กรรมตามสนอง

กรรมตามสนอง (นายพรานทำอันตรายต่อพระภิกษุผู้ไม่เป็นอันตราย )

     สรรพสิ่งทั้งปวงที่มีอยู่ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ตัวของเรา บุคคลอื่นหรือสรรพสัตว์ทั้งหลายก็ตาม ต่างอยู่บนพื้นฐานของความจริงทั้งสิ้น คือไม่เที่ยง แปรปรวน เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมทุกวินาที และสูญสลายไปในที่สุด เพราะฉะนั้นเราควรแสวงหาสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน นำความสุขและความบริสุทธิ์ที่แท้จริงมาให้แก่ชีวิต ด้วยการปฏิบัติธรรมในหนทางสายกลาง ซึ่งเป็นเอกายนมรรค ทางเอกสายเดียว มุ่งตรงสู่พระนิพพาน  

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตร้สไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า
“โย อปฺปทุฏฺฐสฺส นรสฺส ทุสฺสติ
สุทฺธสฺส โปสสฺส อนงฺคณสฺส
ตเมว พาลํ ปจฺเจติ ปาปํ
สุขุโม รโช ปฏิวาตํว ขิตฺโต
     ผู้ใดประทุษร้ายต่อนรชนผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสดุจเนิน บาปย่อมกลับถึงผู้นั้นซึ่งเป็นคนพาล เหมือนธุลีอันละเอียด ที่ซัดไปทวนลมฉะนั้น”

     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญการฆ่า การทำร้าย หรือการว่าร้ายกัน เพราะการกระทำเช่นนั้น ย่อมทำให้เกิดความไม่สงบสุขและความไม่สามัคคี จะนำมาซึ่งความเดือดร้อน การทะเลาะวิวาทและการผูกเวรกัน ยิ่งถ้าไปประทุษร้ายต่อผู้ที่ไม่ประทุษร้ายตอบแล้ว ยิ่งเป็นกรรมหนักทีเดียว ผลของกรรมจะย้อนกลับมาหาตนเอง เหมือนการถ่มน้ำลายรดฟ้าหรือปาธุลีทวนลม ซึ่งผู้กระทำย่อมได้รับความเดือดร้อนเอง

     * ดังเรื่องที่ปรากฏในสมัยพุทธกาลว่า มีนายพรานคนหนึ่งชื่อนายโกกะ เป็นคนดุร้าย ไม่ชอบทำบุญทำกุศล เช้าวันหนึ่งเขาเข้าไปล่าสัตว์ในป่าพร้อมกับสุนัขล่าเนื้อ ในระหว่างทางได้พบกับพระภิกษุรูปหนึ่งเดินบิณฑบาตอยู่ พรานเห็นแล้วเกิดความไม่พอใจ เพราะตนเป็นผู้ไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เป็นผู้มีความเห็นผิดคิดว่าพระภิกษุเป็นคนกาลกิณี จึงรีบเดินจากไปด้วยความหงุดหงิด ส่วนพระภิกษุก็เดินบิณฑบาตด้วยอาการปกติของท่าน

     วันนั้น นายพรานออกล่าสัตว์ตลอดเช้าไม่ได้อะไรเลย เขาจึงเดินกลับบ้านด้วยความหงุดหงิด ในระหว่างทางที่เดินกลับบ้าน เขาพบพระภิกษุรูปเดิมอีก จึงคิดด้วยความเป็นคนพาลว่า วันนี้คงเป็นเพราะพระรูปนี้แน่ ที่มาขัดโชคขัดลาภของเรา ทำให้เราล่าสัตว์ไม่ได้ ด้วยความโกรธเคืองในพระภิกษุ พรานจึงส่งสัญญาณให้สุนัขเข้าไปทำร้ายพระภิกษุรูปนั้น พระภิกษุเห็นว่าพรานมีความประสงค์ร้าย จึงบอกเขาว่าอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย แต่พรานก็ไม่ฟัง กลับสั่งให้ฝูงสุนัขวิ่งเข้าไปรุมกัดท่าน

     เมื่อจวนตัวพระภิกษุจึงรีบปีนขึ้นต้นไม้ ฝูงสุนัขตามขึ้นไปไม่ได้ ก็เห่าอยู่รอบบริเวณใต้ต้นไม้นั้น นายพรานเห็นว่าสุนัขของตนทำอะไรไม่ได้ ยิ่งโกรธหนักขึ้นไปอีก จึงใช้ปลายลูกศรแทงไปที่ขาและบริเวณฝ่าเท้าของพระภิกษุทำให้มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด แม้ท่านจะขอร้องอ้อนวอนให้เขาหยุดแทง แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เขากลับแทงกระหน่ำไม่ยอมยั้งด้วยความเป็นพาล

     พระภิกษุได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานมาก ท่านพยายามหลบหลีกปลายลูกศร จนกระทั่งจีวรของท่านหลุดตกลงมาคลุมนายพราน ฝูงสุนัขเข้าใจผิด คิดว่าพระภิกษุตกลงมาแล้ว ก็วิ่งกรูกันเข้าไปรุมกัดนายพรานจนเสียชีวิต พระภิกษุจึงหักกิ่งไม้แห้งขว้างใส่ฝูงสุนัข พวกสุนัขแหงนขึ้นดู เห็นพระภิกษุอยู่บนต้นไม้ จึงรู้ว่าได้กัดเจ้าของของตนตายเสียแล้ว ก็ตกใจกลัว ต่างพากันวิ่งหนีเข้าป่าไป

     พระภิกษุรูปนั้น มีความสงสัยว่าศีลของตนด่างพร้อยหรือไม่ จึงเดินทางกลับวัดพระเชตวันด้วยความไม่สบายใจ เมื่อไปถึงก็เข้าไปกราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ทรงสดับเรื่องทั้งหมดแล้ว ตรัสว่า “ศีลของเธอไม่ขาด ไม่ด่างพร้อย เพราะเธอไม่มีเจตนา ความเป็นสมณะของเธอยังมีอยู่ แต่เพราะพรานได้ประทุษร้ายเธอ ผู้ไม่ประทุษร้ายตอบ เขาจึงถึงความพินาศเพราะการกระทำของเขาเอง พรานนี้ถึงความพินาศมิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อนเขาก็ได้ประทุษร้ายผู้ไม่ประทุษร้ายตอบ และได้ถึงความพินาศมาแล้วเหมือนกัน” จากนั้นพระพุทธองค์จึงทรงนำเอาอดีตของพรานมาตรัสเล่าให้ภิกษุนั้นฟังว่า

     ในอดีตชาติพรานเกิดเป็นหมอเที่ยวรักษาโรคไปตามหมู่บ้านต่างๆ แต่วันหนึ่งไม่มีใครมารักษากับเขาเลย เมื่อไม่มีคนไข้ก็ไม่ได้ทรัพย์ เขาเดินไปพบเด็กกลุ่มหนึ่งซึ่งกำลังเล่นกันอยู่ ก็เกิดความคิดประทุษร้ายเด็กพวกนี้ โดยจะแกล้งให้ถูกงูกัด ตนเองจะได้ช่วยรักษาเพื่อแลกกับทรัพย์

     เขาจึงหลอกเด็กว่ามีลูกนกสาลิกาตัวหนึ่งอยู่ในโพรงต้นไม้ ถ้าอยากได้ก็ให้ไปล้วงเอา เด็กคนหนึ่งลองเอามือล้วงเข้าไปในโพรง จับได้แล้วจึงเอาขึ้นมาดู เมื่อรู้ว่าเป็นงูก็ตกใจจึงเหวี่ยงออกไป งูตัวนั้นลอยไปคล้องคอของหมอ เขาจึงถูกงูรัดคอตายในที่นั้นเอง พระพุทธองค์ตรัสแก่ภิกษุว่า “นายพรานคนนี้ แม้ในอดีตก็ประทุษร้ายต่อผู้ไม่ประทุษร้ายตอบ จึงได้ถึงความพินาศเพราะกรรมตามสนอง เหมือนคนปาธุลีทวนลม ผงนั้นย่อมย้อนกลับเข้าตาตนเอง”

     เพราะฉะนั้น บาปกรรมแม้เพียงเล็กน้อยอย่าได้ทำกัน สิ่งใดก็ตามที่ทำแล้วใจเราเศร้าหมองขุ่นมัว พึงเตือนตนเองให้ละเว้นสิ่งเหล่านั้น อย่าไปยินดีในบาปอกุศล เพราะผลของบาปจะทำให้เราได้รับความเจ็บปวด ต้องทุกข์ทรมานรํ่าไป เราจึงควรสำรวมระวังกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ เหมือนพระบรมโพธิสัตว์ที่ไม่ว่าจะเกิดมากี่ภพกี่ชาติก็ตาม ล้วนมุ่งแสวงหาความบริสุทธิ์กายวาจาใจไปทุกภพทุกชาติ จนในที่สุดได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

     เมื่อธาตุธรรม เห็น จำ คิด รู้ ของท่านบริสุทธิ์แล้ว ท่านจึงเสวยสุขได้เต็มที่เป็นสุขอย่างเดียว ที่เรียกว่าเอกันตบรมสุข สุขอย่างยิ่ง ไม่มีทุกข์เจือปนเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นความสุขที่กว้างขวาง เป็นอิสระไม่มีขอบเขต เมื่อจิตสะอาดบริสุทธิ์แล้ว ทำให้มีความรู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลายอีกด้วย เป็นความรู้แจ้งที่เกี่ยวกับตนเอง และเกี่ยวพันกับทุกชีวิต

     ความรู้แจ้งเกิดได้เพราะใจหยุด หากเราหยุดใจได้ จิตก็บริสุทธิ์ เมื่อบริสุทธิ์เต็มที่ ความสว่างก็บังเกิดขึ้น เราจะรู้เห็นไปตามความเป็นจริง ตั้งแต่เห็นธรรมเบื้องต้นที่เรียกว่า ดวงธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุตติ ดวงวิมุติญาณทัสสนะ และเห็นกายภายในเป็นลำดับ ตั้งแต่กายมนุษย์ละเอียด จนกระทั่งเข้าไปถึงพระธรรมกาย เป็นกายแห่งการตรัสรู้ธรรมซึ่งมีอยู่ในตัวของเราทุกคน

     กายธรรมนี้แหละเป็นกายที่รู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอดในธรรมทั้งปวง เพราะเห็นได้รอบตัว รู้ได้รอบตัว จึงรู้เห็นทุกสิ่งได้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง แตกต่างจากตามนุษย์ที่เห็นได้เพียงด้านเดียว ท่านจึงใช้คำว่า “วิปัสสนา” ซึ่งแปลว่าการเห็นที่วิเศษ แจ่มแจ้ง แตกต่างจากการเห็นของตามนุษย์ทั่วไป การเห็นด้วยธรรมกายจึงเป็นการเห็นที่ประเสริฐที่สุด

     เพราะฉะนั้น เราต้องตั้งใจปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ ถ้าเข้าถึงพระธรรมกายไม่ได้ เกิดมาชาตินี้ก็เสียเวลาไปฟรีๆ กับการมีชีวิตไม่มีแก่นสารอะไร เพราะไม่ได้เอาเวลาของชีวิตมาใช้ในการสร้างความดี มาทำหยุดทำนิ่งให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน ดังนั้น หมั่นฝึกใจให้หยุดนิ่ง ให้เข้าถึงพระธรรมกายกันทุกๆ คน

* มก. เล่ม ๔๑ หน้า ๔๕

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/12813
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับผลของบาป

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

1 thought on “กรรมตามสนอง”

  1. ✨ น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *