สมัครใจไปนิพพาน

5. สมัครใจไปนิพพาน

วันพรุ่งนี้เป็นวันออกพรรษา เราจะสังเกตได้ว่าระยะเวลาหนึ่งพรรษาไม่นานเลย แค่เราทำกิจวัตรกิจกรรมให้เป็นไปตามปกติ ชั่วประเดี๋ยวเดียวก็หมดเวลาแล้ว พวกเราทุก ๆ รูป เป็นผู้ที่สมัครใจไปพระนิพพานด้วยกันทั้งนั้น ที่เราสมัครใจก็เพราะว่า เราได้เห็นภัยในวัฏสงสาร เห็นการเวียนว่ายตายเกิดเป็นทุกข์ เห็นว่ากิเลสอาสวะเป็นสาเหตุแห่งความทุกข์ทั้งหลาย เรามีความปรารถนาที่จะขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้สมัครใจมาบวชกัน

เหตุที่เป็นอย่างนี้ เพราะเราได้ศึกษาพุทธประวัติและคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่สมัยที่พระองค์ยังเป็นพระบรมโพธิสัตว์อยู่นั้น ในแต่ละชาติที่ผ่านมา พระองค์ได้รับคำแนะนำสั่งสอนจากบัณฑิตนักปราชญ์มากมาย ตายแล้วเกิดใหม่ก็มาศึกษากันใหม่ เป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนกระทั่งซาบซึ้งว่า จุดหมายปลายทางของชีวิตมนุษย์ คือ พระนิพพาน และการจะไปอายตนนิพพานได้จะต้องขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป พระองค์สร้างบารมี ศึกษาและฝึกฝนอบรมตนเองเพื่อขจัดกิเลสอาสวะเรื่อยมา ตั้งแต่ยังมีชีวิตเป็นฆราวาส เป็นนักบวช จนกระทั่งภพสุดท้ายก็บรรลุเป้าหมายของชีวิตตามมโนปณิธานของพระองค์

โดยอาศัยการฝึกฝนและประกอบความเพียรอย่างไม่ย่อท้อ เมื่อทรงบรรลุแล้วก็มิได้ปิดบังอำพรางความรู้อันบริสุทธิ์นั้น ได้เปิดเผยให้เป็นแบบแผน เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตแก่ชาวโลก เมื่อเราได้ยินได้ฟังคำสอนนั้น นำมาพิจารณาใคร่ครวญจนกระทั่งเกิดความซาบซึ้งและเห็นตามพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ว่า พระนิพพานนั้นเป็นเยี่ยม และพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ก็ตรัสตรงกันว่า พระนิพพานเป็นเยี่ยม เราจึงได้ตัดสินใจสมัครใจเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาและสมัครใจที่จะขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปตามวิธีการของพระองค์

บัดนี้พรรษานี้ได้ผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว เราได้ทำกิจวัตรและกิจกรรมอย่างครบถ้วนบริบูรณ์อย่างเต็มที่เต็มกำลังกันทุกรูป บางท่านอุทิศตนเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างเต็มที่ควบคู่กับการปฏิบัติธรรม บางท่านอุทิศตนช่วยเหลือกิจการงานสงฆ์และก็ควบคู่กับการปฏิบัติธรรม ไม่มีใครเลยที่จะปล่อยเวลาให้ว่างเปล่าโดยไม่ขวนขวายที่จะสร้างบุญสร้างบารมีอย่างเต็มที่ นี่เป็นเรื่องที่น่าปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง มหาปวารณา

วันพรุ่งนี้เป็นวันออกพรรษา ตามประเพณีในสมัยพุทธกาลนั้น ก่อนออกพรรษาจะมาทำปวารณาซึ่งกันและกัน โดยผู้ที่สมัครใจไปพระนิพพานจะมารวมประชุมกัน เหมือนอย่างที่เรามารวมประชุมกันในวันนี้ ที่อยู่ในป่าก็ประชุมกันในป่า ที่อยู่ในละแวกบ้านก็ประชุมกันในละแวกบ้าน ในความหมายแห่งการประชุมนั้นก็คือ รูปใดรูปหนึ่งจะต้องเป็นกัลยาณมิตรให้ซึ่งกันและกัน ใครได้เห็น ใครได้ยิน หรือสงสัยว่าเพื่อนสหธรรมิกท่านใดปฏิบัติข้อวัตรต่าง ๆ ไม่ถูกต้องตามคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา ซึ่งจะเป็นเหตุให้ห่างไกลจากพระนิพพาน ก็ขอท่านอาศัยจิตที่ประกอบไปด้วยเมตตาธรรม แนะนำตักเตือนสั่งสอนข้าพเจ้า

เมื่อทราบแล้ว ข้าพเจ้าก็จะตั้งใจแก้ไขปรับปรุงตนเองด้วยความเต็มใจและสมัครใจยินดีเป็นอย่างยิ่ง เหมือนเพื่อนสหธรรมิกนั้นได้ชี้ขุมทรัพย์อันประเสริฐให้กับผู้ที่ยังขัดสนอยู่ มีความปีติเบิกบานใจว่า นอกจากเราจะคอยดูแลฝึกฝนตนเองแล้วยังมีเพื่อนสหธรรมิกคอยช่วยแนะนำอีก ในไม่ช้าเราก็จะเป็นคนสมบูรณ์ได้ จะขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นได้ จิตใจของเราก็จะสะอาดบริสุทธิ์กระทั่งสามารถเข้าถึงพระธรรมกาย เข้าถึงวิชชาธรรมกายได้ เช่นเดียวกับพระพุทธองค์

หลังจากที่ปวารณากันแล้วต่างก็จะแยกย้ายกันไปปฏิบัติธรรม ใครถนัดอยู่ป่าก็ไปป่า ใครถนัดอยู่ถ้ำก็เข้าถ้ำ ใครถนัดอยู่เรือนว่าง ก็ไปเรือนว่าง ใครถนัดอยู่โคนไม้ก็ไปโคนไม้ ต่างแยกย้ายกันไปด้วยจิตใจที่น้อมระลึกนึกถึงความดีซึ่งกันและกัน ด้วยความปีติปราโมทย์ใจ มีความองอาจเหมือนนกน้อยโผบินออกจากรังไปสู่โลกกว้าง มีความสุขเบิกบาน มีความรู้สึกว่าหนทางไปสู่อายตนนิพพานนั้นใกล้นิดเดียว อยู่ในกำมือของเราแล้ว ไม่ช้าเราจะต้องสมหวัง เพราะเราได้รับคำแนะนำคำตักเตือนที่ดีจากเพื่อนสหธรรมิก

นี่นักบวช สมัยพุทธกาลเขามีความคิดกันอย่างนี้ ความขัดเคืองใจ ขุ่นข้องใจ หรือน้อยใจไม่มีเลย เพราะต่างมีหัวใจดวงเดียวกัน มีเป้าหมายอันเดียวกัน คือสมัครใจไปพระนิพพานด้วยกัน พวกเราทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เพราะเราล้วนแต่สมัครใจไปพระนิพพานด้วยกันทั้งสิ้น และเราได้รับทราบดีแล้วว่า พระนิพพานอยู่ภายในตัวของเรา เป็นอายตนะอันละเอียดบริสุทธิ์ จะเข้าถึงได้นั้นต้องทำใจให้บริสุทธิ์ให้ละเอียดจนกระทั่งหลุดพ้นจากอาสวกิเลส จึงไปสู่อายตนนิพพานได้

เพราะฉะนั้น เมื่อเราได้ปวารณาซึ่งกันและกันแล้ว ขอให้สวมหัวใจของพระอริยเจ้าในสมัยพุทธกาล คือ ให้มีความปีติยินดี มีความสุขใจ ที่เพื่อนสหธรรมิกได้อุทิศตนเป็นกัลยาณมิตรชี้ช่องทางให้แก่ตัวเรา

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิจวัตรกิจกรรม เรื่องธรรมวินัย หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นความดี เมื่อเราได้ยินได้ฟังแล้วขอให้มีความสุขใจ อย่าโกรธ อย่าขัดเคืองใจ อย่าน้อยใจกัน และเมื่อเพื่อนสหธรรมิกแนะนำแล้ว นำมาพิจารณาตัวของเราว่า สิ่งที่ท่านแนะนำเป็นความจริงและเป็นความดีงามแค่ไหน ถ้าเป็นความจริงเราก็ปรับปรุงตัวเสียใหม่ ถ้าเป็นความดีงามก็เป็นสิ่งที่ควรทำ

ในขณะเดียวกันเพื่อนสหธรรมิกที่คอยชี้ขุมทรัพย์ให้ ก็อย่าใช้อารมณ์ ต้องใช้สติปัญญา พิจารณาดูให้ดีว่า ใจตอนนี้ของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีหรือเปล่า หรือมีสิ่งที่เป็นบาปอกุศลสิงอยู่ในใจเรา ถ้ามีบาปอกุศลสิงอยู่ในใจเรา เราก็ขจัดกวาดล้างมันให้หมดไปเสีย ให้จิตใจเรา ใส สะอาด บริสุทธิ์ จนกระทั่งหัวใจของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม เต็มเปี่ยมไปด้วยสติปัญญา พิจารณาดูแล้วสิ่งที่เราจะแนะนำนั้นเป็นเรื่องจริง เป็นความดี และเป็นประโยชน์จึงจะแนะนำไป

ถ้าหมู่คณะของเราทำอย่างนี้ การปวารณาของเราในวันนี้ จะมีคุณค่าอย่างมหาศาลต่อตัวเรา ต่อผู้อื่น และต่อหมู่คณะ ประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของการปวารณา ประโยชน์ต่อตัวเรา คือ เราจะได้เห็นข้อบกพร่องในตัวเอง แล้วปรับปรุงตัวของเราให้สมบูรณ์ขึ้น จนกระทั่งสามารถเข้าไปถึงจุดแห่งความสมบูรณ์ของชีวิต ประโยชน์ต่อผู้อื่น คือ เราจะเป็นต้นแบบที่ดีให้ผู้อื่นได้กระทำตาม จะโดยการแนะหรือการนำก็ตาม ผู้อื่นก็จะได้รับประโยชน์อันนี้ด้วย ประโยชน์ต่อหมู่คณะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหมู่คณะของเรามีเป้าหมายที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ให้ธรรมกายนี้ไปปรากฏทั่วโลก ธรรมกายซึ่งมีอยู่จริงในกายของมวลมนุษยชาติ แต่ขาดผู้แนะนำผู้ชี้ทางของที่มีอยู่จึงดูเหมือนไม่มี เป้าหมายของเราต้องการที่จะเปิดเผยสิ่งที่ดีงามนี้ให้แก่ชาวโลกได้ประพฤติปฏิบัติ จะได้เข้าถึงธรรมกาย เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่อย่างยิ่ง ซึ่งจะทำตามลำพังไม่ได้ จะต้องร่วมมือทำกันไปเป็นทีม แล้วทีมทั้งทีมนั้นจะต้องมีความบริสุทธิ์ มีความดีงาม ต้องมีความรู้ มีสติปัญญา มีคุณธรรมหลาย ๆ อย่างเท่าเทียมทันกันทั้งทีม เราจึงจะทำงานนี้ได้สำเร็จ

เพราะฉะนั้นการปวารณากันในวันนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่จะปรับปรุง หมู่คณะของเราให้เป็นหมู่คณะแห่งความบริสุทธิ์ แห่งสติ แห่งปัญญา แห่งความสมบูรณ์พร้อมที่จะนำประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นแก่มวลมนุษยชาติได้

ดังนั้นการปวารณาในวันนี้อย่าทำเพียงเป็นประเพณีเท่านั้น ซึ่งถ้าเราทำอย่างนั้น ประโยชน์ที่ได้รับจะไม่เต็มที่ แต่ถ้าหากว่า เรามีความตั้งใจจริงก็จะอาศัยวันมหาปวารณานี้ เป็นวันที่สำคัญยิ่งในการปรับปรุงตัวเราและหมู่คณะของเราด้วย อย่างนี้ ถึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราได้มาอยู่ร่วมกันในสถานที่นี้ โดยหวังที่จะมาสร้างบารมีรวมกัน มาศึกษาวิชชาธรรมกาย มาฝึกฝนตนเองให้ดีขึ้น

เพราะฉะนั้นวันนี้หลังจากปวารณากันแล้ว ก็ขอให้ทำจิตใจให้ได้อย่างที่หลวงพ่อได้กล่าวไปเมื่อสักครู่นี้ สูตรสำเร็จในการเข้าถึงธรรม ภายในพรรษานี้ หลวงพ่อสังเกตเห็นทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ต่างก็มุ่งมั่นตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกันอย่างเต็มที่ เมื่อถึงเวลาปฏิบัติกิจวัตรรวมกันก็มาพร้อมเพรียงกัน มีความกระตือรือร้น มีความรู้สึกกระหายที่จะไปสู่พระนิพพาน กระหาย ที่จะทำใจให้บริสุทธิ์ กระหายที่จะปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย ที่จะศึกษาวิชชาธรรมกาย กระหายที่จะได้บุญด้วยการชำระใจให้บริสุทธิ์จากการสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น กระหายที่จะได้ฟังธรรม
ได้ฟังประสบการณ์ภายใน และทุกคนก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ

เพราะตั้งใจปฏิบัติตามคำแนะนำของหลวงพ่อซึ่งมีสูตรสำเร็จอยู่ สูตรสำเร็จในการเข้าถึงธรรมกาย เป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างที่เรานึกไม่ถึง เหมือนเส้นผมบังภูเขา เมื่อเขี่ยเส้นผมออก ก็เห็นภูเขาอันยิ่งใหญ่งดงามนั้นได้ และด้วยอาศัยสิ่งที่นึกไม่ถึงนั้นประพฤติปฏิบัติกันต่อไป ในที่สุดเราก็จะเข้าถึงจุดนั้นได้ เรื่องที่นึกไม่ถึงนั้นเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา เหมือนหญ้าปากคอก เป็นแต่เพียงว่าเราจะใช้สติปัญญาพิจารณากันดีหรือไม่ แต่เรื่องที่นึกไม่ถึงสิ่งนี้สิเป็นสิ่งที่สำคัญทีเดียว นั่นคือเราได้ทราบดีแล้วว่า ธรรมกายหรือธรรมะที่อยู่ภายในตัวของเรา จะเป็นดวงธรรมก็ดี เป็นกายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ พรหม อรูปพรหม หรือกายธรรมก็ดี เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัว ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้น แต่ว่าเป็นของละเอียดซ้อนกันเข้าไปข้างในเรื่อย ๆ

หน้าที่ของเราก็คือ ทำใจให้ละเอียดเท่ากับสิ่งละเอียดที่มีอยู่แล้วภายในเป็นชั้น ๆ เข้าไป เราก็จะเห็นไปตามลำดับขั้นตอน ใจจะละเอียดได้ ต้องทำสิ่งที่เรานึกไม่ถึงอย่างง่าย ๆ แล้วเราก็จะเข้าถึงได้ง่าย ๆ สิ่งที่นึกไม่ถึงนั้นก็คือ ทำใจให้หยุดนิ่งเฉย ๆ อย่างสบาย ๆ ให้อารมณ์สม่ำเสมอ โดยไม่มั่นหมายอะไร แม้ไม่มีภาพอะไรเกิดขึ้น เราก็นิ่งเฉยอย่างใจเย็น ๆ

ทำอย่างนี้ แค่นี้เท่านั้น ถ้าทำอย่างนี้ไม่ช้าก็จะสมหวัง ลุ้นร้ายกว่าเสือ สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้ที่สมัครใจไปพระนิพพาน นอกเหนือจากความฟุ้งกับความเคลิ้มแล้ว ก็คือความตั้งใจมาก พยายามที่จะทำใจให้หยุดนิ่งเฉย เรามักจะหยุดแบบกด ๆ กัน เพราะอยากให้เห็นเร็ว ๆ ชัดเร็ว ๆ เมื่อทำอย่างนี้ใจมันไม่ละเอียด นี่เป็นเพราะเรามองข้ามสิ่งที่เรานึกไม่ถึงกัน ไปทำแบบหยุดกด ๆ ตั้งใจมาก จึงไม่สมหวัง ลุ้นร้ายยิ่งกว่าเสือ ความตั้งใจมากร้ายยิ่งกว่าเสือ เพราะเสือมันอยู่ในป่า แต่ลุ้นอยู่ใกล้ตัวเรา ติดตัวเราตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ทำอะไร มันก็ติดตัวเราไป ลุ้นจนกระทั่งติดเป็นนิสัย เป็นความเคยชินและแก้ยาก บางทีติดอย่างนี้ไป ๑๐ ปี ๒๐ ปี ก็มี

ความฟุ้งนั้นถึงแม้เราจะมีเรื่องอื่นที่เราคิดกันมากมายแค่ไหน แต่มันก็ยังมีช่องว่างให้เราหยุดได้บ้างเป็นช่วง ๆ หรือความเคลิ้ม บางทีเราหลับไปตื่นขึ้นมายังสดชื่น แต่ว่าความตั้งใจมากที่จะให้เราหยุด เรานิ่ง จะเอาให้ชัด ให้ใส ให้ได้ดังใจ นี้คือสิ่งที่ร้ายมาก เพราะฉะนั้นต้องพยายามแก้ไขตรงนี้ให้ได้ เหตุที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะใจเราไม่เย็นพอ เนื่องจากว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา ก่อนที่เราจะอุปสมบทนั้น ชีวิตถูกกระแสอันเชี่ยวกรากของการแข่งขันในการดำรงชีพ หล่อหลอมให้ต้องเร่งรีบ เร่งร้อน ต้องต่อสู้ การหล่อหลอมนั้นทำให้เราเกิดความเคยชินจนติดเป็นนิสัย

เมื่อถึงเวลาในการปฏิบัติธรรม เราก็นำนิสัยนั้นเข้ามาใช้กับการปฏิบัติ จึงไม่ได้ผล ดังนั้น ถ้าเราสมัครใจที่จะเข้าถึงธรรมกายจริง ๆ แล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากทำใจให้หยุดนิ่งเฉย ๆ อย่างสบาย ๆ ให้สม่ำเสมอ โดยไม่เร่งรีบ ไม่เร่งร้อน ทำอย่างนี้ แค่นี้ เราก็จะสมปรารถนากัน ประกอบความเพียรกันต่อไป

พรุ่งนี้เป็นวันออกพรรษา หลังจากออกพรรษาแล้ว มิได้หมายความว่า กิจวัตรกิจกรรมของเราจะชะลอตัวลงหรือเหินห่างการปฏิบัติธรรม ไม่ใช่อย่างนั้น สิ่งเหล่านี้เราก็ต้องทำให้เป็นปกติต่อไป ทำไปจนกว่าเราจะบรรลุวัตถุประสงค์ ใครที่ยังเข้าไม่ถึงธรรมกาย ออกพรรษาแล้วก็ตั้งใจฝึกฝนให้เข้าถึงธรรมกายให้ได้

ใครที่ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรม ออกพรรษาแล้วก็ศึกษากันต่อไปอย่างเต็มที่ ใครที่ต้องการฝึกฝนตัวเองให้ดีขึ้น
ก็ฝึกฝนกันต่อไป ใครช่วยเหลือกิจการงานส่วนรวมของสงฆ์ก็ขวนขวายกันต่อไป ให้ทำกันไปอย่างนี้ ถ้าเราทำได้ ชีวิตที่เกิดมาในชาตินี้สมหวัง เกิดมาเพื่อเติมบุญ เติมบารมี ทั้งสร้างบารมี ซ่อมบารมี เสริมบารมีของเราให้เต็มที่ ไม่ช้าเราก็จะสมบูรณ์

ออกพรรษาแล้วอากาศก็สดชื่นไม่น้อยกว่าในพรรษา ดีเสียอีกเพราะไม่มีฝน เพราะฉะนั้นสุขภาพร่างกายเราก็จะแข็งแรงดีกว่าในพรรษา และมีช่วงระยะเวลายาวนานกว่าในพรรษาตั้ง ๙ เดือน ช่วงนี้แหละจะเป็นช่วงที่เราต้องฝึกฝนอบรมตัวเองให้เข้าถึงธรรมกายให้ได้ เพื่อที่จะได้มุ่งไปศึกษาวิชชาธรรมกายกันต่อไป

วิชชาธรรมกาย เป็นวิชชาที่เกี่ยวข้องกับตัวเราและสรรพสิ่งทั้งหลาย เป็นสิ่งที่เราจะต้องรู้แจ้งเห็นแจ้งให้ได้ชีวิตจึงจะปลอดภัยเพราะฉะนั้นออกพรรษาแล้วก็ขอให้ลูกพระลูกเณรทั้งหลายตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกันต่อไป

ในที่สุดนี้ หลวงพ่อขออนุโมทนาในธรรมปฏิบัติของลูกพระลูกเณรทั้งหลาย ที่ได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมตลอดระยะเวลา ๑ พรรษา อย่างเต็มที่ เป็นที่น่าชื่นอกชื่นใจแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ขออานุภาพแห่งธรรมปฏิบัติของลูกพระลูกเณรทั้งหลายที่ตั้งใจดีนี้ จงมารวมกันที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นดวงบุญที่มีความสว่างโพลงประดุจดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวันหลาย ๆ ดวง

ให้มีอานุภาพให้ลูกพระลูกเณรของหลวงพ่อทุกรูป มีจิตใจที่ชื่นบาน มีความสุข มีความบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย ให้แทงตลอดในวิชชาธรรมกายของพระพุทธเจ้า วิชชาธรรมกายใดที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญได้บรรลุ ขอให้ลูกพระลูกเณรทั้งหลายได้แทงตลอดในธรรมนั้น

ให้เป็นยอดกัลยาณมิตร สามารถขยายธรรมกายไปสู่ดวงใจของมวลมนุษยชาติโดยไม่จำกัดเชื้อชาติศาสนาและเผ่าพันธุ์ ให้มีถ้อยคำที่เป็นธรรมภาษิตชนะใจมวลมนุษยชาติ ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา เมื่อแสดงธรรมให้มีอานุภาพประดุจบรรลือสีหนาท ให้ชาวโลกทั้งหลายได้รู้แจ้งเห็นจริงในวิชชาธรรมกายของพระพุทธเจ้า

เดินทางไกลเพื่อเผยแผ่ธรรมะ ประกาศพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาก็ขอให้ปลอดภัย จะไปแห่งหนตำบลใดให้รักษาความบริสุทธิ์ให้ได้ ให้ความบริสุทธิ์นั้นนำมาซึ่งความเลื่อมใสแห่งพุทธบริษัททั้ง ๔ ทั้งมนุษย์และเทวดา ไม่ว่าจะไปอยู่แห่งหนตำบลใดของโลกให้ได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยมในทุกสถานที่ ให้มีสง่าราศี ประดุจพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญที่ปราศจากหมู่เมฆ

ให้บุญบารมีรัศมีกำลังฤทธิ์อำนาจสิทธิเฉียบขาดของพระนิพพานลงรักษาให้ปลอดภัย ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง อย่าเจ็บอย่าป่วย อย่าไข้ มีอายุยืนยาว ได้สร้างบารมีไปนาน ๆ ให้เทวดาลงรักษาทั้งวันทั้งคืน

ให้อยู่ในความคุ้มครองของพระธรรมกาย อยู่ในความคุ้มครองของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อยู่ในความคุ้มครองของพระนิพพาน ขอสิ่งที่หลวงพ่อได้ตั้งใจให้ลูกพระลูกเณรทั้งหลายเป็นอย่างนี้ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมกายของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จงทุกประการเทอญ
วันพุธที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๖

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ที่มา
ชีวิตสมณะ..ฉบับมหาปวารณา
www.dhamma01.com/book/10
๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๖

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *