หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย

อ่านหนังสือผ้าสีสุดท้ายในรูปแบบ EBook ที่นี่

๖ คิดไกล มองไกล

ชีวิตชาวโลกไม่มีอะไร ถ้าลูกเณรอยู่ในวัยนี้ อดทนอดกลั้นต่อความสนุกสนานในทางโลก เอาชนะการปวดกามได้ จะเป็นวัยที่สร้างบารมีได้ดีที่สุด เพราะเป็นวัยที่แข็งแรง วัยนี้นั่งสมาธิไม่ค่อยปวดเมื่อย สร้างบารมีก็เต็มที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อทรงมอบราชสมบัติให้พระราหุล พระองค์ก็มอบเพศสามเณรให้เป็นเพศสุดท้าย เป็นภาพสุดท้ายของชีวิตมนุษย์ที่เวียนว่ายตายเกิด เพราะฉะนั้นลูกเณรต้องพยายามรักษาสถานะนี้ให้ได้ ต้องเอาชนะมันให้ได้ ทั้งความกำหนัดยินดีในกาม ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ความสะดวกสบาย ความอยากเป็นนั่นเป็นนี่ เพราะความรู้สึกว่าเราขาดแคลนทรัพย์ ขาดแคลนลาภ ยศ สรรเสริญ คนยกย่องชื่นชม ถ้าเมื่อไรเรารู้สึกขาดแคลน เมื่อนั้นเรายังยากจนอยู่ แต่เมื่อไรเรามีความรู้สึกว่า ไม่ต้องการอะไรเลย ต้องการแค่ปัจจัย ๔ อันควรแก่สมณบริโภค มีอาหารพอเลี้ยงสังขาร มีจีวรไม่กี่ผืนไว้ปกปิดร่างกายป้องกันความละอาย ไว้ให้ความอบอุ่น ป้องกันลม แดด ฝน สัตว์ร้ายต่างๆ มีที่อาศัยเล็กๆ จะได้ไม่ต้องดูแลมาก จะได้มีเวลาทำสมาธิภาวนาได้เต็มที่ มีหยูกยาพอจะรักษาสังขารซึ่งมีความเจ็บเป็นธรรมดา ให้ร่างกายพอทนที่จะสืบอายุต่อไปเพื่อการบำเพ็ญสมณธรรม ถ้าหากว่า ใครมีอยู่แค่นี้แล้วรู้สึกว่าเต็มเปี่ยม ไม่ได้ขาดแคลนอะไรเลย รู้สึกสดชื่นเบิกบาน อย่างนี้ถึงจะเรียกว่า ไม่จน ไม่ขาดแคลน สามารถเป็นอยู่ได้ด้วยตัวของเราเอง จะเป็นผู้ใกล้ต่อหนทางพระนิพพาน ใกล้ต่อที่สุดแห่งธรรม เป็นผู้ควรแก่การเคารพสักการบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย หลวงพ่ออยากให้ลูกเณรเป็นอย่างนี้จังเลย วัยที่เหมือนดอกไม้บานในยามเช้า กำลังสดชื่นแข็งแรง …

๖ คิดไกล มองไกล Read More »

