๔-๑ คล้ายกรงขัง

ปากทางแห่งความเสื่อม ปากทางดูสวยสดงดงาม ดูหรูทีเดียว
เราลองไปดูรูงู รูเต่า หรือหลุมโจนดักปลา
ปากทางมันลื่น สวย ลงง่าย เช่นเดียวกับปากทางแห่งความเสื่อม แห่งความหายนะ ดูสวยสดงดงาม ลื่นและลงง่ายอย่างนั้น เห็นแล้วชวนแก่การเข้าไปจริงๆ
แต่พอหล่นตกลงไปแล้ว ขึ้นไม่ได้
พันธนาการของชีวิตก็เช่นเดียวกัน
เรามองออกไปนอกวัด เห็นเพื่อนฝูง เห็นชาวโลกได้เรียนสูงๆ จบปริญญา นั่งรถเบนซ์ รถเก๋ง มีลูกมีเต้า
เข้ามาวัดหัวเราะร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส มีคนนับหน้าถือตา มีบริวารห้อมล้อม พรั่งพร้อมทุกอย่าง เขาคงจะมีความสุข
ส่วนเราอยู่ในวัด นั่นก็ระเบียบ นั่นก็วินัย นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้สักอย่าง
อยากจะกินก๋วยเตี๋ยวตอนกลางคืนก็ไม่ได้ กินมาม่าใส่ไข่เยี่ยวม้าก็ไม่ได้ จะดูนั่นดูนี่ก็ไม่ได้ ได้ยินเสียงกล้ามเนื้อกระตุกก็เต้นไม่ได้ มันชักอึดอัด
แล้วดูเพื่อนฝูงที่อยู่ข้างนอก ดูเขามีความสุขจังเลย
แต่นั่นละ
หน้าชื่นอกตรม คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า
จะออกก็ไม่ได้ แต่คนนอกยังไม่รู้เรื่อง ยังสงสัยอยู่ อยากจะเป็นอย่างนั้น สุดท้ายก็หล่นหลุมโจนตกลงไปในไห

ดูเผินๆ ตื้นๆ เหมือนเราอยู่ในกรงขัง แล้วดูชาวโลกเหมือนอยู่นอกกรง แต่จริงๆ แล้วกลับตาลปัตรกันเลย
เราดูเหมือนอยู่ในที่แคบ แต่เราจะไปสู่ที่กว้างที่สุด ที่ไม่มีขอบเขต เป็นอิสระ กว้างขวางใหญ่โต
ส่วนทางโลกนั้นดูเหมือนกว้างแต่ติดพันธนาการของชีวิต ไปไหนมีเครื่องผูกหย่อนๆ ตลอดเวลา
ห่วงลูก ห่วงครอบครัว ห่วงนั่นห่วงนี่ ไปต่างประเทศ ไปไกลๆ นึกว่าจะไม่ห่วง ก็ยังห่วงบ้าน เหมือนมีเชือกผูกหย่อนๆ อยู่ตลอด
ในที่สุดก็อยู่ในที่แคบ ไม่เป็นอิสระ

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
วันที่ วันศุกร์ที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙
ที่มา
หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย
อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *