เพียรเถิดจะเกิดผล (พ่อค้าและบริวารเพียรทุบหินให้แตก จนพบน้ำกลางทะเลทราย)

เพียรเถิดจะเกิดผล (เรื่อง พ่อค้าและบริวารเพียรทุบหินให้แตก จนพบน้ำกลางทะเลทราย)

     พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นแล้วจากอาสวกิเลส กิจที่จะทำยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว พวกเราก็เช่นเดียวกัน ควรจะใช้ชีวิตของเราให้เป็นไป เพื่อความสะอาด ความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องอื่นนั้นให้เป็นเรื่องรองลงมา เรายังมีกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้รู้แจ้งให้ได้ ว่าเราเกิดมาจากไหน มาทำไม และอะไรคือเป้าหมายของชีวิต จึงควรหมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจของเราให้หยุดให้นิ่ง จนกระทั่งเข้าถึงผู้รู้แจ้งภายใน คือ พระธรรมกาย

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน วัณณุปถชาดก ว่า
     “บุคคลทั้งหลายผู้มีความเพียร ขุดพื้นดินในทะเลทราย ได้พบน้ำในทะเลทรายนั้น ณ ที่ลานกลางแจ้ง ฉันใด มุนีผู้ประกอบด้วยความเพียรและกำลัง เป็นผู้ไม่เกียจคร้าน พึงได้ความสงบใจ ฉันนั้น
     นรชนใด มีจิตไม่ท้อแท้ มีใจไม่หดหู่ บำเพ็ญกุศลธรรม เพื่อความเกษมจากโยคะ นรชนนั้น พึงบรรลุความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ทั้งหมดได้”

     * ในสมัยพุทธกาล มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเกิดความเลื่อมใส มองเห็นทุกข์ เห็นโทษในการอยู่ครองเรือน และเห็นโทษของกามว่า เป็นรากเหง้าแห่งความทุกข์ เป็นดั่งหลุมถ่านเพลิง เป็นเหมือนเครื่องจองจำ ชีวิตฆราวาสนั้นคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลีกิเลสทั้งหลาย การบรรพชาเป็นทางมาแห่งความสุข เป็นทางพ้นทุกข์ นำไปสู่มรรคผลนิพพาน เขาจึงกลับไปบ้านและขออนุญาตบิดามารดาเพื่อออกบวช

     เมื่อบวชแล้ว ท่านตั้งใจปฏิบัติธรรมเอาจริงเอาจังตลอดพรรษา แต่เนื่องจากว่าปฏิบัติเคร่งเครียดเกินไป จึงทำให้ไม่สบาย ใจไม่สงบ แม้นิมิตหรือแสงสว่างเพียงเล็กน้อย ก็ไม่เคยเห็น เมื่อผลการปฏิบัติไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวัง ท่านจึงเบื่อหน่ายคลายความเพียร เกิดความท้อใจว่า ตนเองคงไม่มีบุญที่จะบรรลุธรรมในชาตินี้ เป็นคนอาภัพ ไม่มีวาสนาเหมือนคนอื่น ถ้าปฏิบัติต่อไปก็คงไม่ได้บรรลุอะไรในชาตินี้แน่ เราควรเดินทางกลับพระเชตวันมหาวิหาร เพื่อแลดูพระรูปของพระบรมศาสดาอันถึงพร้อมด้วยปุริสลักษณะ และเราจะได้ฟังธรรมที่แสนจะไพเราะจากพระพุทธองค์จะดีกว่า

     พระบรมศาสดาทรงรู้วาระจิตของพระภิกษุรูปนี้ และทรงรู้ถึงความตั้งใจจริงของท่าน เพียงแต่ยังปฏิบัติไม่ถูกวิธีเท่านั้น จึงเรียกท่านมา แล้วตรัสให้กำลังใจว่า “เธอบวชในศาสนา อันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ได้ ทำไมจึงไม่ให้เขารู้จักเธอว่า เป็นผู้มักน้อยสันโดษ เป็นผู้สงัด ไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ หรือว่าเป็นผู้ปรารภความเพียรเล่า สมัยก่อนเพราะเธอคนเดียวเท่านั้น ทำให้กองเกวียน ๕๐๐ เล่มสามารถเดินทางผ่านทะเลทรายอันทุรกันดารไปได้ ทำให้ทุกคนได้รับความสุข ก็เพราะความเพียรของเธอเพียงผู้เดียวเท่านั้น แต่เหตุไร บัดนี้เธอจึงละความเพียรเสีย” จากนั้นพระองค์ทรงระลึกชาติในหนหลัง ตรัสเล่าเรื่องในอดีตชาติให้ฟังว่า

     สมัยหนึ่ง ในเมืองพาราณสี เราเกิดเป็นพ่อค้า ได้บรรทุกสินค้าไปขายยังต่างเมือง เราได้ชักชวนเธอและบริวารอีก ๕๐๐ คนไปด้วย ในการเดินทางต้องข้ามทะเลทรายเป็นระยะทางถึง ๖๐ โยชน์ ในตอนกลางวันทะเลทรายร้อนระอุมาก จึงต้องหยุดพักผ่อน แล้วเดินทางในเวลากลางคืน เมื่อเราและบริวารเดินทางรอนแรมไปใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว เหลืออีกเพียง ๑ โยชน์เท่านั้น ซึ่งถ้าใช้เวลาเดินทางเพียงแค่คืนเดียว ก็จะข้ามพ้นเขตทะเลทรายไปได้

     ครั้นถึงเวลากลางคืน เราก็ออกเดินทางกัน โดยให้เธอเป็นคนนำทาง สังเกตทิศจากดวงดาว เธอได้เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย กองเกวียนทั้งหมดจึงหลงทาง เช้าวันรุ่งขึ้นก็เดินวนกลับมาที่เดิม บริวารทั้งหมดรู้สึกอ่อนล้าและหิวโหยกันมาก เพราะขาดน้ำ ต่างพากันท้อแท้ไปตามๆ กัน

      เราเห็นดังนั้น จึงคิดว่าถ้าหากเราละความเพียรเสียอีกคนหนึ่ง หมู่คณะก็จะถึงแก่ความตายกันหมด เราจึงออกเดินสำรวจดูบริเวณรอบๆ นั้นกับเธอ พบว่ามีหญ้าแพรกกอหนึ่งขึ้นอยู่ เพราะว่าได้รับความชื้นจากแหล่งน้ำเบื้องล่าง จึงกลับไปบอกบริวาร ให้มาช่วยกันขุดพื้นทรายใต้กอหญ้านั้น ขุดลึกลงไปจนถึง ๖๐ ศอกแล้วก็ยังไม่พบน้ำ กลับพบแต่แผ่นหินขวางอยู่ เหล่าบริวารเห็นดังนั้น ก็พากันสิ้นหวัง หมดอาลัยในชีวิต ต่างละความเพียร นอนรอคอยความตายกันอยู่ ณ ที่นั้นเอง

     แต่เรามิได้ท้อใจ เพราะมิอาจเห็นบริวารทั้งหมด ต้องมาพบกับความหายนะต่อหน้าต่อตา เราได้ลงไปในหลุมนั้น ลองแนบหูฟังที่แผ่นหิน ได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่เบื้องล่าง จึงบอกให้ทุกคนมาช่วยกันเอาค้อนทุบแผ่นหิน  ทุกคนก็ได้ช่วยกันทุบจนหมดเรี่ยวหมดแรงไปตามๆ กัน เหลือเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังสู้อยู่ เราจึงบอกให้เธอทุ่มเทเรี่ยวแรงทำต่อไปอีก เธออดทนทุบแผ่นหินจนเลือดอาบฝ่ามือโดยมิได้บ่นสักคำ

     ในที่สุด แผ่นหินนั้นก็แตก ลำน้ำได้พุ่งขึ้นมาสูงราวกับลำตาล ทุกคนดีใจเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ก็เพราะความเพียรของเธอเพียงคนเดียวนี่แหละ พวกเราได้น้ำมาดื่มมาใช้กันอย่างสำราญ สามารถหุงหาอาหารรับประทานได้ พอตกกลางคืน จึงได้ออกเดินทางต่อไปและได้ถึงที่หมายในวันรุ่งขึ้น เธอเป็นผู้มีความเพียรมากขนาดนั้น ทำไมชาตินี้ ซึ่งเป็นภพชาติสุดท้ายของเธอแล้ว เธอจะยอมละความเพียรเสียเล่า จากนั้นพระองค์ได้ตรัสพระคาถาว่า

     “บุคคลทั้งหลายผู้มีความเพียร ขุดพื้นดินในทะเลทราย ได้พบน้ำในทะเลทรายนั้น ณ ที่ลานกลางแจ้ง ฉันใด มุนีผู้ประกอบด้วยความเพียรและกำลัง เป็นผู้ไม่เกียจคร้าน พึงได้ความสงบใจ ฉันนั้น
     นรชนใด มีจิตไม่ท้อแท้ มีใจไม่หดหู่ บำเพ็ญกุศลธรรม เพื่อความเกษมจากโยคะ นรชนนั้น พึงบรรลุความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ทั้งหมดได้”

     ภิกษุรูปนั้น มีใจอาจหาญร่าเริงเบิกบานในธรรม ได้น้อมจิตไปตามกระแสเสียงของพระพุทธองค์ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ทำใจหยุดนิ่งอยู่ภายใน จนเข้าถึงกายภายในเป็นลำดับ ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในเวลานั้นเอง

     ทุกท่านก็เช่นเดียวกัน จงเพียรพยายามต่อไป อย่ายอมพ่ายแพ้ อย่าท้อแท้ เมื่อตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ก็ต้องทำให้สำเร็จ ถ้าเรามีความมุ่งมั่นอย่างเอาจริงเอาจัง ทุกอย่างจะสำเร็จหมด ดูอย่างพระบรมศาสดาของเรา ก่อนที่จะได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ พระองค์ทรงมีความเพียรอย่างยิ่งยวด ที่เรียกว่า“จาตุรังควิริยะ” ท่านกล่าวไว้ว่า “แม้เนื้อและเลือดในสรีระจักเหือดแห้งไป เหลือแต่หนัง เอ็นและกระดูกก็ตามที เมื่อยังไม่สำเร็จประโยชน์ที่บุคคลจะพึงได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียรและด้วยความบากบั่นของบุรุษแล้ว จักหยุดละความเพียรนั้น เป็นไม่มีเลย”

     หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญก็เช่นเดียวกัน ท่านเคยกล่าวไว้ว่า “ของจริง คู่กับคนจริง ธรรมะเป็นของจริง จะเข้าถึงได้ต้องเอาจริง ถ้าทำจริงล่ะก็ ได้ทุกคน จริงแค่ไหน แค่ชีวิตซิ ฉันเองสองคราว ไม่ได้ ตายเถอะ  นิ่ง พอถึงกำหนดเข้า…มันได้ ไม่ตายซักที”  นี่จริงอย่างนี้  เพราะฉะนั้นอย่าประมาท ให้ตั้งใจปรารภความเพียร เอาจริงเอาจัง อย่าขี้เกียจนั่งธรรมะกัน รักษากำลังใจของเราให้เข้มแข็ง สักวันหนึ่งจะสมปรารถนา เข้าถึงพระธรรมกายกันทุกคน

* มก. เล่ม ๕๕ หน้า ๑๗๐

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/13891
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับสารธรรม ๑

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *