อานิสงส์ถวายเสา ๑ ต้น ร่วมสร้างศาลา

อานิสงส์ถวายเสา ๑ ต้นร่วมสร้างศาลา (พระเอกถัมภิกเถระ อดีตผู้พิทักษ์ป่า)

ชายพิทักษ์ป่าได้ให้เสาไม้แก่นอย่างดีต้นหนึ่ง
ไปร่วมสร้างสถานที่บำรุงพระศาสดา

     การเกิดมาได้อัตภาพเป็นมนุษย์นั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นการยาก และการที่จะดำรงภาวะของความเป็นมนุษย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์นั้นยากยิ่งกว่า เพราะจะต้องรักษาตนให้รอดปลอดภัยจากอบายภูมิ เมื่อได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว การหมั่นประคับประคองตนเองให้ตั้งอยู่ในสัมมาทิฏฐิเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง สัมมาทิฏฐิของเราจะหนักแน่นมั่นคงได้นั้น ต้องเกิดจากใจที่บริสุทธิ์ผ่องใสไม่มีมลทินทั้งหลาย ใจจะผ่องใสและบริสุทธิ์ได้นั้น ต้องเป็นใจที่หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ หยุดในหยุดเข้าไป สัมมาทิฏฐิก็จะยิ่งบริบูรณ์ขึ้น
มีวาระแห่งพระบาลีที่ปรากฏอยู่ในเอกถัมภิกเถราปทานความว่า
 
“ยํ ยํ โยนูปปชฺชามิ เทวตฺตํ อถ มานุสํ
อนุโภมิ สพฺพเมตํ เอกตฺถมฺภสฺสิทํ ผลํ
เราเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือความเป็นเทวดาหรือความเป็นมนุษย์ก็ตาม
เราย่อมเสวยผลนั้นๆ ทั้งหมด นี้เป็นผลแห่งการถวายเสาต้นหนึ่ง ”

      การให้ทานเป็นทางมาแห่งบุญทางหนึ่ง บุญที่เกิดขึ้นในใจเป็นธาตุสำเร็จ ที่คอยอำนวยประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นแก่ผู้ได้ทำบุญ ทุกๆ คนที่เกิดมาในโลกนี้มีสาเหตุที่ทำให้ต่างออกกันไปก็คือ บางคนบุญมาก บางคนบุญน้อย ความแตกต่างกันตรงจุดนี้ที่ทำให้แตกต่างกันทั้งรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณวรรณะและความเป็นอยู่ การที่เราจะสมความปรารถนาได้ในทุกสิ่งต้องอาศัยบุญในตัวเรา ฉะนั้นเราต้องสั่งสมบุญกันอย่างเต็มที่ ทำทุกๆ วัน ทุกลมหายใจเข้าออกของเราทีเดียว

     เหมือนสุภาษิตข้างต้นที่บ่งบอกให้รู้ถึงอานุภาพของบุญว่า เป็นเครื่องยืนยันให้ตระหนักถึงคุณค่าของบุญได้อย่างดียิ่งว่า เราทำกรรมใดเอาไว้ เรานั่นแหละที่จะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น เหมือนชีวิตการสร้างบารมีของพระอรหันต์รูปหนึ่ง พอท่านบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว มีธรรมจักขุดวงตาธรรมกาย ก็ได้มองย้อนกลับไปดูถึงผลแห่งการสร้างบารมีของท่านเองในอดีตก็พบว่า ผลแห่งการสร้างบุญเพียงเล็กน้อย ได้ส่งผลให้เข้าถึงทิพยสมบัติอันไม่มีประมาณเกินควรเกินคาด ความถึงพร้อมแห่งสมบัติทั้งหลายไม่เคยสูญหายไปไหนเลย เหมือนเงาที่ติดตามตัวไปอย่างนั้น ผลอันเกินควรเกินคาดนี้หมายถึงว่า เราคิดไม่ออกว่าจะได้มากแค่ไหน ผลที่ออกมานั้น มันมากเกินกว่าที่เราจะคาดคิดเอาได้ ดังผลบุญที่เกิดขึ้นกับพระเอกถัมภิกเถระ

     * ชีวิตของพระเถระนี้ ทุกภพทุกชาติที่ท่านเกิดมาสร้างบารมีนับได้ว่า ท่านเป็นบัณฑิตนักปราชญ์อย่างแท้จริง เพราะไม่เคยมองข้ามการสร้างบารมีแม้เพียงเล็กน้อยเลย ชีวประวัติในการเกิดมาในแต่ละชาติ สามารถที่จะเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตให้กับชาวโลกได้ มีอยู่สมัยหนึ่งในยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ พระเถระได้บังเกิดในครอบครัวปานกลางครอบครัวหนึ่ง แต่ก็เป็นตระกูลที่มีทรัพย์สมบัติไม่ขาดตกบกพร่อง ท่านมีอาชีพเป็นผู้ดูแลป่าไม้หรือที่เรียกว่า ผู้พิทักษ์ป่า

      ในกาลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนน์อยู่นั้น พุทธบริษัททั้งหลาย เป็นผู้ที่มีศีล มีศรัทธาเต็มเปี่ยม ต่างเป็นผู้ที่ขวนขวายในการสร้างบุญอยู่เนืองนิตย์ เวลาที่เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดาก็ดี หรือเวลาที่ไปหาพระภิกษุสงฆ์ก็ดี ก็จะสอดส่ายสายตาหาบุญอยู่เสมอว่า ยังมีบุญอะไรพอที่เราจะทำได้อีก จนกระทั่งในวันหนึ่ง พุทธศาสนิกชนทั้งหลายมองเห็นว่า โรงฉันที่มีอยู่เดิมไม่สามารถที่จะอำนวยความสะดวกให้กับพระศาสดาและหมู่สงฆ์ได้อย่างเต็มที่ จึงคิดจะทำบุญกันใหญ่โดยร่วมกันสร้างศาลาที่บำรุงพระบรมศาสดาและพระภิกษุสงฆ์ จะได้เป็นทั้งที่ฉันที่ประชุมและที่ปฏิบัติธรรม ให้ท่านได้รับความสะดวกสบายในการบำเพ็ญสมณธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

     เมื่อคิดกันอย่างนี้ ไม่มีใครสักคนเลยที่พูดว่า ขอคิดดูก่อน ทุกๆ คน ต่างก็คิดทำก่อนทั้งนั้น พอมีมติตรงกันอย่างนี้ก็เริ่มงานกันทันที โดยไม่รอฤกษ์รอยามแต่อย่างใด ทุกๆ คนตั้งใจเอาบุญกันอย่างเต็มที่ ด้วยหัวใจดวงเดียวกันว่า จะต้องสร้างศาลาที่บำรุงพระบรมศาสดาและหมู่สงฆ์ให้สำเร็จทันใช้อย่างรวดเร็วที่สุด แล้วก็พากันเดินทางเข้าไปในป่าเพื่อเสาะแสวงหาไม้มาใช้ในการก่อสร้าง ใช้เวลาหาอยู่นานพอสมควรก็ได้ไม้มาสำหรับดำเนินการก่อสร้าง

     แต่ยังขาดเสาอยู่เพียงต้นเดียวเท่านั้น จึงพากันเข้าไปหาอีกรอบ ก็ได้ไปเจอชายพิทักษ์ป่าท่านหนึ่ง จึงแจ้งข่าวบุญให้ทราบว่า “ตอนนี้พวกเรากำลังรับบุญใหญ่ ช่วยกันสร้างศาลาถวายพระบรมศาสดาจวนจะเสร็จอยู่แล้ว แต่ขาดความสมบูรณ์เพียงนิดเดียว คือขาดเสาเพียงต้นเดียวเท่านั้น วันนี้เอาบุญใหญ่มาให้ท่าน ขอท่านช่วยทำความปรารถนาของพวกเราให้สำเร็จด้วยเถิด แล้วตัวท่านเองก็จะได้บุญใหญ่ติดตัวไปด้วย นี่เป็นบุญของท่านแท้ๆ ท่านเป็นเจ้าของบุญนี้โดยเฉพาะ”

     ชายพิทักษ์ป่าพอได้ฟังอย่างนั้น ก็เกิดมหาปีติขึ้นมาทีเดียวว่า วันนี้นับเป็นบุญลาภของเราแล้วหนอ บุญใหญ่มาหาเราถึงในป่า เราจะต้องรับเป็นเจ้าของบุญนี้ให้ได้ พอคิดได้อย่างนี้ก็กล่าวตอบว่า “ท่านทั้งหลายอย่าวิตกกังวลไปเลย บุญใหญ่ก้อนนี้ที่ทุกท่านมอบให้ เราไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน และก็ขอขอบคุณที่ท่านเอาบุญใหญ่มาฝาก” ว่าแล้วก็ได้ให้เสาไม้แก่นอย่างดีต้นหนึ่ง ไปร่วมสร้างสถานที่บำรุงพระศาสดา

     ด้วยการถวายเสาในครั้งนั้น ทำให้ชายหนุ่มผู้นั้นเกิดมหาปีติอย่างไม่มีประมาณทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำบุญให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยว่างเว้นจากการทำบุญเลย ได้ตั้งใจสร้างบุญทุกชนิดทั้งทาน ศีล ภาวนา ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ชายหนุ่มได้ทำไว้ ละโลกไปแล้วก็ได้เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์และท่องเที่ยวอยู่ในภพสวรรค์นั้นครั้งแล้วครั้งเล่า เข้าถึงมหาสมบัติจักรพรรดิในโลกมนุษย์นี้ นับครั้งไม่ถ้วนเลย

     ในสมัยพุทธกาลนี้ก็ได้เกิดในตระกูลสัมมาทิฏฐิ บุญบันดาลให้มีโอกาสได้ฟังธรรมในสำนักพระบรมศาสดา ฟังแล้วเกิดความเลื่อมใสจึงตัดสินใจออกบวช เล่าเรียนกัมมัฏฐานและบำเพ็ญเพียรอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่นานก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พอบรรลุธรรมแล้วก็ตรวจตราด้วยญาณทัสสนะที่บริสุทธิ์ของกายธรรมอรหัต ได้มองย้อนไปในอดีตเห็นบุพพกรรมของตนที่ได้สั่งสมมา เกิดความปีติโสมนัสจึงกล่าวด้วยมหาปีติว่า

     “ผลแห่งบุญนี้ช่างเกินควรเกินคาด พุทธศาสนิกชนผู้รักในบุญ ต่างก็พากันขวนขวายสร้างบุญ พากันสร้างศาลาบำรุงพระศาสดา ได้ชักชวนให้เราร่วมสร้างบุญด้วย เราได้ถวายเสาไปเพียงต้นเดียวเท่านั้น มหาสมบัติอันเกินควรเกินคาดได้บังเกิดขึ้นกับเรา มีมหาวิมาน ๗ ชั้น ตั้งตระหง่าน ความสุขและความสมปรารถนาบังเกิดขึ้นกับเราทุกๆ อย่าง นี้เป็นผลที่เราได้ถวายเสาเพียงต้นเดียว ด้วยอานิสงส์ในครั้งนั้น ตลอดระยะเวลาที่เวียนว่ายตายเกิด เราได้เข้าถึงที่สุดแห่งมนุษย์สมบัติ เป็นพระเจ้าจักรพรรดินับภพนับชาติไม่ถ้วน ตั้งแต่ภพชาตินั้น เราก็ไม่เคยรู้จักทุคติเลย คุณวิเศษทั้งหลาย คือปฏิสัมภิทาญาณ ๔ วิโมกข์ ๘ อภิญญา ๖ เราได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสอนของพระศาสดา เราได้ทำเสร็จแล้ว ด้วยอานุภาพแห่งบุญนั้น ผลแห่งบุญนี้ช่างเกินควรเกินคาดทีเดียว ”

     เรื่องราวที่หลวงพ่อนำมาเล่านี้ เป็นเรื่องจริงที่มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกที่ควรจดจำและนำไปเป็นแบบอย่างของการทำความดี เพราะผลแห่งบุญที่บังเกิดขึ้นนี้ มีแต่เกินควรเกินคาดอย่างน่าอัศจรรย์ทีเดียว บุญที่เราตั้งใจสร้างกันอย่างเต็มที่ และทำอย่างสมํ่าเสมอโดยไม่ปล่อยโอกาสแห่งการสร้างบุญให้ผ่านเลยไป นั่นก็เท่ากับว่าเราได้เปิดโอกาสให้กับตัวของเราเองได้เป็นเจ้าของมหาสมบัติทั้งหลาย ทั้งมนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติและนิพพานสมบัติที่ลํ้าค่าที่สุดในชีวิต บุญที่เราสั่งสมจะเป็นเสบียงติดตัวเราไปทุกชาติ คอยอำนวยประโยชน์สุขให้บังเกิดขึ้นกับเราตลอดเวลา ดังนั้นทุกท่านต้องตระหนักถึงเรื่องการสร้างบุญกันให้ดี ชีวิตของเราจะสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาเอาไว้ก็เพราะบุญเหมือนกับพระเถระองค์นี้ ฉะนั้นให้สร้างบารมีกันต่อไปจนกว่าบารมีเราจะเต็มเปี่ยมบริบูรณ์

*   มก. มหากปิชาดก เล่ม ๗๑ หน้า ๖

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/11431
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับอานิสงส์แห่งบุญ ๑

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *