หน้าที่นี้ไม่ทำไม่ได้
หน้าที่นี้ไม่ทำไม่ได้ “ไม่ทำ..ลูกหลานเราจะทำยังไง ไม่ทำ..พระพุทธศาสนาจะอยู่ยังไง ที่ทำได้ ก็เพราะอาศัยพวกเรานั่นแหละ…” โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา
หน้าที่นี้ไม่ทำไม่ได้ “ไม่ทำ..ลูกหลานเราจะทำยังไง ไม่ทำ..พระพุทธศาสนาจะอยู่ยังไง ที่ทำได้ ก็เพราะอาศัยพวกเรานั่นแหละ…” โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา
✍️”เตรียมโอวาทไว้ให้ลูกหลานในวันเกิด” . สำหรับใครที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูลหรือในครอบครัวก็ตาม ในวันเกิดของตัวเอง ลูกหลานมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ให้โอวาทที่ดีๆ กับลูกๆ หลานๆ ของตัวเอง . เพราะวันนั้นจะเป็นวันที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ ที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ เพราะวันนั้นเราทั้งได้สั่งสมบุญและทำบุญให้คุณพ่อคุณแม่ ทั้งชวนลูกหลานทำบุญ ก็เป็นวันที่อยู่ในบุญกันทั้งตระกูลทั้งครอบครัว . แม้แต่เทวดานางฟ้าที่ดูแลบ้านเราก็ดี ดูแลครอบครัวเรา เขาก็จะมาพร้อมใจกันให้พรเรา ให้ความคุ้มครองด้วย สิ่งเหล่านี้จะเป็นมงคลยิ่งๆ ขึ้นไป . เพราะฉะนั้น เราเองก็ต้องเตรียมพรเอาไว้ ที่จะให้ลูกหลานของเราที่มาทำบุญในวันเกิดของเราด้วย . หรือว่าถ้ามีลูกหลานคนใดกำลังทำผิดทำพลาดอยู่ ก็เตรียมคำพูดที่พอเหมาะ เตรียมธรรมะที่พอเหมาะเอาไว้ เอาไว้สำหรับให้สติพร้อมกับให้กำลังใจด้วย . ให้สติอย่างเดียวไม่พอ ให้สติจะได้กลับตัวกลับใจ แล้วก็ให้กำลังใจในการเริ่มต้นใหม่ และให้พรไปด้วย อย่างนี้ครอบครัวเราก็จะมั่นคง . ๑๙ มกราคม ๒๕๖๑ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา
✍️”ครอบครัวมีสุขเพราะร่วมกันสร้างบุญ” . พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบและสอนเรื่องของบุญไว้ ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า ชีวิตขึ้นกับบุญกับบาปที่แต่ละคนทำ ทุกคนปรารถนาความสุข ไม่มีใครอยากได้ความทุกข์ . เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็จำเป็นต้องสร้างบุญของตัวเอง หลีกเลี่ยงการสร้างบาปให้สุดชีวิตกัน ถ้าอย่างนี้ อนาคตก็จะสดใสด้วยกัน . ทีนี้เราอยู่กันเป็นครอบครัว อยู่คนเดียวไม่ได้ ความรู้ความสามารถของเราไม่พอที่จะอยู่คนเดียว มันต้องพึ่งๆ กัน เมื่อต้องพึ่งกัน ความสุขความทุกข์มันจึงอยู่ที่บุญและบาปของคนทั้งครอบครัวเอามารวมเอามาเฉลี่ย เอามาหารกัน มันอยู่ตรงนี้ . เพราะฉะนั้น อยากเห็นครอบครัวตัวเองมีสุข ก็ตั้งแต่ตัวเอง ปู่ย่าตาทวด พ่อแม่ พี่ๆ น้องๆ ลูกหลานของตัวเอง ก็ต้องอยู่ในบุญให้พร้อมหน้ากัน ถ้าอย่างนี้ก็เป็นหลักประกันว่า ครอบครัวเป็นสุขแน่ . ขณะมีชีวิตในโลกนี้ก็เป็นสุข แม้ต้องลาโลกไปแล้ว ด้วยบุญที่ทำเอาไว้ก็ยังไปเป็นสุขต่อในโลกหน้า จะไปเกิดเป็นมนุษย์ หรือจะไปเกิดเป็นเทวดาก็ยังมีบุญที่ทำกันไว้ในขณะเป็นมนุษย์นี้ตามส่งผลไป . ถ้าไปเกิดเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า เมื่อพ้นจากเป็นเทวดานางฟ้าแล้วกลับมาเกิดในโลกมนุษย์ ก็ยังต้องอาศัยบุญเดิมนั่นแหละ ที่ยังมีเหลืออยู่ ก็นำมาให้เกิดในที่เป็นสุขอีก . แต่ว่าถ้าไปทำตรงข้าม มันก็เป็นทุกข์ทั้งในโลกนี้ ตายไปแล้วก็เป็นทุกข์ กลับมาเกิดใหม่ชีวิตก็เป็นทุกข์ โดยหลักการก็เป็นอย่างนี้ . ๑๔ เมษายน …
