีจากเรา เมื่อเราเริ่มต้นด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่นและจริงใจ ความสุขความประทับใจย่อมเกิดขึ้น เขาจะเกิดความเลื่อมใส และพร้อมที่จะรองรับความดีทุกอย่าง กระทั่งรองรับธรรมะภายในที่จะเกิดขึ้น เมื่อเวลาแห่งการต้อนรับมาถึง เมื่อนั้น เราคือผู้ถือกุญแจวิเศษที่จะเปิดประตูสวรรค์และนิพพานให้กับทุกๆคน เราต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์มากที่สุดต่อผู้มีบุญที่เข้ามาเยือน และเปิดใจเขาให้ได้รับรสแห่งพระธรรมกลับไปทุกครั้ง แล้วเราจะมีความปลื้มปีติใจเป็นรางวัลของชีวิต ตราบถึงวาระสุดท้ายของการสร้างความดีในเมืองมนุษย์

* มก. เล่ม ๓๖ หน้า ๖๓๕

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/16492
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับสารธรรม ๓

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *