นักธุรกิจผู้ที่หวังผลกำไรเป็นหลักนั้น จะมีบาปกรรมติดตัวไปหรือไม่

คำถาม:
ในฐานะที่กระผมเป็นนักธุรกิจ ก็มุ่งแสวงหาผลกำไรเป็นหลัก ผมอยากจะเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า ผู้ที่หวังผลกำไรเป็นหลักนั้น จะมีบาปกรรมติดตัวไปหรือไม่ครับผม

คำตอบ:
ลูกเอ๊ย…ถ้าค้าขายแล้วไม่เอากำไร แล้วมันจะกินอะไรกันล่ะลูก ค้าขายมันก็ต้องเอากำไรเป็นธรรมดา แต่ว่าที่ไม่ใช่ธรรมดาก็มีอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่

1.ค้าขายสิ่งที่ต้องห้าม ตรงนี้ไม่ว่าค้าแล้วจะเอากำไรหรือไม่เอากำไร ไอ้เจ้านี่บาป สิ่งที่ต้องห้าม อาชีพที่ต้องห้าม มีอะไรบ้าง ก็ตั้งแต่
ค้าอาวุธ เอาไว้ฆ่ากัน
ค้ามนุษย์ เช่น ค้าข้าทาส
ค้ายาพิษ เช่น ยาประเภท ยาฆ่าแมลง หรือยาเบื่อต่างๆ
ค้ายาเสพติด
อย่างนี้ไม่ได้ ค้าในสิ่งที่ไม่ควรค้าอย่างนี้ ยังไงเสียมันก็เป็นบาป

อย่าว่าแต่ค้าเลย เอาสิ่งเหล่านี้ไปแจกเขา มันก็เป็นบาป เอายาบ้า อย่าว่ายาบ้าเลยนะลูกนะ เห็นเดี๋ยวนี้ยังชอบทำกัน ในวันเกิด เอาเหล้าเป็นของขวัญให้คนโน้นคนนี้…บาปทั้งนั้น

ตอนยังไม่กินเหล้า ยังพูดภาษาคนกันรู้เรื่อง พอกินเข้าไปแล้ว ภาษาคนพูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะมันเมา

เพราะฉะนั้น ค้าเหล้าหรือแจกเหล้า เลี้ยงเหล้ากันนั่นน่ะ นั่นคือแจกความโง่ แจกความ…ถ้าว่าไปนะ…อย่าโกรธกันนะ…นั่นน่ะแจกนรกให้กัน…อย่างนี้แค่แจกก็เป็นบาป

เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดว่าเอาไปค้า แล้วมีกำไรหรือขาดทุน บาปทั้งนั้น  ประเด็นนี้ต้องชัดด้วย ค้าในสิ่งที่ทำให้ความเป็นคนของผู้อื่นหมดไป เสียหายไป บาปทั้งนั้น จัดเป็นอาชีพต้องห้าม

ทีนี้ ถ้าค้าสิ่งที่ควรค้า อยากจะค้าอะไร ค้าเข้าไป ถ้าสิ่งนั้นๆ มันไม่ได้ทำลายใคร แล้วเราจะเอากำไรของเรา มันก็เรื่องของเรา ใครติไม่ได้

แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อที่ควรระวังว่ามีสินค้าอยู่ 4ประเภท ที่ใครๆจะค้า และเอากำไรก็ไม่ว่ากัน แต่ว่าอย่าเกินควร ถ้าเกินควรล่ะก็ มันก่อให้ความเดือดร้อนกับคนส่วนรวมเขา ตรงนี้ก็เป็นบาป เพราะเกิดจากอกุศลจิตของเราที่อยากจะให้เขาเดือดร้อน มีอะไรบ้าง

สินค้าเกี่ยวกับปัจจัย4 ตรงนี้ต้องระวัง
1.อาหาร
2.เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
3.ที่อยู่อาศัย คือบ้านช่องห้องหอ ตลอดจนวัสดุก่อสร้าง
4.หยูกยาใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บ

สี่อย่างนี้ ถ้าใครค้าขายเอากำไรเกินเหตุ หรือเข้าข่ายกักตุน นี่คือเจตนาที่จะให้เพื่อนร่วมโลกเดือดร้อน เสียหาย ตรงนี้ก็บอกว่าอย่าทำนะลูกนะ นรกจะกินหัวเอา

ถึงแม้ว่าการค้าขายในสิ่งเหล่านี้ หรือกักตุนในสิ่งเหล่านี้ด้วยการโก่งราคาอย่างที่ว่ามานี้  มันอาจจะไม่ผิดกฎหมายในบ้านเมืองนั้นๆ แต่ว่าลูก อย่าไปทำ ทำแล้วมันเป็นบาปติดตัว เกิดไปอีกกี่ภพกี่ชาติเบื้องหน้าล่ะก็ ไม่ว่าบังเกิดในภพไหนๆ เดือดร้อนตลอดชาติ เพราะฉะนั้นอย่าไปทำนะ

แต่ว่าสินค้าบางอย่างเสียอีก หลวงพ่อว่า โก่งราคาได้ โก่งเข้าไปเถอะ…อะไร…พวกของฟุ่มเฟือยต่างๆ อยากจะโก่งราคาเอากำไรเยอะๆ ไม่มีใครว่ากัน เพราะมันเป็นของฟุ่มเฟือย มันไม่จำเป็น เช่นพวกเพชรนิลจินดา อยากจะตั้งราคาเท่าไหร่ ตั้งเข้าไปเถอะ ถ้าเขาซื้อล่ะก็ แพงเท่าไหร่แพงเข้าไป  อย่าไปกลัว ใครติเราไม่ได้

พวกน้ำหอมอะไรน่ะ…เราไปค้นมาได้…แหม…มันหอมแสนจะวิเศษเหลือเกิน แล้วถ้าเขายินดีจะจ่ายให้เราล่ะก็ โก่งราคาเท่าไหร่ เขาก็ยินดีจ่ายละก็ โก่งเข้าไปเถอะ…ลูกเอ๊ย จะได้รวยเร็วๆ รวยแล้วรีบเอามาทำบุญก็แล้วกันนะลูกนะ  ถ้าอย่างนี้เข้าท่าเชียว

เพราะฉะนั้น คำตอบสั้นๆ ในเรื่องว่าการค้าขายเอากำไรแล้วบาปไหม คือ ถ้าค้าขายเอากำไรพอเหมาะพอควรไม่ว่าอะไร ก็ไม่บาป

และถ้าอยากจะได้ให้มันรวยเป็นพิเศษ รวยเร็วๆ แล้วอยากจะโก่งราคาให้สูงๆ ก็มีทั้งที่บาป และไม่บาป

ถ้าไปค้าขาย ไปโก่ง ไปกักตุนสิ่งที่เป็นความจำเป็นในการยังชีพ สิ่งนั้นบาป ลูกอย่าทำ

แต่ว่าถ้าสิ่งนั้นเป็นของฟุ่มเฟือย แล้วเขายังอยากได้ ใครๆก็อยากได้ อยากประมูลแข่งกันแพงๆด้วย เอาไปเลย…ลูก…ทำได้…ไม่บาปหรอกนะ

โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *