เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๗)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๗)

ชีวิตของคนเราที่เกิดมา บางครั้งก็ประสบความสำเร็จ บางครั้งก็ต้องประสบกับความทุกข์ ความล้มเหลว อย่างไรก็ตาม ขอเพียงแต่ให้เรามีพลังใจที่เข้มแข็ง กล้าหาญ อดทน พร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรค และปัญหาทั้งหลาย แล้วหมั่นสั่งสมความดีอย่างไม่ย่อท้อ และตรึกระลึกถึงบุญที่ทำไว้อยู่เสมอ บุญนั้นจะช่วยเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ช่วยขจัดปัญหาที่มีอยู่ให้หมดสิ้นไป ดังนั้น อย่าเสียเวลาไปท้อแท้ใจ หรือหมดกำลังใจ แต่ให้มีสติสัมปชัญญะ และรู้จักใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา ยามใดที่เราพบเจอปัญหา ใหัน้อมนำใจกลับมาตั้งไว้ที่ต้นแหล่งแห่งบุญคือ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ทำใจให้หยุดนิ่งอย่างเบาสบาย  เมื่อใจสงบเราจะพบทางออกที่ดีที่สุดได้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทานสูตร ว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าสัตว์ทั้งหลายพึงรู้ผลแห่งการจำแนกทานเหมือนอย่างที่เรารู้ไซร้ สัตว์ทั้งหลายยังไม่ให้และจะไม่พึงบริโภค อนึ่ง ความตระหนี่อันเป็นมลทินจะไม่พึงครอบงำจิตของสัตว์เหล่านั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะสัตว์ทั้งหลายไม่รู้ผลแห่งการจำแนกทานเหมือนอย่างที่เรารู้ ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงไม่ให้ แล้วบริโภคเสียเอง อนึ่ง ความตระหนี่อันเป็นมลทินจึงยังครอบงำจิตของสัตว์เหล่านั้น”

ที่ผ่านมาหลวงพ่อได้นำอัตชีวประวัติโดยพิสดารของมหาเศรษฐีผู้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องคือ ท่านเมณฑกเศรษฐี มากล่าวไว้ให้ได้รับทราบติดต่อกันแล้วหลายตอน เพื่อให้ตระหนักถึงอานิสงส์ของการให้ทาน ว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตในสังสารวัฏอย่างมาก ท่านเมณฑกเศรษฐีเห็นคุณค่าของการให้ทานยิ่งกว่าชีวิต  นับว่าเป็นบุคคลผู้กล้าที่หาได้ยากในโลก ท่านยอมสละชีวิตเพื่อแลกกับการให้ทาน เพราะฉะนั้น เมื่อท่านทำในสิ่งที่ทำได้โดยยาก ชีวิตของท่านจึงได้ในสิ่งที่คนทั่วไปได้โดยยาก ในครั้งนี้ก็มาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว

จากครั้งที่แล้ว หลวงพ่อได้กล่าวถึงตอนที่ท่านเมณฑกเศรษฐี และครอบครัวได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันแล้ว เป็นผู้ปราศจากความสงสัยในพระรัตนตรัย จากนั้นท่านได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า “ภาษิตของพระพุทธองค์ทรงแจ่มแจ้งยิ่งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่ควํ่า เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยประสงค์ว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป” ได้ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ และได้ปฏิญาณตนเป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตแด่พระรัตนตรัยจนตลอดชีวิต แล้วทูลอาราธนาพระพุทธองค์พร้อมกับภิกษุสงฆ์ มารับภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น เพื่อเพิ่มเติมบุญกุศล และความปีติปราโมทย์ใจ

* ครั้นรุ่งเช้า เมื่อเจ้าหน้าที่จัดแจงภัตตาหารเรียบร้อยแล้ว จึงได้ไปนิมนต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหมู่ภิกษุสงฆ์มาฉันภัตตาหาร เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าและหมู่ภิกษุสงฆ์เสด็จมาถึง ท่านเมณฑกเศรษฐีและทุกคนในครอบครัวได้ช่วยกันประเคนภัตตาหารอันมีรสเลิศด้วยมือของตนเอง แล้วนั่งคอยอุปัฏฐากด้วยความเคารพเลื่อมใส ท่านได้ปวารณากับพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า “ตราบใดที่พระองค์ยังประทับอยู่ที่ภัททิยนครนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายภัตตาหารเป็นประจำแด่ภิกษุสงฆ์มีพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นประมุข ขอพระองค์ทรงเมตตามารับภัตตาหารของข้าพระองค์ด้วยเถิด” พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดุษณีภาพ และอนุโมทนาในกุศลจิตศรัทธาของท่านเศรษฐี

นอกจากนี้ เศรษฐีได้กราบทูลให้พระบรมศาสดาทราบ เกี่ยวกับเรื่องที่พระพุทธองค์ทรงถูกพวกเดียรถียร์กล่าวโทษที่ไม่เป็นความจริง อีกทั้งห้ามตนเอง และครอบครัวไม่ให้มาเข้าเฝ้าอีกด้วย พระบรมศาสดาตรัสว่า “คฤหบดี คนส่วนมากไม่เห็นโทษของตน แม้มีอยู่มากมาย แต่ชอบกล่าวโทษของคนอื่น ทั้งๆ ที่ไม่มีจริง ย่อมปกปิดโทษของตนเหมือนพรานล่านกปกปิดอัตภาพด้วยเครื่องปกปิด เพราะโทษของบุคคลอื่นเห็นได้ง่าย ฝ่ายโทษของตนเห็นได้ยาก”

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจงให้เมณฑกคหบดีเห็นแจ้ง ร่าเริงด้วยธรรมีกถาแล้ว ทรงลุกจากที่ประทับเสด็จกลับไป พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่นครภัททิยะตามอัธยาศัยแล้ว ไม่ได้ลาท่านเมณฑกคหบดี เสด็จพุทธดำเนินไปทางชนบทอังคุตตราปถะ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๑,๒๕๐ รูป เมณฑกคหบดีครั้นทราบข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปยังถิ่นธุรกันดารมาก จึงสั่งทาส และกรรมกรให้บรรทุกเกลือ น้ำมัน ข้าวสาร ของขบฉันลงในเกวียน สั่งให้คนเลี้ยงโค ๑,๒๕๐ คน พาแม่โคนม ๑,๒๕๐ ตัวมาด้วย จะได้เลี้ยงพระสงฆ์ด้วยน้ำนมสดที่รีดใหม่ๆ ที่น้ำนมยังอุ่นๆ ในสถานที่ๆ ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้า

ครั้นเมณฑกเศรษฐีตามไปพบพระผู้มีพระภาคเจ้าในระหว่างทางกันดาร จึงเข้าไปถวายบังคม กราบทูลอาราธนาว่า “พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมกับภิกษุสงฆ์ จงทรงพระกรุณาโปรดรับภัตตาหารของข้าพระพุทธเจ้า เพื่อเพิ่มเติมบุญกุศล และปีติปราโมทย์ในวันรุ่งขึ้นด้วยเถิด” พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงรับอาราธนาโดยดุษณีภาพ เมณฑกะทราบโดยอาการดุษณีแล้ว ก็รีบกลับไปสั่งให้ข้าทาสบริวารช่วยกันตกแต่งของเคี้ยวของฉันอันประณีตถวาย

วันรุ่งขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้าก็เสด็จเข้าไปยังสถานที่จัดภัตตาหารของเมณฑกเศรษฐี ท่านเศรษฐีจึงสั่งคนเลี้ยงโค ๑,๒๕๐ คน ให้ช่วยกันจับแม่โคนมคนละตัว แล้วยืนใกล้ๆ ภิกษุรูปละคนๆ ครั้นภิกษุสงฆ์ได้ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว ก็เกิดความรังเกียจ จึงไม่ยอมรับประเคนน้ำนมสด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตให้รับประเคนนมสดมาฉันได้ เมื่อเมณฑกะถวายภัตตาหาร และนมสดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า “พระพุทธเจ้าข้า หนทางกันดารอัตคัดขาดน้ำ ขาดอาหาร ภิกษุไม่มีเสบียงจะเดินทางไป ขอประทานวโรกาส ขอพระองค์โปรดทรงอนุญาตเสบียงเดินทางแก่ภิกษุทั้งหลายด้วยเถิด พระเจ้าข้า”

พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงอนุญาต และอนุโมทนาในเจตนาอันบริสุทธิ์ของท่านเศรษฐี แล้วรับสั่งอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตปัญจโครส ๕ คือ นมสด นมส้ม เปรียง เนยข้น เนยใส ภิกษุทั้งหลาย หนทางกันดารอัตคัดขาดน้ำ ขาดอาหาร ภิกษุไม่มีเสบียงจะเดินทางไป เราอนุญาตให้แสวงหาเสบียงได้ คือภิกษุต้องการข้าวสาร พึงแสวงหาข้าวสาร ต้องการถั่วเขียว พึงแสวงหาถั่วเขียว ต้องการเกลือ พึงแสวงหาเกลือ ต้องการน้ำอ้อย พึงแสวงหาน้ำอ้อย ต้องการน้ำมัน พึงแสวงหาน้ำมัน ภิกษุทั้งหลาย ชาวบ้านที่มีศรัทธาเลื่อมใส เขามอบเงินทองไว้ในมือกัปปิยการก สั่งว่า สิ่งใดควรแก่พระผู้เป็นเจ้า  ขอท่านจงถวายสิ่งนั้นด้วยกัปปิยภัณฑ์นี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ยินดีของอันเป็นกัปปิยะจากกัปปิยภัณฑ์นั้นไว้ แต่เรามิได้กล่าวว่า พึงยินดี พึงแสวงหาทอง และเงินเยี่ยงคฤหัสถ์”

นี่ก็เป็นเรื่องราวโดยพิสดารของท่านเมณฑกเศรษฐี จากเรื่องนี้ เราจะเห็นได้ว่า การที่ใครสักคนจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ล้วนต่างก็มีเบื้องหลังของการประสบความทุกข์เข็ญมาก่อน แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ได้ทุ่มเทสั่งสมบุญชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพัน สมบัติตักไม่พร่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่บุญที่ได้สั่งสมไว้ต่างหากบันดาลให้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ภาพแห่งความสำเร็จของตัวเราในอนาคตที่จะบังเกิดขึ้น ต้องเริ่มต้นจากการสั่งสมบุญในปัจจุบันชาตินี้ แล้วเราอยากได้อะไรก็ให้อธิษฐานในสิ่งที่เราปรารถนาไว้แล้วนั้น

ในภาวะของโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันในทุกๆ ด้าน มีอยู่น้อยคนนักที่เป็นผู้กล้าจะเป็นผู้ให้โดยไม่คำนึงถึงชีวิต เพราะภาวะเศรษฐกิจที่บีบคั้น แต่เรานักสร้างบารมี ต้องไม่หวาดหวั่นต่อสถานการณ์โลก ยิ่งเศรษฐกิจตกตํ่าเท่าใด ยิ่งต้องสร้างความดีขึ้นไปมากยิ่งขึ้นเท่านั้น กำลังใจยิ่งใช้ก็ยิ่งมี แล้วบารมีจะติดตามเราไปในภพเบื้องหน้าอย่างทับทวีคูณ อย่าได้เสียดายหรือเสียกำลังใจ จงทุ่มเทชีวิตจิตใจในการสร้างบุญบารมีในยามนี้ให้เต็มที่ ดั่งเช่นบัณฑิตที่เจอกับสภาวะวิกฤติในกาลก่อน เพราะบุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของเรา และเป็นเหตุนำความสุขความสำเร็จมาให้เราอย่างแท้จริง

* มก. เล่ม ๗ หน้า ๑๔๖

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/17717
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับพุทธสาวก-พุทธสาวิกา

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

1 thought on “เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๗)”

  1. ✨น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🏵️🌼🌺🌸💮🌟🌷🌟💮🌸🌺🌼🏵️

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *