ความสำเร็จอยู่ที่ใจ

5. ความสำเร็จอยู่ที่ใจ
เราต้องลบทัศนคติผิดๆ ที่เห็นว่าบาลีเป็นเสือนะจ๊ะเพราะความสำเร็จทุกอย่างอยู่ที่ใจทั้งนั้น
ที่อินเดียมีโยคีอยู่ท่านหนึ่ง เขาเรียกกันว่า โยคีเสือ แต่เดิมเขาก็ไม่ได้เป็นโยคีหรอก เป็นชาวอินเดียธรรมดา รูปร่างก็เหมือนชาวอินเดียทั่วไป ไม่ใหญ่ไม่เล็ก วันหนึ่งเขาเกิดมีความคิดขึ้นมาว่า เขาจะปล้ำเสือ จะจับเสือด้วยมือเปล่า ไม่ใช่เสือในสวนสัตว์ และไม่ใช่เสือในละครสัตว์ที่เขาฝึกมาอย่างดีแล้วนะ แต่เป็นเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่ๆ ในป่าของอินเดีย

ปกติ เสือมันมีอำนาจอยู่ในตัวนะ ขนาดเสือสต๊าฟที่ตายแล้ว เขาเคยทดลองเอาสุนัขโยนไปต่อหน้ามัน สุนัขก็ร้องเอ๋ง แล้วนอนอยู่ตรงนั้นเลย โยนไปทีไร ร้องเอ๋งทุกที แล้วก็นอนอยู่หน้าเสือสต๊าฟตรงนั้นแหละ มันแพ้กันจริงๆ แต่ชายหนุ่มคนนี้เขามีความคิดที่จะจับเสือมือเปล่า แล้วเขาก็ทำได้สำเร็จหลายครั้งทีเดียว จับแล้วก็เอาเข้ากรง

เคยมีคนเข้าไปถามเขาว่า เสือมันน่ากลัว ทำไมจึงใช้มือเปล่าจับได้ เขาบอกว่า เขาไม่เคยเห็นว่ามันเป็นเสือเลย เขาเห็นเป็นแมว คนนั้นถามต่อว่า เคยบาดเจ็บบ้างไหม เขาบอกว่า มีเหมือนกัน บางครั้งก็บาดเจ็บ คนก็ถามต่อว่า ทำไมบาดเจ็บ เขาตอบว่า เพราะวันนั้นเห็นมันเป็นเสือ พอเห็นเป็นเสือก็รู้สึกกลัว ที่เรียกว่า โยคีเสือ ส่วนหนึ่งก็เพราะกิตติศัพท์ในการจับเสือ

วันหนึ่ง บารมีของเขามาถึงหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ มีโยคีท่านหนึ่งออกมาจากป่า รูปร่างผอม ตัวเล็ก ๆ สะพรั่งด้วยเส้นเอ็น ไปยืนอยู่หน้าบ้านของเขา ยืนเฉยๆ เขานึกว่าขอทาน ก็ไล่ไป โยคีก็ไม่ไป กลับพูดดีๆ ว่า “มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องมารับลูกเข้าไปอยู่ในป่า” แล้วก็ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ยอมไป คนจับเสือชักหงุดหงิด พูดไม่รู้เรื่อง จะจับโยคีตัวบางๆ เล็กๆ โยนออกไป เพราะตัวเองเคยจับเสือได้ แต่โยคีนั้นนั่งนิ่ง ๆ เอามือเหี่ยวๆ ผอมๆ นั้นจับข้อมือของคนจับเสือ แล้วจูงเข้าป่าไปเลย เขาบอกว่า มันไม่มีแรงเลย พอถูกโยคีจับ ก็ไม่มีแรง เดินตามเข้าป่าไปเลย เป็นสิ่งอัศจรรย์ทีเดียวนะจ๊ะ ทุกอย่างอยู่ที่ใจ

หลวงพ่อเคยคุยกับฤๅษีท่านหนึ่ง ผมยาว หนวดเครายาว เขาวิ่งไปบนน้ำได้ หลวงพ่อก็ถามว่า เอ๊ะ! ท่านฤๅษี ทำไมวิ่งไปบนน้ำได้ ท่านฤๅษีก็บอกว่า ไม่ได้เห็นเป็นน้ำหรอก เห็นเป็นดิน ถ้าเห็นเป็นน้ำแล้วใครจะกล้าวิ่ง เห็นไหมจ๊ะ ทุกอย่างอยู่ที่ใจทั้งนั้น

ดูหลวงพี่ของเราสิ เดี๋ยวนี้เรามีประโยค ๙ ถึง ๗ องค์แล้ว และมี ๒ องค์ ไม่เคยสอบตกเลย เป็นนาคหลวงด้วย หลวงพี่ท่านทำมาแล้ว หลวงพ่อจึงเชื่อว่า ลูกเณรต้องทำได้เหมือนกัน เป็นความรู้ศึกลึกๆ ของหลวงพ่ออยู่ตลอดเวลาว่า ลูกเณรทำได้ เมื่อหลวงพ่อเชื่อเรา เราก็ต้องเชื่อตัวเราเองว่าเราทำได้ มีอะไรที่เป็นช่องโหว่ของเรา เราก็แก้ข้อบกพร่องให้หมด ดูแลตัวของเราให้ดี ถ้าต่างคนต่างดูแลตัวเอง พร้อมใจกันสอบได้ เราก็ยกชั้น เป็นสิ่งที่ยู่ในวิสัยที่เราจะทำได้นะลูกนะ

เราไม่จำเป็นต้องเอาความท้อมาใช้ในตอนนี้ เพราะเอามาใช้มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เราต้องเอาความคิดว่า “เราทำได้” มาใช้ นะจ๊ะ
๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ที่มา
หนังสือ พ่อสอนลูก
www.dhamma01.com/book/1
๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *