วันบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

วันบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

วันนี้เป็นวันสำคัญอย่างยิ่งของนักสร้างบารมี ที่มุ่งจะศึกษาวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราได้กำหนดเอาวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ซึ่งเป็นวันบรรลุธรรมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากนํ้า ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เป็นวันบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เพื่อมาระลึกนึกถึงปฏิปทา ข้อวัตรปฏิบัติของท่าน ที่ท่านได้อุทิศชีวิตจนกระทั่งได้บรรลุธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุ เมื่อ ๔๓ ปีที่ผ่านมา ที่โบสถ์วัดโบสถ์ (บน) บางคูเวียง วังหวัดนนทบุรี

วันนี้เราก็จะได้มาระลึกนึกถึงท่าน นึกถึงวิชชาธรรมกายนี้ เราจะได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมน้อมถวายบุญกุศลที่เกิดขึ้นจากการทำภาวนา บูชาธรรมท่าน เราจะบูชาครูวิชชาธรรมกายด้วยความเคารพอย่างยิ่ง เพราะว่าหลวงพ่อวัดปากนํ้าท่านเป็นปูชนียบุคคลที่หาได้ยาก ท่านมีพระคุณอย่างจะนับจะประมาณไม่ได้ มีความสำคัญต่อชาวโลกและต่อพวกเราเป็นอย่างยิ่ง ถ้าปราศจากการสละชีวิตของท่านแล้ว เราจะไม่มีวันรู้จักคำว่า ธรรมกาย เลย คำว่าธรรมกายก็จะมีปรากฏเพียงในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเท่านั้น เราจะไม่รู้จักว่าเป็นอย่างไร มีความสำคัญแค่ไหน จะเข้าถึงได้ด้วยวิธีการใด

เราจะไม่มีวันได้รู้จักเลย ถ้าท่านไม่นำเรื่องราวของธรรมกายมาเปิดเผย ยิ่งถ้าเราได้ศึกษาวิชชาธรรมกายให้ลึกซึ้ง เราก็จะยิ่งซาบซึ้งในพระคุณของท่าน มากกว่าที่เคยได้ยินได้ฟังมา เพราะท่านมีมโนปณิธานที่ยิ่งใหญ่ ที่จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ใปให้หมดทุกๆ ภพทีเดียว ใจท่านมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมอยู่ตลอดเวลา ยังไม่เคยมีใครคิดอย่างนี้เลย นี่ก็เป็นสิ่งที่บังเกิดขี้นได้ยาก แต่ก็บังเกิดขึ้นแล้วด้วยมหากรุณาที่ไม่มีประมาณของท่านที่มีต่อมวลมนุษยชาติ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล

เมื่อหลวงพ่อวัดปากนํ้าท่านได้บรรลุธรรม ได้เห็นแผนผังชีวิตของท่านและของสรรพสัตว์ทั้งหลายแล้ว ท่านก็มองเห็นว่า ที่ต่างต้องมีทุกข์กันอยู่นั้นน่ะ เป็นผลมาจากเหตุข้างใน ซึ่งมีแหล่งกำเนิดที่ผลิตความทุกข์ทรมานครอบคลุมสรรพสัตว์ทั้งหมด ตลอดทั้งมนุษย์ ทิพย์ ธรรม ครอบคลุมโอกาสโลก ขันธโลก สัตวโลก ทั้งหมดเลย และ ท่านก็ย้งค้นพบต่อไปว่า มีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะให้พ้นจากทุกข์ทั้งมวลได้คือ ต้องไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม จะต้องไปขจัดต้นเหตุของความทุกข์ทรมาน แล้วตัวท่านเองก็ทำอย่างนั้นมาตลอดชีวิตของท่าน

ท่านได้เคยพูดเอาไว้ตอนหนึ่ง เมื่อครั้งที่ท่านได้แสดงธรรม ราวปีพุทธศักราช ๒๔๙๗ ว่า “ผู้เทศน์เอง ได้ค้นคว้าหาเหตุผลเหล่านี้หนักหนา แต่ว่ายังไปไม่ถึงที่สุด ถ้าไปสุดเวลาใดล่ะก็ วิชชาของผู้เทศน์นี้สำเร็จเวลานั้นเวลานี้ กำลังไปอยู่ทั้งวันทั้งคืน วินาทีเดียวไม่ได้หยุดยั้งเลย ตั้งใจจะไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ให้สุดวิราคธาตุ วิราคธรรม แต่มันยังไม่สุด ถ้าว่าสุดแลัวล่ะก็ รู้กันหมดทั้งสากลโลก ไม่ต้องสงลัยล่ะ รบราฆ่าฟันเลิกกันหมด มนุษย์อยู่ร่มเย็นเป็นสุขหมด ไม่ต้องทำมาหาเลียงชีพ มีผู้เลี้ยงเสร็จ เป็นสุขเหมือนอย่างกับพระ เหมือนอย่างกับเทวดา เหมือนกับพระนิพพาน ท่านทำงานที่แท้จริงอย่างนี้มาตลอด จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิตท่าน ชาติที่ผ่านๆ มาท่านก็ทำมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ตราบใดที่ภารกิจยังไม่หมดสิ้น ท่านก็ยังมีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะ รื้อสัตว์ ขนสัตว์กันต่อไป จะอีกกี่ภพกี่ชาติก็ตาม จะต้องไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรมให้ได้

นับว่าเป็นบุญวาสนาของพวกเรา ที่ได้มาเกิดในร่มเงาบารมีของท่าน จึงได้มีโอกาสศึกษาธรรมะ เรียนรู้วิชชาธรรมกาย ที่ได้รับการสืบทอดมาจากท่าน ทำให้เราและชาวโลกมีหลักในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง มีเป้าหมายของชีวิตที่ถูกต้องสมบูรณ์

เพราะฉะนั้น ความสำคัญของท่าน ไม่ใช่แค่เป็นเพียงบุคคลสำคัญของโลกเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเพียงบุคคลสำคัญของจักรวาล แต่เป็นบุคคลสำคัญของธาตุธรรมเลยทีเดียว พระคุณของท่านจึงมีมากมายมหาศาล เกินกว่าที่จะสรรหาคำใดๆ มาพรรณนา ยากที่เราจะทดแทนพระคุณของท่านได้หมด แต่เราในฐานะศิษยานุศิษย์ก็จะทำอย่างเต็มที่ เต็มกำลังสติปัญญาความสามารถของเราคือทำทั้งอามิสบูชาและปฎิบัติบูชา ทำตามคำสั่งสอนของท่าน ท่านรักในการปฏิบัติธรรม เอาจริงเอาจัง เราก็ต้องรักในการปฏิบัติธรรม ขยันนั่งธรรมะเอาจริงเอาจังเหมือนอย่างท่าน ท่านมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม เราก็ต้องมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมด้วย อย่าให้อะไรมาเป็นอุปสรรคในการทำใจหยุดนิ่งที่จะไปให้ถึงจุดหมายปลายทางได้ ถ้าทำได้อย่างนี้ จึงจะได้ชื่อว่า เป็นการบูชาธรรมท่าน บูชาพระคุณของท่าน

เพราะฉะนั้น วันนี้เป็นวันดี วันบูชาครูบาอาจารย์ของเรา ให้ตั้งใจเจริญสมาธิภาวนาให้ดีเป็นพิเศษกันทุกๆคน

วันพุธที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๓

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา หนังสือ แม่บทเดินทางข้ามวัฏสงสาร

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *