เส้นทางสู่ปรโลก

เส้นทางสู่ปรโลก

บุญบารมีที่สั่งสมเอาไว้อย่างดีแล้ว ย่อมเป็นเหตุนำมาซึ่งความสุข และความสำเร็จในชีวิต การที่เราได้โอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์นั้น จะต้องอาศัยบุญบารมีที่ได้สั่งสมไว้ดีแล้วในชาติปางก่อน จึงจะได้อัตภาพที่สมบูรณ์ มีอวัยวะครบถ้วน ๓๒ ประการ เหมาะแก่การงานทั้งปวง เมื่อเราได้ร่างกายที่สมบูรณ์ดีแล้ว เราก็ควรที่จะเอามาสร้างบุญบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่ควรนำไปใช้ผิดทางหรือประมาทเลินเล่อ ให้หมั่นให้ทานรักษาศีลและเจริญภาวนา ซึ่งเป็นทางมาแห่งบุญที่ทำให้เราถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และมรรคผลนิพพานในภพต่อๆ ไป แล้วชีวิตของเราที่เกิดมาในภพชาตินี้ก็จะมีคุณค่าและเป็นชีวิตที่มีแก่นสารอย่างแท้จริง

มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน รัชชุมาลาวิมาน ว่า
“สุขญฺจ กตปุญฺญานํ     อิธ เจว ปรตฺถ จ
เตสํ สหพฺยกามานํ      กาตพฺพํ กุสลํ พหุ ํ
กตปุญฺญา หิ โมทนฺติ   สคฺเค โภคสมงฺคิโน
สุขในโลกนี้และโลกหน้าจะมีแก่คนทำบุญไว้เท่านั้น ผู้มีความประสงค์อยู่ร่วมกับทวยเทพทั้งหลาย ควรกระทำกุศลกรรมให้มากไว้ เพราะผู้ที่มีบุญอันทำไว้ดีแล้ว ย่อมพรั่งพร้อมด้วยโภคสมบัติ และย่อมบันเทิงในสุคติโลกสวรรค์”

วิธีการทำบุญเพื่อเป็นเหตุให้ได้เดินทางไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ไปเป็นสหายแห่งทวยเทพ ได้เสวยทิพยสมบัติในปรโลกนั้น ทางพระพุทธศาสนามีวิธีการอย่างหลากหลาย ที่เราเรียกว่าบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ หรือย่อๆ ก็คือทาน ศีล ภาวนา ซึ่งที่ผ่านมาหลวงพ่อก็ได้ตอกยํ้าพรํ่าสอนพวกเราอยู่เสมอว่า ให้หมั่นสั่งสมบุญทุกอย่างและทุกรูปแบบ สร้างบารมีควบคู่ไปกับการทำมาหากินหรือการศึกษาเล่าเรียน เราจะหยุดพักในการสร้างบุญไม่ได้ เพราะถ้าหยุดทำบุญเมื่อไร บาปอกุศลก็เข้าแทรกทันที การต่อสู้แย่งชิงกันระหว่างสุกกธรรมคือธาตุธรรมฝ่ายขาวและกัณหธรรมธาตุธรรมฝ่ายดำ สองสิ่งนี้ไม่เคยว่างเว้นเลยแม้แต่วินาทีเดียว

เมื่อเทียบอายุขัยของตัวเรากับมนุษย์ในยุคก่อนๆแล้ว มนุษย์ในยุคสมัยนี้ มีอายุสั้นมาก จึงจำเป็นต้องใช้เวลาทุกอนุวินาทีให้เกิดประโยชน์ ให้กุศลธรรมเกิดขึ้นในใจตลอดเวลา ชีวิตหลังความตายจะได้ไปเสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์ ถ้าทำบุญเอาไว้มาก เราก็เลือกได้ ว่าจะไปเป็นสหายของเหล่าทวยเทพชั้นไหน ตั้งแต่สวรรค์ชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๖

ยิ่งหากเรามีบุญมาก ได้เข้าถึงพระรัตนตรัย ย่อมสามารถเลือกเกิดได้ด้วย แต่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่ายังมีชีวิตในปรโลก จึงมัวประมาทชะล่าใจ ไม่ได้สั่งสมบุญและไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อมก่อนตาย ชีวิตหลังความตายจึงไม่ปลอดภัย มีแต่ความหวาดสะดุ้ง เพราะไม่รู้ว่าตายแล้วจะต้องไปไหน แทนที่เมื่อละสังขารนี้ไปแล้ว จะมีเทวรถมารอรับพาขึ้นไปเสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์ กลับเป็นตรีทูตนุ่งผ้าแดงหยักรั้งมาพาไปยมโลก ต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาตัดสินกันระหว่างบุญกับบาป ว่าอันไหนแรงกล้ากว่ากัน จะไปเสวยสุขดีหรือว่าไปรับโทษในอบายภูมิกันดี

เพราะฉะนั้น หลวงพ่อจึงยังคงนำเรื่องราวการไปสู่ปรโลกมาเล่าให้พวกเราทุกคนได้เรียนรู้กันอีก เพื่อเราจะได้รายละเอียดมากขึ้นว่า เส้นทางการเดินทางไกลในสังสารวัฏของชีวิตมนุษย์นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในช่วงก่อนตายและหลังจากตายแล้ว จะต้องเดินทางไปที่ไหนกันบ้าง เมื่อรู้แล้วชีวิตจะได้ปลอดภัย และมีชัยชนะไปทุกภพทุกชาติ

โดยอัธยาศัยทั่วไปของมนุษย์จะมีความประพฤติดี หรือมีความกระด้าง หรือประณีตแตกต่างกันออกไป พอจะแบ่งย่อๆ  เป็น ๔ ประเภทด้วยกัน คือ

ประเภทแรก ชอบใจในการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ หมั่นทำทาน รักษาศีลและเจริญสมาธิภาวนาอยู่ไม่ขาด เพราะฉะนั้น ขณะใกล้ตายจะสามารถระลึกนึกถึงเรื่องบุญกุศลที่ตนเคยทำเอาไว้ได้ เพราะมีใจชุ่มอยู่ในบุญ ใจผ่องใสเป็นปกติ บุญกุศลอะไรที่ได้ทำเอาไว้ ก็จะมาปรากฏให้เห็นชัดเจน ละโลกไปแล้วก็ไปดี ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิทั้ง ๔

ประเภทที่ ๒ ชอบทำทั้งกุศลและอกุศลปะปนกันไป เมื่อถึงคราวใกล้ตาย ถ้าหากพยายามระลึกถึงบุญกุศลเอาไว้ให้มาก หรือมีผู้อยู่ใกล้ชิดช่วยเตือนสติให้ระลึกถึงกุศลกรรมที่ทำเอาไว้ ก็สามารถช่วยให้พ้นจากอบายได้เหมือนกัน เว้นแต่มีทุกขเวทนามาก เลยนึกไม่ออก และไม่มีญาติพี่น้องคอยเตือนสติ จิตใจจึงมีแต่ความหมอง กลุ้มใจเสียใจ อย่างนี้อาจต้องไปเจอพญายมราชในอบายภูมิ

ประเภทที่ ๓ ชอบทำบาปอกุศลมากกว่าทำบุญ ไม่มีอารมณ์อยากทำความดี หรือเป็นประเภทกินบุญเก่า มีความเชื่อมั่นในตัวว่า ที่ประสบความสำเร็จมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะหนึ่งสมองสองมือ และตนเองก็ไม่ได้ไปรบกวนใครให้ลำบาก การประพฤติตนก็ไม่เป็นภาระสังคม ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วสำหรับชีวิตนี้ ฉะนั้น พอใกล้จะละโลกก็นึกถึงบุญไม่ออก คนเรานั้นถ้าไม่ทำบุญ บาปก็เข้าแทรก เพราะฉะนั้น ก่อนตายแม้จะมีญาติพี่น้องมาช่วยให้นึกถึงบุญ ก็นึกไม่ออก ต้องช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่เป็นพิเศษทีเดียว จึงพอจะช่วยได้บ้างแต่ก็ยาก

ประเภทสุดท้าย คือทำอกุศลอย่างเดียว เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาป ไม่เชื่อเรื่องโลกนี้โลกหน้า ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ จึงไม่ทำบุญอะไรสักอย่าง พวกนี้ตายไปแล้ว ไม่พ้นจากการไปสู่อบายภูมิได้เลย ยกเว้นว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากท่านผู้มีบุญบารมีที่แก่กล้าจริงๆ เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยสาวกหรือผู้ที่มีธรรมกายได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย  นอกจากนี้ตัวของผู้ตายต้องมี อปราปริยเวทนียกรรม คือกุศลกรรมที่มีกำลังมากซึ่งตนเคยสร้างเอาไว้ในภพชาติปางก่อน จึงจะสามารถมาช่วยฉุดให้พ้นจากอบายภูมิได้

สำหรับนายนิรยบาลผู้ทำหน้าที่ควบคุม และคอยทรมานสัตว์นรกที่มีอยู่ในมหานรกนั้น พวกเราอาจสงสัยว่า เป็นใคร มาจากไหน นายนิรยบาลไม่ใช่เป็นสัตว์นรก แต่เกิดขึ้นมาด้วยอำนาจบาป ที่เกิดจากการประกอบอกุศลกรรมที่ตนเองได้ทำไว้ในขณะที่เป็นมนุษย์ ส่วนยมบาลในยมโลก มักจะมาจากเทวดาชั้นต้น เช่นพวกกุมภัณฑ์ ที่ต้องมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลการลงโทษสัตว์นรก สาเหตุเนื่องจากว่า ในระหว่างที่ดำรงชีวิตเป็นมนุษย์อยู่นั้น แม้ตัวจะบำเพ็ญกุศลเอาไว้ แต่ก็ยังมีใจยินดีที่เห็นเขาทำบาป บ้างก็สนับสนุนเชียร์เขา เพราะฉะนั้น เมื่อชอบทั้งกุศลและยินดีในบาปอกุศล ผลก็คือต้องไปเกิดเป็นพวกกุมภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นที่น่าเกรงขามและมีกำลังมากกว่าสัตว์นรก คือเมื่อสัตว์นรกเห็นแล้วต้องยอมสยบ นอกจากนี้ยังมีอีกายักษ์ นกยักษ์ หรือสุนัขยักษ์ ซึ่งล้วนไม่ใช่สัตว์เดรัจฉานธรรมดา แต่จะมีตัวโต มีปากเป็นเหล็ก สามารถเข่นฆ่าสัตว์นรกได้อย่างสบายๆ

กลไกการทำงานในมหานรกก็ดี ในขุมบริวารหรือในยมโลกก็ดี มีสิ่งที่น่าสนใจศึกษามาก เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีแต่ความมืดและร้อนแรงมาก เครื่องทัณฑ์ทรมานต่างๆ ก็ดี สถานที่ลงโทษให้ได้รับความทุกข์ทรมานก็ดี  ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองโดยมีอกุศลกรรมของสัตว์นรกเป็นปัจจัยให้ก่อเกิดตามแรงบาป เพราะฉะนั้น ในนรกจึงมีเครื่องทรมานที่พิสดารมากมาย เกิดขึ้นแทบจะไม่ซํ้าชนิดกันเลยทีเดียว ถ้ามนุษย์ทำบาปอกุศลด้วยอาวุธชนิดไหน อาวุธชนิดนั้นก็จะเกิดขึ้นมาสนองวิบากกรรมของสัตว์นรกนั้นๆ คือประกอบเหตุอย่างไร จะได้ผลตอบแทนคล้ายๆ อย่างนั้น แต่ว่าทารุณโหดร้ายกว่ามากนัก

ดังนั้น เมื่อเรามีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ก็ควรที่จะรีบขวนขวายสั่งสมบุญให้มาก ทำให้เต็มที่ และควรจะใช้เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดนี้ สร้างบุญให้มากที่สุดก่อนที่จะละจากโลกนี้ไป เมื่อละโลกจะได้ไม่ต้องไปตอบคำถามพญายมราช แต่ได้ไปเสวยสุขอยู่ในสุคติโลกสวรรค์กันเลย ฉะนั้นอย่าประมาทในการทำความดี และหมั่นฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ฝึกกันไปจนกว่าจะได้เข้าถึงพระธรรมกาย เราจึงจะรอดพ้นจากอบายภูมิอย่างแท้จริง

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/13381
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับปรโลก

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

1 thought on “เส้นทางสู่ปรโลก”

  1. น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🏵️🌺🌸💮🌼🌷🌷🌼💮🌸🌺🏵️

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *