หนังสือ ชีวิตสมณะ ๑

ภาระ หน้าที่ และเป้าหมายของสมณะ

๓. ภาระ หน้าที่ และเป้าหมายของสมณะ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ทั้งพระทั้งเณรออกบวชเพราะเห็นภัยในวัฏสงสาร เห็นว่าชีวิตมีทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นคนชั้นสูง เป็นพระราชามหากษัตริย์ รัชทายาท ก็มีทุกข์ ทุกข์แบบชนชั้นสูง เกิดมาเป็นชนชั้นกลาง ก็มีทุกข์แบบชนชั้นกลาง เกิดเป็นชนชั้นล่าง ก็มีทุกข์แบบชนชั้นล่าง ไม่มีใครที่มีความสุขเลย ดูเผิน ๆ เหมือนมีความสุข แต่จริง ๆ แล้ว ทุกคนมีชีวิตแบบหน้าชื่นอกตรม มีทุกข์ภายในไม่รู้จะไปบอกใคร บอกใครก็อายเขา หรือเขาก็มีทุกข์เหมือนกัน เราบอกเขา เดี๋ยวเขาก็บอกเราบ้าง ถ้าต่างคนต่างบอกก็กลุ้มเหมือนกัน จึงต้องหน้าชื่นอกตรมกันไป เพราะฉะนั้นจึงออกจากฆราวาส แล้วก็มาสมัครเป็นนักบวชอาชีพ เป็นบรรพชิต ปลงผม ปลงหนวด ปลงเครา ละทิ้งเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ละทิ้งธุรกิจการงานแบบฆราวาส ออกบวชมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย มีแค่อัฐบริขาร มีของเพียง ๘ อย่าง เลี้ยงสังขารด้วยอาหารของสาธุชน กับเป้าหมายของชีวิตที่จะทำพระนิพพานให้แจ้ง แล้วก็ประสบความสำเร็จในการเป็นนักบวช ได้บรรลุวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ …

ภาระ หน้าที่ และเป้าหมายของสมณะ Read More »

พระ…ให้ทำเฉพาะสมณกิจ

๑๙. พระ…ให้ทำเฉพาะสมณกิจ ชาวโลกมักไปเคี่ยวเข็ญให้พระทำตามใจตัว ให้ท่านช่วยตรวจดวงชะตาว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งท่านก็ไม่ใช่ผู้ชำนาญการ เพราะไม่ใช่อาชีพพระ อยากให้พระดูหมอ ท่านก็ฉลองศรัทธา ไม่อยากให้เสียศรัทธา ท่านก็ดูให้ แล้วถ้าท่านดูผิด ก็ไปว่าท่าน บาปและตกนรกนะ แล้วไปบอกท่านว่า ท่านดูไม่แม่น ท่านก็เครียด กลุ้ม จะดูใครได้ ถ้าทายทุกข์ก็ทายถูกทีเดียวว่า จะทุกข์อย่างนั้น ทุกข์อย่างนี้ เพราะพื้นฐานของมนุษย์มีทุกข์อยู่แล้ว แต่ถ้าทายว่า จะมีสุขจะโชคดี ไม่ค่อยจะถูกสักที เลยถูกอัด ญาติโยมก็ต่อว่าเอา ดูไม่แม่น ถ้าท่านทายว่า จะมีทุกข์ ฟังท่านกลับไปจะไปกลุ้มอีก ถ้าทายว่า มีสุขแล้วไม่สุข เขาก็กลับมาว่าท่าน ท่านก็กลุ้มอีก ตกลงกลุ้มทั้งคู่ แล้วท่านก็ต้องไปค้นคว้าเพื่อจะทายให้ถูก แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปศึกษาปริยัติ ปฏิบัติ เทศนา มันก็ไม่มีเวลา จริง ๆ แล้วญาติโยมไม่ควรจะไปรบกวนท่าน ถ้าอยากจะรู้อนาคตของตัวเรา โน่น ไปสมาคมโหร หรือหมอดูอาชีพ นั่นอาชีพของเขา เขารวบรวมสถิติมาเป็นพัน ๆ ปีนั่นแหละ และพูดได้ถึงพริกถึงขิง ขนาดเคี้ยวพริกเคี้ยวขิงเลยละ …

พระ…ให้ทำเฉพาะสมณกิจ Read More »

กิจของนักบวช

๔. กิจของนักบวช เราเป็นนักบวชปลดปล่อยวางแล้วจากเครื่องกังวลทั้งหลาย ไม่ต้องทำมาหากินแบบชาวโลก กิจของนักบวช คือ ศึกษาเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ให้เป็นพระแท้ เป็นพระที่สมบูรณ์ทั้งภายนอกภายใน เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง โดยย่อก็คือฝึกใจให้หยุดให้นิ่งให้เข้าถึงพระรัตนตรัย นี่เป็นกิจของนักบวช อย่าไปชักศึกเข้าบ้าน คือ นึกคิดถึงเรื่องราวที่ทำให้ร้อนอกร้อนใจ กลุ้มอกกลุ้มใจ กระสับกระส่าย ทุรนทุรายอยู่ในใจ อย่างนั้นเขาเรียกว่า ชักศึกเข้าบ้าน บ้านก็คือเรือนกายเรือนใจ ต้องทำใจให้เกลี้ยง ๆ ให้ว่าง ๆ ให้ใจมีแต่องค์พระ ดวงใส บุญกุศล ศีล สมาธิ ปัญญา ทำเพียงแค่นี้ชีวิตพระก็สมบูรณ์แล้ว จะมีความสุขในระดับหนึ่งทีเดียว ซึ่งความสมบูรณ์ในระดับนี้จะก้าวเข้าสู่ความสมบูรณ์ในอนาคต ที่เป็นความสมบูรณ์ที่แท้จริง คือ เข้าถึงพระนิพพาน วัตถุประสงค์ของการดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ ทุกชีวิต…สุดท้ายก็มุ่งเพื่อความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จากความโลภ ความโกรธ ความหลง ซึ่งเป็นรากเหง้าแห่งอกุศลมูลที่ทำให้กาย วาจา ใจของเราไม่บริสุทธิ์ และผลแห่งความไม่บริสุทธิ์จะทำให้เราทุกข์ทรมานในวัฏสงสาร ไปในมหานรก อุสสทนรก ยมโลก ไปเกิดเป็นอสุรกาย เป็นเปรต เป็นสัตว์เดรัจฉาน กว่าจะกลับมาเป็นมนุษย์นี้ยาก …

กิจของนักบวช Read More »

พึงรักษาพระพุทธศาสนา

๒๐. พึงรักษาพระพุทธศาสนา หลวงพ่อเห็นวัดร้างแล้ว เศร้าใจ เขาเขียนมาให้อ่านว่า มีวัดร้าง ๓๐,๐๐๐ กว่าไร่ทั่วประเทศ วัดร้าง ๓๐,๐๐๐ กว่าไร่นี่เป็นของใคร ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่สร้างวัดแรกก็ สาธุ ขอยกแผ่นดินผืนนี้ถวายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพราะฉะนั้น วัดเป็นของพระพุทธเจ้า ถ้าจะเอาไปให้เขาเช่า หรือทำอะไรต้องไปขออนุญาตพระพุทธเจ้าก่อน ทีนี้ท่านไม่อยู่แล้วทำอย่างไร ก็ไปขอกับพระพุทธรูป แต่ถ้าท่านนั่งเฉย ๆ ก็อย่าไปนึกว่า ท่านยอมรับโดยอริยดุษณี อย่าไปคิดอย่างนั้น ตอนนี้มีแล้ว คือ เอาที่วัดไปให้เพื่อนต่างศาสนิกเช่า เขาก็สร้างศาสนสถานขึ้นมา สมมุติว่าสัญญา ๓๐ ปี พอครบไปเอาคืน คืนได้แต่ห้ามทุบศาสนสถาน ทุบมีเรื่องกัน ระหว่าง ๒ ความเชื่อนั่นแหละ เรื่องมันก็จะไปกันใหญ่โต เพราะฉะนั้นใครรับผิดชอบตรงนี้ก็น่าจะเอาไปพิจารณากันดูบ้างว่า วัดเป็นที่ของใครและวิธีทำดีที่สุดก็คือ หาพระไปอยู่วัด วัดร้างก็จะได้เปลี่ยนเป็นวัดรุ่ง ผู้ที่จะมาบวชก็มีมาก ปลดเกษียณแล้วก็ไปบวชหมุนเวียนกันไป อย่างน้อยเพื่อสร้างหนทางสวรรค์นิพพานให้เกิดขึ้นแก่ตัวเอง เราได้รับใช้ชาติมาแล้วอย่างเต็มที่ ตอนนี้เราปลดเกษียณแล้วมาบวช เราผ่านโลกมามากแล้ว อ่านตำรับตำราหนังสือหนังหาเองก็ได้ ถ้าสงสัยก็ไปถามพระอุปัชฌาย์บ้าง ครูบาอาจารย์บ้าง …

พึงรักษาพระพุทธศาสนา Read More »

สมณะ…ชีวิตที่ใกล้พระนิพพาน

๕. สมณะ…ชีวิตที่ใกล้พระนิพพาน ชีวิตสมณะ เป็นชีวิตที่ปลอดกังวล ใกล้หนทางพระนิพพาน เครื่องแบบนี้เป็นชุดเดียวกันกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยสาวก ที่ท่านดับขันธปรินิพพานไปแล้ว เป็นชุดสุดท้ายของทุก ๆ ชีวิต ไม่ว่าชีวิตในตอนนี้จะอยู่ในระดับไหน จะเป็นเชื้อชาติศาสนาหรือเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม เมื่ออินทรีย์ยังอ่อนอยู่ ก็มีความหลากหลายในความเชื่อ เมื่ออินทรีย์แก่กล้าแล้ว ความเชื่อเหล่านั้นก็ปล่อยวางกันไป แล้วในที่สุดชีวิตสุดท้ายก็จะอยู่ในเพศสมณะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อท่านบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว ท่านจะระลึกชาติหนหลัง เคยเกิดเป็นอะไรต่ออะไรกันมากมายในสังสารวัฏ มีความเชื่อที่หลากหลาย แตกต่างจากความเชื่อถือจากพระรัตนตรัยมาก่อนกันทั้งนั้น ถ้าสมัยนี้ใช้คำว่า นอกศาสนา นอกบุญเขต แล้วเมื่อบารมีแก่กล้าหนักเข้า ท่านก็ปล่อยวางความเชื่อเหล่านั้น ไม่ลบหลู่ แต่ก็ดูเฉย ๆ หันมาศึกษาธรรมะละเอียดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้บรรลุมรรคผลนิพพาน นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า ทุก ๆ ชีวิตในที่สุดจะต้องไปนิพพาน ต่างกันว่าจะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับอินทรีย์อ่อนหรือแก่ บารมีมากหรือน้อยเท่านั้น ตอนสุดท้ายก็เป็นอย่างนี้ ตอนนี้ลูกพระลูกเณรบวชมาแล้ว เราอยู่ในเพศที่สูงสุด เรียกว่า เพศอันอุดม เป็นเพศของผู้เลิศ เราใกล้พระนิพพานมาก ถ้าเรามีอารมณ์ดี คือ อารมณ์ที่เป็นกุศล บริสุทธิ์ มีอาภรณ์ดี คือ …

สมณะ…ชีวิตที่ใกล้พระนิพพาน Read More »