ทุกสิ่งในโลก…เป็นไปได้

ชาวโลกส่วนใหญ่กว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ จะมีคำอยู่คำหนึ่งติดอยู่ในใจคือคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ทุกอย่างในโลกเป็นไปไม่ได้ พอบอกจะทำอย่างนี้ก็บอก “เป็นไปไม่ได้” จะทำอย่างนั้น ไม่ได้ บอก.. “ไม่ได้” ก่อนเลย แต่เชื่อไหม ในขณะที่ชาวโลกมีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ยังมีคนอีกจำนวน ๑ เปอร์เซ็นต์ของโลกที่เชื่อว่า “มันเป็นไปได้” ทุกอย่างในโลกนี้ถ้าเราอยากจะทำต้องเป็นไปได้ อยากเป็นธรรมกาย เป็นได้ อยากเป็นอะไรก็เป็นได้ทั้งนั้น และโดยเฉพาะสิ่งใดก็ตามที่ศึกษาค้นคว้ามาเพื่อประโยชน์สุขแก่ชาวโลก แม้มีอุปสรรคยิ่งใหญ่ไพศาลแค่ไหนก็ตาม หลวงพ่อว่า สิ่งนั้นเป็นไปได้ ดูอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติขึ้นมาเพื่อตรัสรู้ เพราะพระองค์ทรงเชื่อว่า คนเราสามารถที่จะแสวงหาทางพ้นทุกข์ได้ ซึ่งในขณะนั้นทั่วโลกไม่มีความคิดชนิดนี้ แต่พระองค์เชื่อว่าเป็นไปได้ ทางแห่งความพ้นทุกข์ ทางแห่งความดับทุกข์จะต้องมีอยู่ จึงได้เสด็จออกจากพระราชวังเพื่อไปแสวงหาทางพ้นทุกข์ แล้วในที่สุดพระองค์ก็ทรงค้นพบและตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โรเบิร์ต กอดดาร์ด บิดาแห่งวิทยาการจรวด ชาวอเมริกัน เขาเชื่อว่าจะมีจรวดวิ่งไปในอากาศได้ ในขณะที่โลกทั้งโลกไม่มีใครเชื่อ และความเชื่อของคนคนหนึ่งนี้เอง จึงทำให้มีจรวดเกิดขึ้นได้ จากความเชื่ออันเป็นจุดเริ่มต้น ก็เกิดการทดลองอย่างง่ายๆ ครั้งแรกไปได้นิดหน่อย ต่อมาก็มีการพัฒนาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็มีจรวดเกิดขึ้นมาได้ วิลเบอร์ และออร์วิล ไรท์ สองพี่น้องชาวอเมริกันเชื่อว่า …

ทุกสิ่งในโลก…เป็นไปได้ Read More »

๖-๑ มาตุคาม

หัดมองทุกเรื่องให้ครบวงจร อย่างเช่นเราเห็นผู้หญิงสวยอย่างนางงามจักรวาล ถ้าเราดูไม่ครบวงจร เราจะมีความกำหนัดยินดี อยากได้ อยากสัมผัส แต่ถ้ามองให้ครบวงจร มองตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย เดี๋ยวเกิด เดี๋ยวแก่ เดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวตาย มองทั้งข้างนอก มองทั้งข้างใน พลิกเอาอวัยวะภายใน ตับ ไต ไส้ พุง ออกมาข้างนอก ดูซิว่า เอาขึ้นไปประกวดบนเวที ใครเขาจะดูบ้าง หัดมองอย่างนี้นะลูกนะ วันหนึ่ง ขณะหลวงพ่อกำลังรับแขก อยู่ๆ เขาก็เล่าถึง นางงามจักรวาล สวยอย่างนั้น สวยอย่างนี้ ชมใหญ่เลย หลวงพ่อปล่อยให้เขาเล่าไป เล่าเสร็จ เขาหันมาถาม หลวงพ่อพูดไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ แต่ได้ผลนะ ไม่ได้เรียกว่าพูด เรียกว่าโพล่งมากกว่า บอกเขาว่าอย่างไรรู้ไหม “แต่ขี้เหม็น” เขาบอกว่า “แหม…หลวงพ่อ” แล้วไม่เล่าอีกเลย โพล่งทีเดียวได้ผลชะงัดเลย ปกติหลวงพ่อไม่ใช้คำประเภทนี้ หลวงพ่อจะต้องหลบๆ เลี่ยงๆ มูลบ้าง อุจจาระบ้าง แต่วันนั้นพรวดไปเลย พูดถึงต้นกำเนิดภาษายังไม่ได้ปรุงแต่งกันไปเลยนะ คำเดียวหยุดเลย สมัยหนึ่งเวลารับแขก จะโดนคำถามอย่างนี้บ่อย …

๖-๑ มาตุคาม Read More »

สิ่งที่ชาวโลกขาดแคลน

หลวงพ่อบวชมาจนบัดนี้ ๒๗ พรรษาแล้ว ยังไม่เคยมีใครมาถามความรู้ในมหาวิทยาลัย จะเป็นดอกเตอร์ หรือใครก็ตามที่มากราบหลวงพ่อ ส่วนมากถามว่า ในตัวมีพระจริงหรือเปล่า สรณะอยู่ที่ไหน เข้าถึงได้อย่างไร ทำอย่างไรใจถึงจะหยุดนิ่ง บุญบาปมีจริงไหม นรกสวรรค์มีจริงไหม อะไรต่างๆ เหล่านี้มากมายเลย แต่ไม่เคยมีใครมาถามว่า รัฐศาสตร์เป็นอย่างไร เศรษฐศาสตร์เป็นอย่างไร ศาสตร์กี่ศาสตร์ไม่เคยถาม ถามแต่พุทธศาสตร์ หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านรวบรวมเขียนตำราไว้เล่มหนึ่งชื่อ “คู่มือสมภาร” ท่านวางแนวทางเอาไว้ว่า สมภารทุกวัดจะต้องมีความรู้ทรงอภิญญา แล้วถ่ายทอดให้ลูกวัด ลูกวัดก็ถ่ายทอดให้ญาติโยมต่อๆ กันไป สอนเรื่องความดี ความชั่ว เรื่องศีลธรรม จะสอนกี่ยุคกี่สมัยก็ทันสมัยเสมอ ความกตัญญูเมื่อพันปีที่แล้ว กับความกตัญญูในปีนี้ หรืออีกพันปีข้างหน้าก็เหมือนกัน ใครๆ ก็ต้องการให้ลูกมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ หรือฆราวาสธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางแนวทางเอาไว้สอนฆราวาส มุ่งสอนจากคดีโลกสู่คดีธรรม การฝึกฝนตนเองเพื่อมุ่งถึงจุดแห่งการหลุดพ้น นี่เป็นหน้าที่ของพระ คือทำหน้าที่เป็นครูสอนศีลธรรมให้แก่ชาวโลก ชาวโลกเขาอยากเห็นเนื้อนาบุญที่สามารถบอกเขาได้ว่า ทำบุญอย่างนี้แล้วจะได้อานิสงส์อะไร ตายแล้วจะไปไหน เป็นอยู่อย่างไร เขาอยากรู้ตรงนี้นะ ตรงนี้ต่างหากคือจุดที่โลกขาดแคลน หลวงพ่ออยากให้ลูกหลวงพ่อทุกรูปทุ่มเทชีวิตจิตใจมุ่งที่จะศึกษาความรู้ตรงนี้ ที่สามารถแนะนำชาวโลกได้ว่า ที่พึ่ง ที่แท้จริงของมนุษย์นั้นอยู่ที่ไหน เข้าถึงได้อย่างไร และอะไรคือเป้าหมายของชีวิต …

สิ่งที่ชาวโลกขาดแคลน Read More »

๗-๑ เหมือนขว้างความสุข…ไปข้างหน้า

หลวงพ่อนั่งคุยกับเศรษฐี อย่านึกว่าเศรษฐีเขามีความสุขนะ เศรษฐีคุ้นกับการลงทุน เหมือนนักมวยต้องต่อยมวย นักลงทุนต้องลงทุน ได้โครงการนี้มาอิ่มใจได้หน่อยเดียว ทนไม่ไหวต้องเอาไปลงทุนใหม่อีกแล้ว เขาจะกลัวอยู่อย่างคือ กลัวเงินอยู่เฉยๆ เม็ดเงินแต่ละเม็ด ถ้าลงไปแล้วต้องมีเม็ดเงินงอกต่อมา เพราะฉะนั้นสิ่งอะไรที่มองไม่เห็นเป็นรูปธรรม เป็นเม็ดเงินขึ้นมา เขาไม่เอา พอลงทุนไปแล้วไม่ใช่ว่าหมูนะ เมื่อขยายงาน ก็ต้องขยายทีม พอขยายทีมก็ต้องขยายทุน ขยายทุนก็ขยายที่ ขยายที่ก็ต้องขยายดอก ขยายดอกขยายปัญหา ขยายปัญหาขยายความเครียด ขยายความกดดันไปเรื่อยๆ เป็นอย่างนี้จนหมดเวลาของชีวิต หลวงพ่อคุยกับเศรษฐีทีไรเห็นเขากลุ้มใจทุกที หลวงพ่อเคยถามมหาเศรษฐีว่า หาเงินเยอะๆ ไปทำไม แปลกจัง เขาตอบไม่ค่อยได้ แต่ถ้าถามว่าหาเงินอย่างไร ตอบเก่งมาก คล่องมาก แต่พูดไปก็บ่นไป กลุ้มไป ดูปนทุกข์อย่างไรก็ไม่รู้ เหมือนขว้างความสุขไปข้างหน้า ในที่สุดก็หมดเวลากันไป ไม่ได้อะไร เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว มีเศรษฐีระดับหมื่นล้านบอกกับหลวงพ่อว่า ให้แก่ๆ ก่อน แล้วจะเข้าวัดปฏิบัติธรรม ตอนนี้ตายไปแล้ว ไม่รู้ว่าแก่หรือยัง ยังไม่ทันได้นั่งสมาธิเลย ชีวิตมันก็แค่นี้ แป๊บเดียวเท่านั้นเอง หลวงพ่อก็เจออย่างนี้ มันสู้การศึกษาวิชชาธรรมกายไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าให้มีความคิดว่า จะสึกดีหรือจะอยู่ดี …

๗-๑ เหมือนขว้างความสุข…ไปข้างหน้า Read More »

๘ หลวงพ่อไม่อยากให้สึกเลย

หลวงพ่อไม่อยากให้ใครสึกเลยแม้แต่รูปเดียว อยากให้ศึกษาวิชชาธรรมกายกัน สึกออกไปอย่างมากก็ไปมีลูก มีเมีย ได้เลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ก็ได้แค่นั้น หลวงพ่อยังนึกไม่ออกว่า จะได้อะไร สุดท้ายก็หมดเวลาของชีวิต ไม่ได้อะไร พวกเราลูกๆ หลวงพ่อทุกรูปมีบุญมากนะ ที่ได้มีโอกาสศึกษาวิชชาธรรมกาย เพราะฉะนั้นอย่าคิดสึก ถ้าสึกควรเปลี่ยนเป็น “ศ” คิดศึกษาไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ทุ่มชีวิตศึกษาวิชชาธรรมกายไปเลย มีเท่าไรเรียนรู้ให้หมด ไม่หมดไม่เลิก ตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ ศึกษาต่ออีก คิดอย่างนี้สิ! อย่าไปคิดมีลูกมีเมีย ก็ได้แค่ลูกแค่เมีย ไม่วิเศษอะไรเลย หมู หมา กา ไก่ มันทำได้ ใครก็ทำได้ ออกไปข้างนอกเจอคนหาลูกหาเมียเยอะ ไม่หานี่สิยาก ศึกษาวิชชาธรรมกายนี่ยาก ทั้งมนุษย์และเทวดา เขาจะกราบไหว้ คอยติดตามคุ้มครองรักษาผู้ที่เข้าถึงวิชชาธรรมกาย ศึกษาวิชชาธรรมกาย หลวงพ่ออยากให้ลูกทุกรูปซาบซึ้งในวิชชาธรรมกายให้มากๆ พยายามทุ่มชีวิตศึกษา ฝึกฝนให้ชำนาญ อย่าเอาหัวใจไปไว้ที่อื่นนะจ๊ะ หลวงพ่อนั่งรับแขก หลายท่านบอกว่า สิ่งที่เขาอยากเป็นจริงๆ คือเป็นอย่างที่หลวงพ่อเป็น หรือเป็นอย่างพระอาจารย์ แต่ชีวิตตอนนี้เขาเลือกไม่ได้ เขาถูกเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว เหมือนมีเครื่องผูกหย่อนๆ ไว้ แต่จริงๆ เขาอยากเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นทุ่มหัวใจฝึกฝนกันนะ …

๘ หลวงพ่อไม่อยากให้สึกเลย Read More »

๙ ผ้าสีสุดท้าย ๒

เรามาถึงภาวะอันสูงสุดแล้ว เพศสุดท้ายของการเวียนว่ายตายเกิดคือเพศพระ อาชีพสุดท้ายของชีวิตในการเวียนว่ายตายเกิดก็อาชีพพระ คนจน คนรวย พระราชา มหากษัตริย์ พระเจ้าจักรพรรดิ ตอนสุดท้ายออกบวชหมด สวมเครื่องแบบชุดสุดท้ายในสังสารวัฏที่คงที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ชุดพระ ผ้าสีสุดท้าย สีทอง ไม่มีสีทองก็เอาสีใกล้ๆ ทอง หรือน้อยกว่าทองเรื่อยไป คือสีที่เทียบกับสิ่งที่มีคุณค่าและมูลค่าสูง เครื่องแบบชุดสุดท้าย ชุดที่มนุษย์และเทวดากราบไหว้ บูชา ยินดีต้อนรับ มีของก็อยากให้ ให้แล้วก็มีความสุข เครื่องแบบชุดสุดท้ายทันสมัยอยู่เสมอ ออกแบบครั้งเดียวใช้ชุดนี้มาสองพันกว่าปี ผู้ต้นคิดคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ออกแบบคือพระอานนท์ เป็นชุดที่จัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะผู้รู้เป็นคนจัด และไม่ใช่ว่าไปเจอสีนี้อยู่โคนไม้ หยิบเอามาห่มก็ไม่ได้ อย่างนั้นเขาเรียกว่า ห่อตัว ต้องมีพิธีกรรมสืบทอดกันยาวนานกว่าสองพันปี จึงจะได้ครองชุดนี้ได้ เพราะฉะนั้นควรภูมิใจในชุดนี้ให้ดี อย่าไปเปลี่ยนผ้า เปลี่ยนแปลงจิตใจดีกว่า ถ้าใครครองผ้าชุดนี้แล้ว แนะนำเขาไปเลย อย่าเปลี่ยนแปลงชุดเด็ดขาด เพราะเป็นชุดที่เหมือนพระธรรมกายในตัว เป็นชุดที่ทำให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ชุดหลากสี มีเงื่อนไขต้องทำมาหากิน มีพันธะของชีวิต มีเครื่องกังวล มีเครื่องผูกหย่อนๆ ผูกให้พัวพันตลอดเวลาเลย ไม่เป็นอิสระ ไม่มีเวลาว่างที่จะมาศึกษาธรรมปฏิบัติ แต่ชุดนี้ไม่มีพันธะของชีวิต …

๙ ผ้าสีสุดท้าย ๒ Read More »

๙-๑ ทรงผมทรงสุดท้าย

ทรงผมทรงสุดท้าย หลังจากจัดกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็คือทรงนี้ แต่ที่ยังจัดไม่เสร็จ เดี๋ยวสั้น เดี๋ยวยาว เดี๋ยวหยิก เดี๋ยวเหยียด เดี๋ยวปิดหน้า เดี๋ยวเปิดหน้า เดี๋ยวถักเปีย เดี๋ยวตัดเปีย สารพัดทรงอะไรก็ไม่รู้ นั่นยังจัดไม่เสร็จ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอีกนาน แต่ทรงนี้เดือนหนึ่งหวี ๒ ครั้งเท่านั้น หวีที่ไม่มีซี่ คมกริบ คือ มีดโกน นี่เป็นทรงผมทรงสุดท้ายในสังสารวัฏ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันพุธที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๙-๒ สภาพใจที่จะไปถึงที่สุดแห่งธรรม

สภาพใจที่จะไปถึงที่สุดแห่งธรรม ต้องเป็นสภาพใจที่ไร้กังวล ไม่ติดในคน สัตว์ สิ่งของ เยือกเย็นเป็นนิตย์ สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส มีความสุขตลอดกาล ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด มีความรู้สึกไม่ต้องการอะไรเลย แค่อาสนะ ๑ ผืน ที่นั่งแคบๆ ไม่เกิน ๑ ตารางเมตร ที่นอนไม่เกิน ๒ ตารางเมตร อาหารแค่กันตาย รสชาติไม่คำนึงถึง แล้วก็ไม่ยินดียินร้ายอะไร ไม่ว่าใครจะกระทุ้งกระแทกแค่ไหน ก็ไม่กระทบกระเทือน ใจนิ่งเฉย รู้สึกสดชื่นตลอดเวลา และเวลาเราดูอะไรก็สักแต่ว่าดู ไม่มีความรู้สึกพัวพัน ผูกพัน นั่นแหละเป็นสภาพใจที่เหมาะสมที่จะไปที่สุดแห่งธรรม โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันพุธที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๑๐ ภาพสุดท้าย

ถ้าจะเรียนวิชชาธรรมกายให้ดี ๕ ปีแรก ตั้งแต่วันที่เป็นนักบวช ต้องไม่ไปเกี่ยวข้องกับทางบ้าน คือ ต้องตัดขาดกันเลยจากหมู่ญาติ เพื่อนฝูง สิ่งภายนอก สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อต่างๆ ทั้งหมดเลย เพราะว่าเป็น ๕ ปีแห่งการฝึกฝน ใจเรายังไม่มั่นคง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดเอาไว้ พระนวกะต้อง ๕ ปี ไม่ควรให้กลับไปเยี่ยมโยม เพราะยังไม่มีอะไรไปโปรดโยม มีแต่โยมจะโปรดมากกว่า เดี๋ยวโยมก็เทศน์โน่นเทศน์นี่กลับคืนมาเสียอีก เพราะฉะนั้น ๕ ปีนี้ต้องอยู่ในความดูแลของพระอาจารย์ พระอุปัชฌาย์อาจารย์ แม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่ควรติดต่อ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันพุธที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๑๐-๑ สื่อ…อันตราย

ยุคนี้การทำธุรกิจต่างๆ มีการแข่งขันกันสูงมาก สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ ทีวี วิดีโอ วิทยุ หรืออะไรต่างๆ ผลิตออกมาต้องเอาใจตลาด ต้องขายให้ได้ เมื่อต้องแข่งขันกันในยุคที่กามกำเริบ เขาก็นำภาพที่ทำให้เกิดความร้อนอกร้อนใจ นำเรื่องของกามเดินหน้า เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ในขณะที่ลูกเณรยังอยู่ในวัยหนุ่ม ยังเป็นปุถุชนอยู่ มีเลือดมีเนื้อ มีความหิวกระหาย มีความอยากสารพัดอัดแน่นเต็มไปหมดในวัยนี้ เพราะฉะนั้นมันระเบิดง่าย ถ้าคลุกคลีกับสิ่งเหล่านี้ พอตาเห็นเข้า ใจมันจะคิดปรุงแต่ง กำลังนึกถึงองค์พระอยู่ดีๆ หลุดไปเลย ฟุ้งซ่านไปเลย เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ดี ๕ ปีนี้ต้องหลีกเลี่ยงจากสื่อเหล่านี้นะลูกนะ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันพุธที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๑๐-๒ ดอกไม้พระอริยะ

ดอกไม้พระอยู่ในป่าช้า ดอกไม้ชาวโลกอยู่ในแจกัน อยู่ในบาร์ในคลับ เขาดูแล้วสวย สบายใจ แต่ดอกไม้พระดูแล้วสบายใจ สดชื่น ต้องไปดูในป่าช้า เห็นซากศพ หนอน แมลง กำลังไต่ยั้วเยี้ยแทนแมลงภู่ เต็มไปหมดเลย ดูแล้วหายกลุ้ม คลายจากความกำหนัดยินดีต่างๆ กระทั่งได้บรรลุธรรม สมัยพุทธกาลเขาทำกันอย่างนี้นะ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันพุธที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๑๐-๓ ภาพสุดท้าย

พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ๓ สิ่งนี้ให้อยู่ในใจ ให้เป็นที่พึ่งยามว้าเหว่ ยามเหงา ซึม เครียด เบื่อ กลุ้ม และเป็นเครื่องระลึกนึกถึงตลอดเวลา นึกถึงท่านจะได้ชื่นอกชื่นใจ มีอยู่ ๓ สิ่งแค่นี้ที่ดีที่สุดในโลก ถ้าทั้งวันทั้งคืนลูกเณรมีพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ อยู่ในใจอย่างนี้ ไม่ช้าหรอก ไม่กี่วันจิตต้องละเอียดแล้ว พรึบเข้าไปสู่ภายใน สว่างโล่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์พระธรรมกาย เราเป็นพระ พระเป็นเรา เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ยิ่งกว่ารสเปรี้ยวในมะนาว รสหวานในน้ำตาล ตอนนี้อานุภาพจะเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็จะเห็น สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็จะรู้ สิ่งที่เคยสงสัยก็จะหายสงสัยไปตามขั้นตอน กว่าจะมาเป็นสามเณรนั่งต่อหน้าหลวงพ่อได้ เป็นกันมาแล้วสารพัด เป็นพระราชามหากษัตริย์ เศรษฐี มหาเศรษฐี ยาจก วนิพก เป็นมาหมด แต่ตอนสุดท้ายก็จะมาเป็นพระเป็นเณรเรื่อยมา ภาพพระ ภาพสุดท้ายของโลก หลังจากภาพสวมมงกุฎถือคทาว่าราชการ เหนื่อยแทบตาย จะถูกแย่งชิงราชสมบัติอยู่ตลอดเวลา กระทั่งมาเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี ผู้ครองเรือน รบกับลูกเมียสารพัด เดี๋ยวภาพเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเปรต เป็นอสุรกาย วนกันไปวนกันมา …

๑๐-๓ ภาพสุดท้าย Read More »

๑๑ ไกลวัด

พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้โอวาทพระภิกษุเปรียญธรรมประโยคสูง ที่มากราบลาเพื่อไปเข้าร่วมอบรมบาลีก่อนสอบสนามหลวง ร่วมกับพระภิกษุวัดอื่นๆ ที่วัดสร้อยทอง พระอารามหลวง เป็นเวลา ๑ เดือน ว่า ปีนี้หลวงพ่อหวังว่าจะได้ดังใจ คือลูกทุกรูปสามารถสอบบาลีสนามหลวงได้ยกชั้น ที่จริงการสอบธรรมวินัยของลูกทุกรูป หลวงพ่อว่าไม่น่าจะยาก เพราะเรารักเส้นทางนี้ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ มุ่งจะทำพระนิพพานให้แจ้ง และไป ที่สุดแห่งธรรม เราเรียนด้วยชีวิตเลือดเนื้อ ด้วยจิตวิญญาณและเยื่อในกระดูก เรียนเพื่อนำมาใช้จริงๆ เมื่อเราเรียนด้วยฉันทะเช่นนี้ หลวงพ่อเชื่อว่าเราทำได้ แม้เราจะมีภารกิจมากมาย ต้องสอนหนังสือ ต้องทำกิจกรรมร่วมกันก็ดี ส่วนกิจวัตรคือ การสวดมนต์ไหว้พระ ทำภาวนา นั่นเป็นอาชีพของเราอยู่แล้ว หลวงพ่อว่า การเรียนและการสอบให้ได้ยกชั้นอยู่ในวิสัยที่ลูกหลวงพ่อทุกรูปจะทำได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราให้โอกาสกับตัวเราเองศึกษาเต็มที่แค่ไหน โดยภูมิปัญญา กำลังบารมี ประกอบกับความเพียรของพวกเราทุกรูปอยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ ไม่ยากเย็นอะไร การศึกษาพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเรียนเพื่อนำมาใช้ทดสอบตนเองว่าเรียนรู้ได้แค่ไหน เพื่อที่จะนำความรู้นั้นมาสอนตัวเอง ให้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการบวช ต่อไป..วัตถุประสงค์ของการศึกษาพระธรรมวินัยจะเปลี่ยนไปทั่วสังฆมณฑล จากที่เรียนไปเพราะว่าจำต้องเรียน บวชมาแล้วไม่รู้ไปไหน เขาให้เรียนก็ต้องเรียน ไม่เรียนก็อยู่วัดไม่ได้ หรือเรียนรู้ในระดับหนึ่งเพื่อเป็นฐานไปเรียนต่อทางโลก ก็เปลี่ยนมาเรียนแบบลูกหลวงพ่อ คือเรียนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเป็นนักบวช นี่คือบุญใหญ่ของลูกทุกรูป ที่จะทำให้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงความนึกคิดทางการศึกษาพระธรรมวินัยทั่วสังฆมณฑล จากจุดเล็กๆ ของเราที่สอบได้ยกชั้น จะขยายผลอันยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต เหมือนกับก่อนจะเขียนหนังสือได้เต็มหน้า …

๑๑ ไกลวัด Read More »

๑๑-๑ ข้อวัตรปฏิบัติ

ข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ อย่าได้ทอดทิ้ง แม้ว่าจะห่างไกลจากหลวงพ่อ ห่างไกลจากหมู่คณะ เราตกเป็นเป้าสายตาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลายตลอดเวลา ๒๔ น. ทั้งเพื่อนสหธรรมิกที่พักอยู่ตึกเดียวกัน พระอาจารย์ที่มาสอน ผู้ปกครอง ที่เราไปอยู่อบรม รวมทั้งสาธุชนที่นั่น ดูเราอยู่ตลอดเวลา แล้วที่สำคัญ เราดูตัวของเราเอง ถ้าอยากให้ชาวโลกเข้าถึงสันติสุข อยากให้พระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวโลก อยากให้ประเทศไทยเป็นหลักของพระพุทธศาสนา อยากให้เพื่อนสหธรรมิกมีกำลังใจที่จะเป็นนักบวช และอยากเห็นสาธุชนมีความปีติที่ได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญ ให้ลูกรักษาข้อวัตรปฏิบัติของเราไว้ให้เคร่งครัด แต่อย่าถึงกับเคร่งเครียดไปอวดเคร่งกับเขาก็ไม่ใช่ ให้ทำอย่างมีความสุขในการประพฤติข้อวัตรปฏิบัติของเรา มีความสุขกับการสวดมนต์ไหว้พระ ทำภาวนา และรักษาสิกขาบทต่างๆ ไม่ให้บกพร่องเลย คนเราถ้าหากทำอะไรที่ไม่ฝืนใจ ทำแล้วมีความสุข แต่เราจะรู้สึกเป็นทุกข์ถ้าฝืนใจ ข้อวัตรปฏิบัติของเรา ถ้าหากเราปฏิบัติเพื่อจะขัดเกลา กลั่นกรองจิตใจเราให้สะอาดบริสุทธิ์ ให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว มันเป็นความสุขและนำมาซึ่งความปีติยินดี เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ฝืนใจทำ เมื่อเราทำอย่างนี้เป็นกิจวัตร เพื่อนสหธรรมิกเห็นแล้วก็จะเกิดความเกรงใจและเกิดกำลังใจ ในใจลึกๆ ของเพื่อนสหธรรมิก ที่มาร่วมศึกษาและร่วมพำนักอยู่ที่ตึกเดียวกัน เขาก็อยากเห็นเนื้อนาบุญเหมือนกัน อยากเห็นนักบวชในยุคนี้ มีชีวิตและจิตวิญญาณของนักบวชอย่างแท้จริง ไม่ใช่มีเฉพาะในสมัยพุทธกาลที่ได้ศึกษาร่ำเรียนมาในพระไตรปิฎกเท่านั้น เขาเห็นแล้วจะได้เกิดกำลังใจให้บวชต่อไปได้อีก ถ้าหากว่าลูกของหลวงพ่อทุกรูปทำได้อย่างนี้ บุญใหญ่ก็จะเกิดขึ้นกับเราก่อน กำลังใจเกิดขึ้นกับเพื่อนสหธรรมิก เราจะยกสังฆมณฑลให้สูงขึ้น ญาติโยมก็สมหวังที่ได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญ พระพุทธศาสนาก็จะเป็นที่พึ่งแก่ชาวโลก ทุกสิ่งเกี่ยวพันกันไปหมดเลย เหมือนกับการรดน้ำที่โคนต้นไม้เพียงขันเดียวมีผลไปถึงลำต้น กิ่ง …

๑๑-๑ ข้อวัตรปฏิบัติ Read More »