หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่

19.จุดประทีปสว่าง…ทุกวันพระ

ทุกวันพระ หลวงพ่อขอเชิญชวนให้จุดประทีปเอาไว้หน้าบ้าน เพื่อจะได้บอกให้ทุกคนได้รับทราบว่า วันนี้เป็นวันพระ เพราะว่าวันพระ ถูกหลงลืมกันไป จนกระทั่งไม่มีใครสนใจหรือให้ความสำคัญมากเพียงพอเหมือนบรรพบุรุษของเรา แต่ในยุคของเรา ที่เรามาเกิดเพื่อมาสร้างบารมี มาเป็นต้นบุญต้นแบบ มาเป็นแสงสว่างต่อเพื่อนมนุษย์ เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องจุดประทีปเอาไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมา ได้ระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย นึกถึงว่า วันนี้เป็นวันพระ ควรจะทำแต่สิ่งที่เป็นกุศลธรรม และจะได้เป็นหัวข้อสนทนา เพราะเมื่อเขาเห็นแล้ว ก็จะเกิดคำถาม เอ๊ะ! มีอะไรเหรอ ทำไมถึงจุด เราก็จะได้อธิบายให้เขาฟัง อีกประการหนึ่ง อยากให้บ้านเมืองของเราสว่างไสว เพราะดูเหมือนว่าเดี๋ยวนี้สิ่งที่ผิด ๆ กำลังจะทำให้ถูกต้อง หลวงพ่อดูแล้วสลดใจนะ ถึงเวลาที่เราจะไปชักชวนกันมาถอยหลังลงคลองกันเถอะ แต่เป็นคลองธรรม คือ ความถูกต้องดีงามที่บรรพบุรุษของเราประพฤติสืบทอดกันมา เดี๋ยวนี้มันจะสูญหายกันไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้น พอถึงวันพระ ไม่ว่าวันพระเล็ก วันพระใหญ่ ไปจุดประทีปดวงเล็ก ๆ ไว้ที่หน้าบ้านของเรา เอาที่ไม่ต้องลงทุนสูงนะ จุดเอาไว้พอที่จะเป็นเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ให้เขาเห็นว่า อ้อ…วันนี้วันพระนะ 1 กันยายน พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ …

19.จุดประทีปสว่าง…ทุกวันพระ Read More »

4.มาปลูกเมตตาธรรมในใจกันเถอะ

เป็นคนซื่อตรง จะปรารถนาดีกับใคร ก็ให้ปรารถนาดีอย่างแท้จริง ด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แสร้งทำหรือมีมายา ไม่มีเหลี่ยมไม่มีคูกับใครทั้งสิ้น อยากให้ทุกคนเขามีความสุขจริง ๆ ให้อภัยก็ให้อภัยกันจริง ๆ เจอหน้าเขาก็พูดกับเขาก่อนได้ ยิ้มแย้มแจ่มใสกับเขาก่อนได้ นี่คือเมตตาธรรม ที่จะต้องปลูกเข้ามาในใจของเรา 11 มีนาคม พ.ศ. 2531 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

20.วิสาขบูชา

วันวิสาขบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6) เป็นวันสำคัญและอัศจรรย์อย่างยิ่งในทางพระพุทธศาสนา และเป็นวันสำคัญสากลของโลก ที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน มาพ้องตรงในวันเดียวกัน การมาประสูติของพระพุทธองค์ก็อัศจรรย์ ก่อนที่จะมาประสูติ เทวดาพรหมทั่วหมื่นโลกธาตุได้ไปกราบอาราธนาพระบรมโพธิสัตว์บนสวรรค์ชั้นดุสิต เมื่อพระองค์พิจารณาเห็นสมควรจึงรับอาราธนา จากนั้นทรงตรวจตราดูปัญจมหาวิโลกนะ คือ ทรงพิจารณาดู กาล ทวีป ประเทศ ตระกูล และพุทธมารดาที่เหมาะสมต่อการลงมาเกิดสร้างบารมี เพื่อจะได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณโปรดสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์ภัยในวัฏสงสาร ครั้นประสูติก็ถึงพร้อมด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ และในทันทีที่ประสูติทรงพระดำเนินไปได้ 7 ก้าว ทุกย่างก้าวจะมีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ จากนั้นทรงเปล่งอาสภิวาจาว่า “เราเป็นผู้เลิศในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ภพชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเราแล้ว” ครั้นเมื่อเจริญวัย ก็เป็นผู้เลิศกว่าใคร ๆ ในโลก ทรงมีพระปัญญาสว่างไสว สามารถสำเร็จความรู้ในศิลปศาสตร์ 18 ประการ ภายใน 7 วันต่อมาเมื่อทรงเห็นภัยในวัฏสงสารก็ทรงออกผนวช เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ ทรงบำเพ็ญเพียรอย่างกลั่นกล้า จนกระทั่งได้ตรัสรู้ ณ ภายใต้ควงไม้พระศรีมหาโพธิ์ ในวันตรัสรู้นั้น พระองค์ทรงมีพระทัยตั้งมั่น ใจหยุดนิ่งได้อย่างสมบูรณ์ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7 …

20.วิสาขบูชา Read More »

5.สั่งสมธาตุบริสุทธิ์ในตัวเรา

ต้องรักษาใจใส ๆ นะ เลื่อนความขุ่นมัวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลยให้เหลือแต่ธาตุที่บริสุทธิ์อยู่ในตัวของเรา ในใจเราก็มีแต่ธาตุบริสุทธิ์ ในกายของเราก็มีแต่ธาตุบริสุทธิ์ทุกอณูกล้ามเนื้อเลยนะ แล้วก็สิ่งแวดล้อมตั้งแต่ผิวกายเราออกไปก็มีแต่ธาตุบริสุทธิ์ให้เกิดขึ้น เมื่อธาตุบริสุทธิ์ทั้งหลายมารวมกัน จะเกิดมวลแห่งอานุภาพ ที่จะทำให้เกิดสิ่งอัศจรรย์ขึ้นกับชีวิตของเรา และโลกใบนี้ด้วย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าลืมสั่งสมธาตุบริสุทธิ์กันให้เยอะ ๆ ความขุ่นมัวไม่เอานะ เราทิ้งไปก่อน ใช้วิธีสั่งหมองก่อน เหมือนเราสั่งน้ำมูกทิ้งไปอย่างนั้นนะ พอมันเริ่มจะจุกจิกใจ ก็รีบสั่งหมองเลย ใจเราจะได้เหลือแต่ธาตุที่บริสุทธิ์ เพราะใจเราเข้ามาได้ทีละอย่าง ถ้าบุญเข้าบาปไม่เข้า ถ้าบาปเข้าบุญไม่เข้า ถ้าใจใส ความหมองไม่เข้า ถ้าใจหมอง ความใสไม่เข้า เพราะฉะนั้น เราต้องเอาแต่สิ่งดีๆ บรรจุให้เต็มในตัวเรา ให้โอกาสโลก ขันธโลก สัตวโลก ใสสะอาดบริสุทธิ์ สัตวโลก ได้แก่ จิตใจ ขันธโลก คือ ขันธ์ 5 ร่างกายของเรา และโอกาสโลก คือ สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ผิวกายเราออกไปถึงแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาลโน่น ให้บริสุทธิ์เลย 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 พระธรรมเทศนา โดย …

5.สั่งสมธาตุบริสุทธิ์ในตัวเรา Read More »

6.อดีตที่ผิดพลาด…ลืมให้หมด

ชีวิตของเราแต่ละคนล้วนเคยพลาดพลั้งกันมาทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย ชีวิตต่อไปอย่าให้พลั้งพลาดอีก แล้วก็จำ 5 ข้อเอาไว้ คือ ข้อ 1 อย่าไปตอกย้ำซ้ำเดิมสิ่งที่ผิดพลาด เดี๋ยวดวงบาปมันจะโต ให้ลืมไปเลย เหมือนเราไม่เคยเจอมาก่อน ข้อ 2 สิ่งที่เป็นบาปอกุศลทุกชนิดไม่ทำเพิ่มอีก ข้อ 3 หมั่นนึกถึงบุญที่ได้สั่งสมมาทั้งหมด ข้อ 4 สั่งสมบุญให้เยอะ ๆ ทั้งทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น27 ข้อ 5 ปลอดภัยที่สุด คือ ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน หรืออย่างน้อยต้องได้ดวงใส ๆ เพราะว่าตอนสุดท้ายจิตของเราจะได้ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง สุคติจะได้เป็นที่ไป ถ้าได้เข้าถึงพระธรรมกายละก็ เราเลือกไปเกิดในภพภูมิไหนก็ได้ เพราะพระธรรมกายมีอานุภาพไม่มีประมาณ เพราะฉะนั้นต้องขยันทำความเพียรกันทุกคน บุญอะไรที่มีอยู่ทุกบุญ อย่าให้ตกเลยแม้แต่บุญเดียว ทั้งทำด้วยตัวเองและชวนคนอื่นทำด้วย อย่างนี้จึงจะถูกหลักวิชชา 1 กันยายน พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 …

6.อดีตที่ผิดพลาด…ลืมให้หมด Read More »

7.อารมณ์ใส อย่าปล่อยให้เสีย

สมมติว่า เราไปเจอสิ่งที่กำลังทำให้อารมณ์ขุ่นมัว เราต้องมีสติอยู่กับตัวของเรา รักษาใจไว้ ดูใจของเรา รักษาใจให้ใส ๆ หากอยู่บริเวณนั้น โอกาสจะใสยาก ก็เปลี่ยนบริเวณ เปลี่ยนทิศ เปลี่ยนทาง เปลี่ยนสถานที่ แล้วก็นิ่ง ๆ เอาไว้ เพราะอารมณ์ที่ทำให้ขุ่นมัวจะอยู่กับเราไม่นาน พอเราไม่สนใจ มันก็ไม่ขุ่น ใจจะเริ่มใส และแทนที่จะนึกถึงภาพบุคคลนั้น เรื่องราวเหล่านั้น เราก็มานึกถึงดวงใส ๆ องค์พระใส ๆ บุญใส ๆ ที่เราได้กระทำผ่านมาด้วยความปีติ เบิกบาน ภาคภูมิใจ หรือนึกถึงคำภาวนา สัมมาอะระหัง มาแทนที่ นับไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวใจจะใสเอง ใจใสนี่แหละเหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ และเหมาะสมที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ …

7.อารมณ์ใส อย่าปล่อยให้เสีย Read More »

8.การแก้แค้นที่ถูกวิธี

การแก้แค้น…ไม่ใช่การเอาคืนอย่างสาสม แก้แค้นอย่างนี้ ยิ่งเป็นการผูกโกรธ ยิ่งผูก ก็ยิ่งทุกข์ ยิ่งยุ่งเหยิง คำว่า “แก้แค้น” ครูไม่ใหญ่ว่า หมายถึง ความแค้นที่ผูกไว้กับเขาถูกแก้ออก “แก้” คือ ทำให้หลุด หรือทำให้คลาย เช่น เราแก้เชือกที่ผูกมัดอะไรออก หรือแก้เชือกห่อก๋วยเตี๋ยวออกมาเปิดกินกัน เป็นต้น ดังนั้น แก้แค้น จึงหมายความว่า แก้ให้ความแค้นคลายออก จนหายโกรธหายแค้นไปเลยด้วย “สันติวิธี” พอแก้ออกได้ ความเจ็บใจ คับใจก็หายไป ใจก็จะเย็นสบาย สุดท้ายจะมีความสุขกันทุกฝ่าย อย่างนี้จึงจะเรียกได้ว่า “แก้แค้น” 11 กันยายน พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

9.ทำตัวประดุจผ้าขี้ริ้ว

คุณยายอาจารย์ฯ1 ตอนท่านมีชีวิตอยู่ จะบอกหลวงพ่ออยู่เรื่อย ๆ ว่าต้องเป็นผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้านะ ใครเขาจะเหยียบย่ำเราก็ช่างเขาเถอะ ใจเราจะได้สบาย ไม่หงุดหงิด ไม่งุ่นง่าน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่รำคาญใจ ใจจะได้ใส ๆ ศึกษาวิชชาธรรมกายได้ละเอียด แล้วท่านก็บอกอีกว่า ตึกใหญ่ ๆ ทั้งหลัง จะกี่สิบกี่ร้อยชั้นก็ตาม ลงทุนสร้างกันเป็นพัน ๆ ล้าน หมื่น ๆ ล้าน ถ้าไม่มีไม้กวาด ไม่มีผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้า ตึกทั้งตึกก็ไร้ความหมาย มันจะมีฝุ่น มีหยากเยื่อ หยากไย่ ความสกปรกอะไรต่าง ๆ เหล่านั้น เพราะฉะนั้น ผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้าสำคัญนะ ต้องทำตัวให้เหมือนผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้า ทำกันได้หรือเปล่าจ๊ะ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2545 1 คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง (ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย) พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ …

9.ทำตัวประดุจผ้าขี้ริ้ว Read More »

10.อันตัวเรานั้น…ตายแน่ ๆ

ความตายไม่มีนิมิตหมาย เป็นสิ่งที่เราจะต้อง เตือนใจของเราบ่อย ๆ ทุกวันเลย เวลามา มันปุ๊บปั๊บมา โดยที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย ถ้าหากเราได้สั่งสมบุญเอาไว้อย่างเต็มที่แล้ว เราก็มีความพร้อมเสมอว่า จะไปตอนไหน ที่ไหน เวลาใดก็ได้ แต่ถ้าหากเราสั่งสมบารมีกันยังไม่เต็มที่ละก็ นึกแล้วหวาดเสียวนะ ดูอย่างคุณยายอาจารย์ของเรา ขนาดท่านสั่งสมบุญมาอย่างสม่ำเสมอ ท่านยังมีความรู้สึกว่าเพิ่งจะทำบุญไปได้นิดเดียวเท่านั้น ท่านมักจะพูดให้หลวงพ่อหรือผู้ใกล้ชิดฟังบ่อย ๆ ว่า ยายมีความรู้สึกเหมือนยายเพิ่งได้ บุญไปนิดเดียว ฟังดูแล้วเหมือนท่านถ่อมตัวนะ ท่านบอกไม่ได้ถ่อมเลย มันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ท่านอยากจะทำบุญให้มาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ตลอดชีวิตของท่านเป็นไปเพื่อการสร้างบารมีอย่างเต็มที่เลย ท่านยังมีความรู้สึกอย่างนั้น 14 กันยายน พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

11.เจริญมรณานุสติ

บางคนพอพูดถึงเรื่องตาย เกิดความกลัวขึ้นมา อย่างกับตัวจะไม่ตายอย่างนั้นแหละ ขอยืนยันว่า กลัวก็ตาย ไม่กลัวก็ตาย ไม่อยากเจอความตาย ก็ต้องเจอ ทุกสถานที่ในโลกนี้ เราปฏิเสธไม่ไปได้ แต่ปรโลกปฏิเสธไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องซ้อม ๆ กันเอาไว้ ซ้อมตายทุกคืนเลย ทำง่าย ๆ โดยสมมติว่า เราจะไปคืนนี้ เราจะนึกอะไรดี…การนึกคิดอย่างนี้ ไม่ใช่เป็นการแช่งตัวเองนะ ตรงกันข้าม กลับเป็นการเพิ่มบุญ เพราะจิตดวงนี้ประกอบไปด้วยปัญญา เขาเรียกว่า “เจริญมรณานุสติ” คือ เอาดวงปัญญามาพิจารณาถึงความตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ถาวรของทุกชีวิตว่า ถ้าเราตายตอนนี้ และเราอยู่คนเดียว เราจะเตรียมตัวอย่างไร เป็นการวอร์ม ๆ ไว้ก่อน เราต้องหมดห่วง คือ ตัดห่วง จะห่วงอะไรก็ตัดใจไปเสียก่อน ตัดใจแม้อาลัยใจแทบขาด ต้องตัดอาลัย ตัดห่วงให้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ทรัพย์สมบัติที่เรามีกันตั้งพันล้านเอาทิ้ง ๆ ไป เอาวางไป ให้คนโน้น คนนี้ แจกจ่ายไป หนี้ที่มีเอาให้คนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง เฉลี่ยแจกจ่าย …

11.เจริญมรณานุสติ Read More »

12.ศีลธรรมช่วยคุ้มครองโลก

“โลกจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับกระแสใจของชาวโลก” ช่วงไหนกระแสใจของมนุษย์ตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดี ไม่ประมาทในชีวิต ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา สั่งสมบุญอยู่เป็นนิจ ในยุคนั้นบ้านเมืองก็จะอยู่เย็นเป็นสุข เศรษฐกิจเฟื่องฟู ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล โรคภัยไข้เจ็บน้อย ผู้คนมีอายุยืนยาว ผิวพรรณวรรณะผ่องใส ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีสภาพคล่อง ต่างก็มีความสุขกายสบายใจกันถ้วนหน้า แต่ในยามใดที่จิตสำนึกของมนุษย์ถูกกระแสบาปเข้าบังคับบัญชาอยู่ภายใน ให้คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว ใช้ชีวิตอย่างประมาท เมื่อนั้นเศรษฐกิจก็จะตกต่ำดินอากาศฟ้าแปรปรวน โรคภัยไข้เจ็บที่ไม่เคยมีก็จะเกิดขึ้น ยาที่ใช้รักษาก็หาได้ยาก เพราะฉะนั้น ศีลธรรมเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องช่วยคุ้มครองโลกให้ปลอดภัย ดังนั้นให้ทุกคนตั้งใจกันให้ดีที่จะเป็นผู้นำบุญ เป็นผู้นำศีลธรรมชี้นำทางชีวิตจิตวิญญาณของมวลมนุษยชาติทั้งหลายให้ไปในทิศทางที่สูงขึ้น แม้ใคร ๆ จะเห็นแก่ตัว แต่เราไม่เห็นแก่ตัว ใครสร้างบาป เราสร้างบุญ ใครหวั่นไหว เราไม่หวั่นไหว ใครกำลังใจตกต่ำ เรากำลังใจสูงขึ้น หมั่นสั่งสมบุญบารมีเรื่อยไป หากวันใดทุกคนในโลกคิดอย่างนี้ ทำอย่างนี้ และทุกคนมีศีลธรรมประจำใจ เมื่อถึงวันนั้น โลกก็จะกลับมาพบกับสันติสุขอีกครั้งอย่างแน่นอน 4 มกราคม พ.ศ. 2541 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ …

12.ศีลธรรมช่วยคุ้มครองโลก Read More »

13.สาเหตุภัยพิบัติต่าง ๆ และวิธีแก้ไข

ภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็น อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย โจรภัย ภัยทุกชนิด ล้วนแต่มีเหตุทั้งสิ้น สาเหตุหลัก ๆ ก็คือ เพราะคนห่างหายจากศีลธรรมนั่นเอง ดังนั้น ดีที่สุดคือ เราทุกคนทั่วโลก ต้องทดลองทำแตกต่างจากที่เคยทำที่ผ่านมา โดยพร้อมใจกันฟื้นฟูศีลธรรมโลกให้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง โดยเว้นจากการฆ่า เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการพูดปด เว้นจากการดื่มสิ่งมึนเมา เว้นจากอบายมุข เว้นสิ่งที่ไม่ดีให้หมด แล้วก็มาทำความดี ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เจริญศีล สมาธิ ปัญญาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ให้เป็นอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ถึงระดับปฐมมรรค มรรคจิต มรรคปัญญา ถ้าได้อย่างนี้เป็นอย่างน้อย สิ่งดี ๆ จะค่อย ๆ เกิดขึ้น เราจะเห็นโลกยุคพระศรีอริยเมตไตรยในยุคนี้เลย 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย …

13.สาเหตุภัยพิบัติต่าง ๆ และวิธีแก้ไข Read More »

14.มาถอยหลังลงคลองกันเถอะ

บัณฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อนกล่าวไว้ว่า ยุคใด สมัยใด ถ้าคนห่างเหินจากศีลธรรม ภัยพิบัติต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้น เช่น ฝนตก น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว ไฟไหม้ เป็นต้น ภัยพิบัติต่าง ๆ จะเกิดขึ้น ถ้าคนเสื่อมจากศีลธรรม เพราะฉะนั้นเราทุก ๆ คนทั่วประเทศมาสำรวจตรวจตราดูตัวเองว่า เราห่างเหินจากศีลธรรมหรือเปล่า ห่างจากการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาไหม ห่างการดูแลผู้มีศีลมีธรรมไหม หรือไปรังแกผู้มีศีลมีธรรมหรือไม่ เราก็ไปทบทวนดู ถ้าหากว่า เราทำเราก็ปรับปรุงแก้ไขเสีย แล้วเข้าใกล้ศีลธรรมให้มาก ๆ เข้า สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้น ดินอากาศฟ้าจะไม่แปรปรวน ฝนจะตกต้อง47 ตามฤดูกาล ผลหมากรากไม้มีรสโอชา มนุษย์จะมีโรคภัยไข้เจ็บน้อย อายุยืนยาว เศรษฐกิจดี ซื้อง่ายขายคล่อง กำไรงาม เป็นต้น นี่เป็นเรื่องที่เราต้องหันกลับมาทบทวน มาถอยหลังเข้าคลองธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเราเลยคลองกันไปเยอะแล้ว ออกนอกลู่นอกทางกันไปเยอะแล้ว มาเข้าสู่ในลู่ของบัณฑิตนักปราชญ์ ลงคลองแห่งธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถอะ อย่างนี้เรียกว่า ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ถอยหลังลงคลอง …

14.มาถอยหลังลงคลองกันเถอะ Read More »

15.ทำไมต้องเร่งฟื้นฟูพระพุทธศาสนา

ถ้าสังเกตให้ดี เราจะพบว่า โลกของเราในยุคปัจจุบันไม่เหมือนโลกในยุคพุทธกาลหรือยุคอดีต เพราะในยุคนี้มีโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นสายพันธุ์ใหม่ ๆ และมีความรุนแรงเกิดขึ้นมามากมาย แม้วิทยาการทางการแพทย์จะเจริญก้าวหน้ามากมายเพียงใดก็ตาม แต่สำหรับโรคบางโรคก็ยังหายาหรือวิธีการรักษาโรคไม่ได้ ที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร เราอาจไม่เชื่อว่า โรคทุกโรคล้วนเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น เพราะเมื่อมนุษย์ประกอบอกุศลกรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ตั้งมั่นในศีล 5 มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดโกหก เพ้อเจ้อ คำหยาบ ส่อเสียด ดื่มสุราเมรัย สูบเสพสิ่งเสพติดต่าง ๆ มัวเมาในอบายมุขเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นต้น พญามารก็จะได้ช่องเอาบาปของมนุษย์ทั้งหลาย ทั่วโลกมาประมวลรวมกัน จากนั้นก็ซ้อนบาปศักดิ์สิทธิ์เข้าไปประกอบในโอกาสโลก ขันธโลก และสัตวโลก โอกาสโลก คือ สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ร่างกายเราออกไป รวมไปถึงบรรยากาศภายนอกจนกระทั่งถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว จักรวาลต่าง ๆ ขันธโลก คือ ขันธ์ 5 ร่างกายของเรา มวลมนุษยชาติ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย สัตวโลก คือ จิตใจของเรา ของมวลมนุษยชาติ และสรรพสัตว์ พญามารจะเอาบาปนี้ซ้อนประกบตั้งแต่โอกาสโลก …

15.ทำไมต้องเร่งฟื้นฟูพระพุทธศาสนา Read More »

16.พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน

พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว เพื่อเราและโลก จะได้พบสันติสุขที่แท้จริง เราจะต้องรวมกันให้เป็นหนึ่งเดียว เลิกแบ่งพรรคแบ่งพวก มันหมดสมัยแล้ว แล้วก็หันมาปรองดอง มารู้รักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มาสร้างบุญ สร้างบารมี มาแสวงหาหนทางพระนิพพาน แล้วทำประโยชน์ให้แก่เพื่อนมนุษย์กันจะดีกว่า เดี๋ยวก็วัน เดี๋ยวก็คืน เดี๋ยวก็จะหมดเวลาจากโลกนี้ไปแล้ว โลกมนุษย์ คือ โลกแห่งการสร้างบารมี ไม่ใช่โลกแห่งการเสวยบุญ ละโลกไปแล้ว เราหมดสิทธิ์ที่จะสร้างบารมีได้เหมือนกายมนุษย์ เพราะเป็นภพภูมิแห่งการเสวยผล ไม่ว่าบุญหรือบาป ดีหรือชั่วก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่เราจะต้องตอกย้ำซ้ำเดิมกันทุก ๆ วัน แล้วทำความเข้าใจกันให้ดี 30 มกราคม พ.ศ. 2547 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่