✍️”4 สิ่ง ที่ต้องอดทนให้ได้เพื่อความสำเร็จ” . ความอดทนของมนุษย์ มีอยู่ ๔ ระดับด้วยกัน . ๑. ความอดทนต่อความลำบากตรากตรำ พูดง่ายๆ ทนแดดทนลมทนฝน ทนต่อธรรมชาติที่ไม่เอื้ออำนวย นี่เป็นความอดทนขั้นต้นที่มนุษย์จะต้องฝึก . ๒. ฝึกให้อดทนต่อทุกขเวทนา เจ็บไข้ได้ป่วยนิดๆ หน่อย ๆ ก็ไม่สำออย เมื่อถึงเวลาทำงาน ก็ทำงานที่ตนรับผิดชอบโดยไม่รู้สึกถดถอยท้อแท้ . ๓. อดทนต่อการกระทบกระทั่งกัน เพราะคนเราอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้ ยังไงก็ต้องอยู่กับคน ของ ๒ สิ่งอยู่ในที่เดียวกันยังไงก็ต้องกระทบกระทั่งกัน คนเราอยู่ร่วมกันนิสัยใจคอไม่ตรงกันบ้าง ยังไงก็ต้องกระทบกระทั่งกัน หากขาดความอดทน คงได้ทะเลาะกัน เกิดเรื่องเสียหายตามมา . ๔. อดทนต่อความยั่วเย้ายั่วยวน คือ อดทนต่ออำนาจกิเลส อดทนต่อความหลงใหลได้ปลื้มในลาภ ยศ สรรเสริญทั้งหลาย ซึ่งเป็นเหตุให้ขาดปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ นี่เป็นความอดทนชั้นสูงเลย ซึ่งต้องอาศัยการภาวนา การทำสมาธิเป็นหลักทีเดียว ไม่งั้นไม่ได้ . หากขาดความอดทนทั้ง ๔ ระดับนี้ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต …
✍️”ใจที่ผ่องใส คือ ใจที่มีพลัง” . วันหนึ่งๆ ของคนเรา ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาก็มีเรื่องคิดไม่หยุดจนกระทั่งกลับเข้านอน แต่จะมีใครสักกี่คนที่ถามตัวเองว่า เรื่องที่คิดในแต่ละวันนั้น ระหว่างเรื่องที่ทำให้ใจเป็นบุญใจผ่องใสและเรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัว อย่างไหนมากกว่ากัน . ยิ่งไปกว่านั้น เวลาไปกระทบเรื่องอะไรที่ทำให้ใจขุ่นมัว แทนที่จะรีบเบรกตัวเอง ให้หยุดๆๆๆ กลับยิ่งหยิบยกเรื่องขุ่นมัวเหล่านี้มาวิจารณ์กันเละเทะไปหมด . เลยกลายเป็นว่า เอาความขุ่นมัวมาเพิ่มให้กับใจตัวเองกันทุกวันๆ โดยไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งการคิดถึงเรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัวเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องปกติไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่า ผิดหลักธรรมในพระพุทธศาสนาแล้วนะ เพราะว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนเอาไว้แล้วว่า หน้าที่ของมนุษย์ ถ้าจะให้มีชีวิตปลอดภัยมีแต่ความสุขความเจริญ ต้องพยายามทำใจให้ผ่องใสเข้าไว้ . ถ้าใจผ่องใสแล้วจะได้มีกำลังใจในการที่จะเลือกคิด พูด และทำในสิ่งที่ดีที่งาม เลือกคิดในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตตัวเองและผู้อื่นตลอดจนคนทั้งโลก โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา
✍️”ใจที่ขุ่นมัวเป็นทางมาของกรรมชั่ว” . ชีวิตคนเราในแต่ละวัน ต่างมีเรื่องที่ต้องให้คิดสารพัดเรื่อง และโดยมากก็มักทำให้ใจขุ่นมัว เมื่อเป็นอย่างนี้เราในฐานะชาวพุทธจึงต้องหมั่นเตือนตัวเองว่า เราจะต้องพยายามทำใจของเราให้ผ่องใสให้ได้อยู่ตลอดเวลา ตลอดทั้งวัน . นี่เป็นหลักวิชชาที่สำคัญมาก หรือถ้ามีเรื่องอะไรมากระทบให้ใจขุ่นมัว ต้องรีบเลิกทันทีทันใด พอรู้ตัวต้องรีบหยุดตัวเอง ไม่งั้นขาดทุน . มันเรื่องอะไรเล่าที่จะปล่อยให้ใจของเราขุ่นมัวต่อไป เพราะถ้าใจขุ่นมัวใจหมองแล้ว เรื่องความดีจะคิดไม่ออก เรื่องบุญกุศล เรื่องดีๆ เรื่องสร้างสรรค์คิดไม่ออก . นอกจากนั้นทุกอนุวินาทีใจคิดไม่ยอมหยุด เพราะฉะนั้น เมื่อเราไม่หยุดตัวเอง ไม่เบรกตัวเอง เมื่อเผลอไปคิดเรื่องขุ่นมัวๆ หมองๆ เข้า ใจก็จะคิดเรื่องขุ่นมัวไม่ยอมหยุด . กลายเป็นว่าเรานี่เพิ่มบาปให้กับตัว เรานี่กำลังเพิ่มทุกข์ให้กับตัวเอง เรานี่กำลังทำลายตัวเอง ตรงนี้ต้องชัดเจน . เพราะฉะนั้น การที่จะต้องระมัดระวังตัวเองให้ใจผ่องใสอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นหน้าที่ของทุกๆ คน . เพราะว่าต้องรู้ไว้นะ โลกนี้น่ะอยู่ใต้กฎแห่งกรรม เรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัวทั้งหลาย คือ ทางมาของกรรมชั่วทั้งหลาย ที่มันจะไหลมาสู่ใจของเราตามมาอีกมากมายเลย . 4 มกราคม 2559 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา
✍️”คิดดี พูดดี ทำดี ให้เป็นนิสัย” . ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเราต้องลาโลกไป ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ใต้กฎแห่งกรรม ซึ่งย่อสั้นๆ ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว . กฎแห่งกรรมนี้เป็นกฎเหล็กทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น ใครจะรู้จักกฎแห่งกรรมหรือไม่รู้ แต่ทุกอนุวินาที เขาก็ตกอยู่ใต้กฎแห่งกรรม . ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้หรือไม่รู้ เหมือนไฟ ที่ไม่ว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ ไปโดนเข้าเป็นได้ร้อน เป็นได้โดนลวกกัน . ตรงนี้นี่เองที่อยากจะฝากเป็นข้อคิดของพวกเรา ข้อคิดก็คือ ในเรื่องของการคิดดี พูดดี ทำดีนั้น ต้องหมั่นฝึกให้เป็นนิสัย . ถ้าไม่ฝึกให้เป็นนิสัยแล้ว เรามีโอกาสที่จะพลาด คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดีได้ ซึ่งจะกลายเป็นการสั่งสมบาปเอาไว้ในตัว นอกจากนั้นหากเกิดเป็นนิสัยไม่ดีขึ้นแล้ว ก็จะแก้ไขได้ยาก . 12 มกราคม 2558 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา
✍️”การแทนคุณอันประเสริฐ” . บุตรควรมีความกตัญญูกตเวที คือ รู้คุณ และตอบแทนคุณของบิดามารดา ซึ่งนอกเหนือจากการเอาใจใส่ดูแลท่านแล้ว ควรหากุศโลบายให้ท่านได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้มีโอกาสให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อเป็นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ของท่านด้วย นี่นับว่าเป็นการแทนคุณอันประเสริฐสุด . จากหนังสือชาดก เล่มที่ ๒ (เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือชาดก เล่มที่ ๒ (เผด็จ ทตฺตชีโว)
✍️”เหน็ดเหนื่อยในการหา” . สาเหตุประการหนึ่งที่มนุษย์ต้องดิ้นรนทำงานเหน็ดเหนื่อยกันสายตัวแทบขาดอยู่ทุกวันนี้ก็มีสาเหตุมาจากความไม่รู้จักประมาณในการใช้ทรัพย์หรือปัจจัย ๔ นั่นเอง . คนใช้สอยปัจจัย ๔ ไม่เป็น อุปมาก็เหมือนกับเข่งที่มีรูรั่วพรุนทั้งใบ การทำมาหากินของแต่ละคน อุปมาเหมือนกับการตักน้ำใส่เข่ง . ถ้าเข่งมันมีรูพรุ่นทั้งใบอย่างนั้น ต่อให้เติมน้ำเท่าไหร่ เมื่อหยุดเติมแล้ว น้ำก็ไหลออกจากเข่งหมด . ตรงกันข้ามถ้าเราอุดรูเข่งไว้เป็นอย่างดี เหลือไว้เพียงรูเล็ก ๆ เพื่อใช้ในสิ่งจำเป็น เช่น เรื่องอาหาร เรื่องเสื้อผ้า เรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องยารักษา และเรื่องที่จำเป็นๆ . ถ้าอย่างนี้ โอกาสที่ร่างกายจะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเกินไปก็มีมากขึ้น โอกาสที่จะได้พักก็มาก โอกาสที่จะไม่ต้องถล่มทลายสังขารก็มีมาก . หนังสือแด่นักสร้างบารมี เล่ม ๒ (เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือแด่นักสร้างบารมี เล่ม ๒ (เผด็จ ทตฺตชีโว)
✍️”เลวมา ไม่เลวตอบ” . อย่าเอาความชั่วหรือความเลวของคนอื่น มาเป็นเหตุให้เราต้องทำความชั่วทำความเลวด้วยเลย เช่น เมื่อถูกใครด่าว่า ก็อย่าเอาคำด่าของคนอื่นมาเป็นเหตุให้เรา เลิกรักษาศีล แล้วไปตะโกนด่ากับเขากลับมั่ง ในฐานะชาวพุทธ นี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง . 15 พฤศจิกายน 2558 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา
“ฟังธรรมแล้ว ต้องหมั่นย้อนกลับมาดูตัวเอง” . คงต้องคำหนึ่งที่ปู่ย่าตาทวดเตือนกันมา คือ ฟังเทศน์ฟังธรรม แล้วอย่าเพิ่งไปนึกถึงคนอื่น ให้นึกว่า แล้วเราจะเอามาทำอย่างไรกับตัวของเรา . อย่าเพิ่งคิดว่าจะเอาไปแก้ไขคนอื่นยังไง อย่าเพิ่งคิด ให้คิดว่าจะเอาไปแก้ไขตัวเองอย่างไร เอาตรงนี้ก่อนนะ . ดูโขนดูละคร แล้วต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง ฉันใด ได้ฟังธรรมบทไหน ก็ต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง . ว่าเราน่ะ ได้ประพฤติตัวพอเหมาะพอสมกับธรรมบทนั้นอย่างไรบ้าง ผิดชอบ ชั่วดีอย่างไรบ้าง แล้วก็จะได้แก้ไขเสีย นี่แหละคือหัวใจของการเรียนธรรมะ . 3 สิงหา 2561 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา
“ใจอยู่ข้างนอกเมื่อไหร่เดี๋ยวบาปเกิด ใจอยู่ข้างในเดี๋ยวบุญเกิด” . คุณยายบอกว่า ตรวจตรามาทั้งหมดโลกแล้ว มีบุญกับบาปเท่านั้น ทั้งโลกไม่มีอะไร มีอยู่แค่บุญกับบาป . ถ้าใจอยู่ข้างนอก ใจหลุดออกไปข้างนอกเมื่อไหร่ เดี๋ยวเรื่องบาปก็จะแทรกเข้ามาได้ ถ้าใจอยู่ข้างในเมื่อไหร่ บุญเกิดเป็นสายเหมือนสายฝน บาปเกิดไม่ได้ ต้องจำเป็นหลักให้ดี . ข้างนอกกับข้างใน ใจอยู่ข้างนอกเมื่อไหร่เดี๋ยวบาปเกิด ใจอยู่ข้างในเดี๋ยวบุญเกิด อยู่ตรงนี้ . คนเราสำคัญอยู่ที่บุญกับบาป คือ บุญมากก็เป็นสุข บาปมากก็เป็นทุกข์ แต่ว่าบุญจะมาก มีข้อแม้ใจต้องอยู่ข้างในตัว . แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือ ยิ่งตัวเราเองหรือรอบตัวสกปรกเท่าไร ใจจะไม่ยอมอยู่กับตัว วิ่งออกข้างนอกหมด . ตื่นเช้ามาใจกำลังดี ๆ อารมณ์กำลังดี ๆ ไปได้ยินคำพูดอะไรไปไม่เข้าท่า ใจวิ่งออกจะไปลุยกับเขาแล้ว ได้กลิ่นอะไรไม่เข้าท่า ใจไม่อยู่กับตัว เห็นข้าวของอะไรมันสกปรก เดี๋ยวจะออกไปลุยกันเสีย . ในทางกลับกัน เมื่อตัวเราและรอบตัวเรา อะไร ๆ ก็สะอาดไปหมด ใจจะนิ่งขึ้นมา แล้วใจรักที่จะอยู่ในตัว . แต่มีข้อแม้ สะอาดเพราะมือเรา …
“ใจอยู่ข้างนอกเมื่อไหร่เดี๋ยวบาปเกิด ใจอยู่ข้างในเดี๋ยวบุญเกิด” Read More »
“จะฝึกคุณธรรมอะไรก็ตาม ต้องฝึกผ่านงาน” . ถ้าไม่มีงาน ก็จะไม่ได้ฝึกอะไร แต่ถ้าฝึกผ่านงาน คุณธรรมอะไรที่อยากได้ ก็จะได้หมด . แล้วไม่ว่าใครก็ตามที่ฝึกผ่านงาน คุณธรรมสิ่งแรกที่จะได้มาโดยอัตโนมัติเลยคือ สัจจะ หมายถึงทำอะไรต้องดี . พอคิดว่าจะเอาดี ความจริงจังจริงใจและความตรงไปตรงมามันจะออกมา จริงคือไม่เล่น ตรงคือไม่คด ไม่มีพิษภัย แท้คือคุณภาพมันได้ สัจจะมันได้ผ่านการทำงานมาแบบนี้ . แล้วสัจจะในการทำงานนี้จะบังคับต่อให้เราต้องมี ทมะ คือต้องฝึก ไม่ฝึกไม่ได้ พอฝึกแล้วจะรู้ว่าตนเองมีทั้งข้อบกพร่องและข้อเด่น พอพบข้อบกพร่องแล้วจะรู้ตัวว่า เราต้องหยุด เพราะฉะนั้นทมะก็เลยแปลว่าหยุด . แล้วไปเจออะไรที่เจ๋งก็ฝึกให้ยิ่งขึ้นไป เมื่อเจ๋งแล้ว อย่าจองหอง อย่าอหังการ ข่มเอาไว้ด้วยว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า . จากสัจจะมาทมะ สัจจะคือ จริง ตรง แท้ ส่วนทมะคือ ฝึก หยุด ข่ม แล้วขณะที่ฝึกอยู่นี้เอง หนีไม่พ้นที่ขันติจะต้องมาคือ อดทน . ฝึกทนแดดทนฝนนั่นเรื่องเล็ก แต่ที่ต้องฝึกให้มาก คือ ฝึกทนกระทบกระทั่งกับทนกิเลส อันนี้ยากขึ้นมา …
“คนที่ไม่เคยทำอะไรเป็นเวลา จะติดนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง” อยู่ดีๆจะกำหนดให้ทำเสร็จภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้ เขาจะอึดอัดทำไม่ได้ เพราะฝึกวินัยมาน้อย แต่ทำตามใจ ทำตามอารมณ์มามาก จึงยาก จะทำอะไรได้สำเร็จ ตามแผนงาน . เนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ ครอบครัวอบอุ่น โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือ ครอบครัวอบอุ่น
“ความมักง่ายเป็นเหตุให้ทำชั่ว” ❓ . ความมักง่าย คือ การที่คิด พูด ทำอะไรเอาสะดวกเข้าว่า แค่พอเสร็จไป ไม่พยายามให้ดีจริง ๆ ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ขาดสติสัมปชัญญะ ขาดความรับผิดชอบ จึงเป็นต้นทางของกรรมชั่วทั้งหลาย มีโทษมาก . 23 สิงหาคม 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา