ครูไม่ใหญ่แสวงหาคำตอบของชีวิต 22/01/52

. เรียบเรียงโอวาท (28.40)
. ครูไม่ใหญ่แสวงหาคำตอบของชีวิต
. คุณๆรู้ไม๊เนี่ย คุณน่ะ หลวงพ่อวัดปากน้ำให้ยายไปตามมาเกิดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

การได้อยู่กับผู้บริสุทธิ์นี่นะ ผู้มีคุณธรรมและมีคุณวิเศษ มันเป็นความสุขมากทีเดียวแหละ คำว่าฝูงเนื้อเข้าสู่ฝูงเนื้อ ฝูงนกฝูงนก คือธาตุอันไหนมันตรงกัน จะดึงดูดเข้าหากัน มันเป็นอย่างนั้นจริงๆนะ คืออยู่กันคนละทิศคนละทางไม่ได้รู้จักกัน แต่พอล็อคบุญ ที่เคยได้สั่งสมร่วมกันมาดึงดูดเข้าหากันนี่ ก็ไปเจอกันได้อย่างมหัศจรรย์เลย นี่ก็เป็นความรู้สึกปิติสุข ความสุขของครูไม่ใหญ่นะ ที่ได้ไปอยู่ในร่มเงาบารมีของท่าน ตั้งแต่อายุ 19 ปีอย่างที่ได้เคยเล่าให้ฟัง แม้ว่าไปในครั้งแรกๆ เจอคำพูดอะไรที่เราไม่คุ้นเคยและเราไม่รู้จักก็ตาม แต่มันน่าฟังและดึงดูด ให้เราอยากฟังอีก

คือนอกเหนือจากการที่ครูไม่ใหญ่ได้แสวงหาคำตอบของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิด นรกสวรรค์อะไรต่างๆนั่นนะ ได้แสวงหามาจากหลายที่หลายทาง ก็ยังไม่ได้พบคำตอบ และได้มาพบคำตอบที่ยาย

ที่ต้องมาแสวงหาคำตอบ ก็เพื่อที่อยากจะดำเนินชีวิตให้มันถูกต้อง ปิดอบาย ไปสวรรค์ มีความสุขในปัจจุบัน อยากจะได้คนที่ให้คำตอบเรา เป็นบุคคลที่ท่านได้พิสูจน์ด้วยตัวของท่านเองแล้ว และก็สรุปคำตอบนั้นมาให้ จะทำให้เราได้ย่นย่อเวลาในการแสวงหา เพราะชีวิตเป็นของน้อย มีเวลาน้อย ไม่ช้าก็จากกันไปแล้ว เพราะงั้นอยากทำสิ่งที่ดีที่สุดให้เกิดขึ้นกับชีวิต ในช่วงแรกๆก็ศึกษาว่า คำสอนของผู้ใด ในโลกนี้ที่จะให้คำตอบเราในเบื้องต้นได้ คำสอนของบุคคลนั้นน่ะ บุคคลนั้นคือใคร ในที่สุดก็สรุปว่าคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก็เป็นคำสอนที่ดูแล้วก็ลึกซึ้ง เกินกว่าการที่เราซึ่งเป็นผู้ใหม่ ช่วงอายุน้อยๆจะเข้าใจได้ จะต้องหาผู้ที่ได้ศึกษาเรียนรู้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและก็พัฒนาตนเองจนกระทั่งมีประสบการณ์ภายใน ยืนหยัดยืนยันคำสอนนั้นได้ อย่างนั้นแหละจึงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ได้

ครูไม่ใหญ่ก็ได้คุณยายนี่แหละ ที่เวลาถามท่านตรงๆ ยาย..นรกมีจริงไหม สวรรค์มีจริงไหม ท่านก็ตอบเรียบๆ ง่ายๆ สั้นๆว่า “มีจริง ยายไปมาแล้ว ไปช่วยพ่อยาย พ่อยายตายแล้วไปตกนรก เพราะดื่มเหล้าวันละ 10 สตางค์ ยายก็ไปช่วยพ่อยายด้วยวิชชาธรรมกาย คุณอยากไปไหมล่ะ ยายจะสอนให้และไปด้วยกัน”

สั้นๆ เรียบง่ายแต่มีพลัง ยังจำได้จนกระทั่งบัดนี้ แล้วก็ประโยคที่ (คน) ใหม่ๆไม่ค่อยเข้าใจแต่ชอบฟัง อย่างเช่น ตอนนั้นยังไม่ได้บวช

“คุณๆรู้ไม๊เนี่ย คุณน่ะ หลวงพ่อวัดปากน้ำให้ยายไปตามมาเกิดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2”

ก็ไม่เข้าใจนะ แต่ชอบ และก็พยายามแสวงหาคำตอบ แต่กว่าจะได้คำตอบ แต่กว่าจะได้คำตอบท่านบอกว่า “คุณนั่งไป คุณนั่งไปก่อน” ครูไม่ใหญ่ก็นั่งไป แล้วท่านก็ไปนั่งที่โรงงานทำวิชชา ในภารกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของการเป็นนักบวชของท่าน ในเพศของแม่ชีอุบาสิกา เป็นปกติ เป็นหลัก เพราะว่าเป็นหัวหน้าเวร “ขาดรู้” จากการแต่งตั้งของพระเดชพระคุณหลวงปู่ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายนี่แหละ

หลังจากนั้นก็ได้รับการถ่ายทอด คำสอนอะไรต่างๆเยอะแยะ ท่านจะพูดซ้ำๆนะ ไม่ใช่ว่าท่านหลงลืม แต่ว่าท่านตอกย้ำซ้ำเดิม เหมือนตอกตะปูหลายๆที ตอกย้ำซ้ำเดิม ประโยคนี้ต้องจำๆๆ

เหมือนการแสวงหาประสบการณ์ภายใน ก็ต้องตอกย้ำซ้ำๆที่เดิม และก็ต้อง ช้าๆ ชัดๆ ทุกขั้นตอน ตั้งแต่หยุดนิ่งแรกได้ นิ่งไปเรื่อยๆ ช้าๆ ชัดๆ ทุกขั้นตอน ไปเรื่อยๆ เราย้ำที่เดิมแต่ไม่ได้อยู่ที่เดิม ย้ำอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่ว่าไม่อยู่ที่เดิม ความละเอียดจะเพิ่มขึ้น อีกมิติหนึ่งๆๆไป เรื่อยๆ อย่างนี้ไง ท่านจะพร่ำสอนอย่างนี้ ซ้ำๆๆๆ ให้จำให้แม่นๆ อย่างนี้

ก็ได้ศึกษาเรียนรู้ ท่านก็จะค่อยๆ ทั้งอบ ทั้งรม ทั้งบ่ม อบให้หอม รมให้ติด บ่มให้สุกนี่ นิสัยค่อยๆดีงาม ค่อยๆ ถูกขัดเกลาเรื่อยๆ เป็นช่วงที่มีความสุขที่สุดเลย ช่วงที่ก่อนบวชนะ 4 – 5 ปีนั้นมีความสุข อยู่บ้านหลังเล็กๆ อาสนะเดียว ที่นั่งเดียว ไม่มีอะไรรองนั่งหรอก มีแผ่นกระดาน พื้นบ้านหลังเล็กของคุณยายนะ และหลังพิงเสาหัวด้วนต้นเล็กๆ ชอบมากเลยชีวิตในช่วงนั้น แต่พอเลยช่วงนั้นจนกระทั่งบัดนี้ อยากปลีกวิเวกแล้วแหละ

แหม มันเป็นภารกิจนะ ที่ท่านมอบให้มา ไม่ได้อยากเด่นอยากดัง เพราะไม่ใช่อัธยาศัย แต่นี่เป็นภารกิจ มันเป็นบารมีของเราแล้วก็เป็นภารกิจให้สำเร็จให้ได้ เพราะเราอยู่ในทีมที่ขยายวิชชา ต้นตออยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระเดชพระคุณหลวงปู่ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เอามาแตกต่อ มาขยาย ก็เป็นสาขาหนึ่งของวัดปากน้ำนะ วัดพระธรรมกายเนี่ย สาขาหนึ่ง ทั้งทีมก็ทุ่มเทชีวิตจิตใจ

นี่จ๊ะเราก็จะค่อยๆดูดซึมกระแสความบริสุทธิ์ท่าน ไปทีละนิดๆ ความไม่บริสุทธิ์ในใจของเราก็จะค่อยๆหมดไป ทีละนิดๆ แม้ไม่หมดกิเลสก็ตาม แต่อยู่ในระดับคนดีที่โลกต้องการ อยู่ในสังคมอย่างมีความผาสุก เอาตัวรอดได้ อยู่ในวงไหนก็เอาตัวรอดได้ จะเอาตัวรอดได้จากสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย เข้าใกล้แต่ไม่ชิด ใกล้เพราะเราก็ต้องมีพรรคมีพวก ความสะดวกจะได้มี
คือผมเรียนวิชชาธรรมกายกับคุณยาย มันมีความสุขนะ และมันก็มองดูวิชาความรู้ต่างๆทางโลก มันไม่ได้เกิดประโยชน์อย่างสมบูรณ์ แม้ประโยชน์ในปัจจุบัน เพื่อเลี้ยงชีวิต บางทียังไม่เกิดประโยชน์อย่างสมบูรณ์ ถ้าแค่พอเลี้ยงชีวิต เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวอย่างนี้นะ และเพื่อเอามาสร้างบารมีนะอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าหากมันเกินจากนั้นแล้ว ไม่มีเป้าหมาย คือไม่รู้ว่ารวยไปทำไมน่ะ

เพราะครูไม่ใหญ่เคยถามมหาเศรษฐีของโลก คุณรวยไปทำไมเนี่ย คุณเก่งนะในการหาทรัพย์ แล้วคุณรวยไปทำไม เขาอึกอักแนะ แต่พอถามเรื่องธุรกิจ โอ้โห คล่องมาก มองดูวิชาทางโลก เอ มันก็มีข้อจำกัดนะในการให้ประโยชน์ แต่มันก็เป็นเรื่องจำเป็น แต่ก็ไม่ควรทำในสิ่งที่เกินควรลงไป เพราะว่าการที่จะได้ทรัพย์มา กว่าจะได้มา มีทั้งคู่แข่ง มีทั้งคู่แค้น มีทั้งคู่ค้าน มีข้อจำกัด

ประโยชน์ในอนาคตหลังจากที่ตายแล้ว ในภพชาติต่อไป โลกไม่ได้เรียนรู้เลย ชาวโลกไม่มีสอนกันในสถาบันไหนเลย ว่าชีวิตหลังจากตายแล้ว มีความเป็นอยู่ ดำรงอยู่อย่างไร ดำรงชีพอยู่ด้วยอะไร มีการทำมาหากินไม๊ มีการทำมาค้าขายไม๊ เราจะเอาความเก่งความชำนาญในโลกมนุษย์ไปใช้ในปรโลกได้ไม๊ นรกสวรรค์มีจริงไม๊ ถ้าไม่มีจริงก็เจ๊ากันไป ไม่มีการสอนๆ ประโยชน์อันสูงสุดคือการทำพระนิพพานให้แจ้ง ดับทุกข์ หลุดพ้นจากทุกข์ ไม่มีเลยๆ

เพราะฉะนั้นเรามาเรียนในวิชาที่ไม่มีข้อจำกัดดีกว่า และได้ประโยชน์อันสูงสุดด้วย ครูไม่ใหญ่ได้เรียนรู้ได้ศึกษาว่า นี่นะ ปิดอบาย ไปสวรรค์ มีสุขในปัจจุบัน และก็ดับทุกข์ได้ กระทั่งเรียนรู้ถึงการคำว่าทำพระนิพพานให้แจ้ง ที่ท่านสอน และท่านก็บอกขอบเขตของอายตนะนิพพาน นั้นเป็นอย่างไร และก็มักจะมาสิ้นสุดตรงนี้ แล้วก็ได้เรียนรู้มโนปณิธานหลวงปู่ โห มันเลย ณ จุดตรงนั้นไป เพราะว่าอายตนะนิพพานถอดกายนั้นน่ะ ดับกิเลสภายใน ของตัว ดับกิเลสภายในที่เป็นเหตุให้เวียนว่ายตายเกิด และก็ถ่ายทอดสอนให้แต่ละคนดับของตัว เป็นประดุจดวงตะวันที่มีพลังงานในตัว มีแสงสว่างในตัว เป็นอยู่ได้ด้วยตัวของตัวเอง กระทั่งใช้คำว่า นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานเป็นบรมสุข นี่เป็นคำกล่าวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ยืนยันเหมือนกันหมด

หลวงปู่ท่านสั่งสมบารมีอย่างนี้มายาวนาน ท่านก็มองเห็นว่า ถ้าดับตามลำพังเมื่อไหร่มันจะหมดซะที มันน่าจะมีวิธีการที่ ดับทีเดียวทั้งหมดเลย ต้นเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และก็หลุดพ้นกันไปพร้อมๆกัน และไม่ต้องลงมาอีก ไม่มีมาอีก ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล นิพพานถอดกายขนกันไปหมดเลย สรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่มีหลงเหลือเลย เออ อันนี้ถูกใจน่ะ

แล้วท่านก็สำทับซ้ำนะ “คุณน่ะทำมาแล้ว”

ตอนนั้นยังเป็นหนุ่มนะ ที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร เอะดีนี่ แล้วมันถูกใจจริงๆ ตั้งแต่นั้นมา มองเห็นโลกว่างเปล่าเลย อยากมาเรียนอยากศึกษา พอตอนเช้าก็ถึงวัด 2 ทุ่มก็กลับจากวัด ก็วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ ท่านก็จะถ่ายทอดอบรมบ่มนิสัย ทั้งหยาบทั้งละเอียด อบรมไปเรื่อยๆ ซ้ำๆ ที่ไม่ซ้ำก็มีแต่วิชชาธรรมกาย ซึ่งตอนนี้ชวนติดตามมาก และมันก็เกิดความรู้สึกขึ้นมาตอนนั้น วันนี้โรงเรียนความรู้จากคุณยายอาจารย์ ในปริมาณเท่านี้ พรุ่งนี้เราจะต้องเอามาต่อให้ได้แค่นี้ แค่นี้ๆไปเรื่อยๆ มันเกิดขึ้นเอง เพราะว่ามันชวนติดตามนะ ในการเรียนรู้ความรู้ภายใน ที่เข้าไปสู่ภายในเรื่อยๆ ที่เป็นความรู้ที่มาพร้อมกับความสุขและความบริสุทธิ์ ใจมันเกลี้ยงเกลา เป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง เวลานอนหลับนี่เป็นสุข เวลานั่งรถหลับตาลืมตา 3 ครั้งถึงที่หมาย ไม่ค่อยสนใจอะไรข้างทาง …ไม่มีความรู้สึกที่มีเวรมีภัยกับใคร เวลาหลับก็ใสๆ สว่าง เบาๆ

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *