krirk

✍️”ชีวิตสั้นนัก แค่ลมหายใจเข้าออก”

✍️”ชีวิตสั้นนัก แค่ลมหายใจเข้าออก” . ชีวิตมนุษย์มันไม่แน่นอน ความจริงไม่เฉพาะมนุษย์ ชีวิตของคนของสัตว์โลกไม่แน่นอน ตายเมื่อไหร่ เราไม่รู้ อย่าคิดว่ามนุษย์จะอายุยืน ตั้ง ๗๐ ๘๐ ๙๐ ปี มันก็ไม่แน่ . เพราะจริงๆ แล้ว หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออกแต่ไม่หายใจเข้าก็ตาย ถ้าหายใม่ออกไม่เข้าก็ตายแน่ๆ . ชีวิตของมนุษย์สั้นนัก แค่ลมหายใจเข้าหายใจออกต่อกันเป็นช่วงๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้น เมื่อได้ยินข่าวการตาย ข่าวอะไรที่ไม่เป็นมงคล ก็เอามาเตือนตนเอง ให้รีบทำความดี รีบสร้างบุญตักตวงเอาไว้ อย่าชักช้า . นอกจากตัวเองต้องสร้างบุญแล้ว มีลูกหลานตัวเล็ก ตัวน้อย ก็พาเขาสร้างบุญ ให้เขาได้เห็นแบบอย่างที่ดีในการทำบุญ . 23 กุมภาพันธ์ 2558 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”พูดไปแล้วต้องให้บาปลดบุญเพิ่ม”

✍️”พูดไปแล้วต้องให้บาปลดบุญเพิ่ม” . สิ่งใด เรื่องใดที่ได้ฟังได้เห็น ตรวจสอบแล้ว ถ้าพูดถึงแล้ว ทำให้บาปลด ทำให้บุญเพิ่มตรงนี้ควรพูด ยิ่งต้องพูด เพราะยิ่งพูด บุญยิ่งเพิ่ม . ถึอหลักเอาไว้เลย บาปลดบุญเพิ่มรีบเอาไปขยายให้มากๆ บุญจะได้เพิ่มต่อๆ กันไป เช่นไปทำบุญที่นั้นที่โน้น ก็เอาบุญมาฝากบอกต่อๆ กันไป เห็นตัวอย่างคุณธรรมความดี นิสัยดีๆ บอกต่อๆ กันไป เพราะบอกแล้วบาปลดบุญเพิ่มอย่างนี้ควรพูดต่อๆ กันไป . 23 กุมภาพันธ์ 2558 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️ “ฝึกทนแดดทนฝนนั่นเรื่องเล็ก แต่ที่ต้องฝึกให้มาก คือ ฝึกทนกระทบกระทั่งกับทนกิเลส อันนี้ยากขึ้นมา”

✍️ “ฝึกทนแดดทนฝนนั่นเรื่องเล็ก แต่ที่ต้องฝึกให้มาก คือ ฝึกทนกระทบกระทั่งกับทนกิเลส อันนี้ยากขึ้นมา” . โดนด่าแล้วไม่โกรธอันนี้ไม่ยาก แต่โดนชมแล้วไม่ยิ้มนี้แหละยาก เพราะโดนชมแล้วยิ้มนี้แหละ เดี๋ยวเหลิง แล้วจะเสียผู้เสียคนไป . แล้วพอทำงานเราจะเจอกับเงิน เงินนี้แหละทำให้เสียคนไป . ถ้าไม่ทนกิเลส เราก็จะพังกันตรงนี้แหละ ทนคน ทนกิเลส เป็นสิ่งที่เราจะได้จากการทำงาน . ๗ ก.พ. ๒๕๖๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️ คนที่ไม่เคยทำอะไรเป็นเวลา จะติดนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง

✍️ คนที่ไม่เคยทำอะไรเป็นเวลา จะติดนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง . อยู่ดีๆ จะกำหนดให้ทำเสร็จ ภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้ . เขาจะอึดอัดทำไม่ได้ เพราะฝึกวินัยมาน้อย แต่ทำตามใจ ทำตามอารมณ์มามาก . จึง “ยากจะทำอะไรได้สำเร็จตามแผนงาน” . ที่มา : หนังสือครอบครัวอบอุ่น โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น

✍️ “สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือ ยิ่งตัวเราเองหรือรอบตัวสกปรกเท่าไร ใจจะไม่ยอมอยู่กับตัว วิ่งออกข้างนอกหมด”

✍️ “สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือ ยิ่งตัวเราเองหรือรอบตัวสกปรกเท่าไร ใจจะไม่ยอมอยู่กับตัว วิ่งออกข้างนอกหมด” . ตื่นเช้ามาใจกำลังดี ๆ อารมณ์กำลังดี ๆ ไปได้ยินคำพูดอะไรไปไม่เข้าท่าใจวิ่งออกจะไปลุยกับเขา . แล้วได้กลิ่นอะไรไม่เข้าท่า ใจไม่อยู่กับตัว เห็นข้าวของอะไรมันสกปรก เดี๋ยวจะออกไปลุยกันเสีย . ในทางกลับกัน เมื่อตัวเราและรอบตัวเรา อะไร ๆ ก็สะอาดไปหมด ใจจะนิ่งขึ้นมา แล้วใจรักที่จะอยู่ในตัว ๗ กันยายน ๒๕๖๑ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️ ในโลกนี้มีคนอยู่ ๒ กลุ่มใหญ่ คือ มิตรเทียมกับมิตรแท้

✍️ ในโลกนี้มีคนอยู่ ๒ กลุ่มใหญ่ คือ มิตรเทียมกับมิตรแท้ . มิตรเทียม ได้แก่คน ๔ ประเภท ๑.ปอกลอก ๒.ดีแต่พูด ๓.ประจบ ๔.ชวนฉิบหาย . มิตรแท้ ได้แก่คน ๔ ประเภท ๑.มิตรมีอุปการะ ๒.มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข ๓.มิตรแนะประโยชน์ ๔.มิตรความรักใคร่ . มิตรแท้มีลักษณะคือ มิตรอุปการะ กล้าเป็นที่พึ่งให้เพื่อน มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข กล้าสละชีวิตเพื่อเพื่อน มิตรแนะประโยชน์ กล้าขัดใจเตือนสติเพื่อน ขัดใจเขาก็ต้องยอม มิตรมีความรักใคร่ กล้าออกหน้าปกป้องเพื่อน โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️ มรรคมีองค์ ๘ จุดเริ่มต้นมาจากสัมมาทิฐิ เริ่มมาจากกัลยาณมิตร เป็นองค์ประกอบภายนอก โยนิโสมนสิการเป็นกัลยาณมิตรภายใน

✍️ มรรคมีองค์ ๘ จุดเริ่มต้นมาจากสัมมาทิฐิ เริ่มมาจากกัลยาณมิตร เป็นองค์ประกอบภายนอก โยนิโสมนสิการเป็นกัลยาณมิตรภายใน . ถึงแม้ได้กัลยาณมิตรภายนอกมา แต่ไม่มีโยนิโสมนสิการก็ไปต่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นโยนิโสมนสิการเป็นสิ่งสำคัญ . พระอานนท์ถามกัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ ตกลงโยนิโสมนสิการไม่สำคัญใช่ไหมไม่ใช่ . เพราะกัลยาณมิตรนี้เองที่ชี้ให้เห็นโทษและคิดโยนิโสมนสิการ เพราะฉะนั้นกัลยาณมิตรจึงเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ . เพียงแต่ว่ามีกัลยาณมิตรที่ ๑ ๒ ๓ แต่ที่สุดของกัลยาณมิตรคือ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ๓ ม.ค.๖๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

สิ่งที่แสดงว่าเขาขาดความจริงใจต่อเรา คือ การพูดเท็จนั่นเอง

สิ่งที่แสดงว่าเขาขาดความจริงใจต่อเรา คือ การพูดเท็จนั่นเอง . จำไว้นะลูก ใครก็ตามที่รักเรา ถ้าเราพูดเท็จกับเขา เขาก็จะหมดรักเรา . แล้วถ้าเขาพูดเท็จกับเรา เราก็จะหมดรักเขาเช่นกัน . ใครๆ ก็ต้องการความจริงใจด้วยกันทั้งนั้น . จากหนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๒๖๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๒๖๒

วิกฤตพระพุทธศาสนาในประเทศไทย

วิกฤตพระพุทธศาสนาในประเทศไทย “2562 มีวัดร้างทั่วประเทศ 7,000 กว่าวัด ประชากรไทยประมาณ 65 ล้าน คนเพิ่มขึ้นวัดร้างน่าจะหมด แต่!วัดร้างก็เพิ่มขึ้น นี่คือตัวเลขที่พวกเราชาวพุทธต้องรู้…” โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️ ตาไม้ หูกระทะ กายผ้าขี้ริ้ว ใจแผ่นดิน “ธรรมะเพื่อป้องกันการหย่าร้าง”

✍️ ตาไม้ หูกระทะ กายผ้าขี้ริ้ว ใจแผ่นดิน “ธรรมะเพื่อป้องกันการหย่าร้าง” . การประคับประคองชีวิตคู่ของพ่อแม่ให้ลูกดูถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอันดับแรก คือการป้องกันการหย่าร้างระหว่างพ่อแม่เอง . และอันดับสอง คือเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะทำให้ลูกสามารถเลือกคู่ครองเป็น และสามารถประคับประคองครอบครัว ให้ตลอดรอดฝั่ง เมื่อเขาเติบโตอยู่ในวัยที่มีคู่ครองได้แล้ว . สำหรับเรื่องนี้ โบราณได้ให้หลักธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ลดปัญหาการกระทบกระทั่งในชีวิตคู่ และป้องกันปัญหาการหย่าร้างไว้ ๔ คำด้วยกัน . คือ ๑. ตา เหมือน ตาไม้ ๒. หู เหมือน หูกระทะ ๓. กาย เหมือน ผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้า ๔. ใจ ประดุจ แผ่นดิน . จากหนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๒๗ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๒๗

“ขยายความธรรมะเพื่อป้องกันการหย่าร้าง ข้อที่ ๑” ที่ว่าตาเหมือนตาไม้ ถ้าพูดเต็มๆ ต้องบอกว่า ตาเหมือนตาไม้ไผ่

“ขยายความธรรมะเพื่อป้องกันการหย่าร้าง ข้อที่ ๑” ที่ว่าตาเหมือนตาไม้ ถ้าพูดเต็มๆ ต้องบอกว่า ตาเหมือนตาไม้ไผ่ . ตาไม้ไผ่ ถ้าเราไม่ริดเสีย ปล่อยให้ติดลำไผ่ไว้เป็นแขนงยาว ประมาณสักคืบกว่าๆ เราเหลือไว้อย่างนี้ตลอดลำไม้ไผ่ ก็ใช้สำหรับ เป็นที่เหยียบขึ้นแทนบันไดได้สบายๆ ซึ่งเรียกว่า “พะอง” . ชาวบ้านที่อยู่ในดงต้นตาล จะรู้จักประโยชน์ของพะองดี ว่าสามารถใช้เป็นบันไดสำหรับขึ้นต้นตาลสูงๆ . ตาเหมือนตาไม้ไผ่ อุปมาข้อนี้หมายถึงว่า นัยน์ตาของเรานั้น อะไรที่ไม่ควรดูก็อย่าไปดูมันเลย เหมือนอย่างตาไม้ไผ่ ซึ่งสักแต่ว่าเป็นตา แต่ใช้ตาดูไม่เป็นหรอก . ปู่ย่าตายายใช้อุปมาเช่นนี้ก็เพื่อจะบอกว่า อะไรที่ไม่ควรดูก็อย่าไปดู ไม่ควรมองก็อย่าไปมอง อย่าเที่ยวไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านมากนัก เดี๋ยวใจจะฟุ้งช่าน เดี๋ยวจะมีเรื่องร้อนๆ เข้ามาในบ้าน . ให้ทำตาเหมือนตาไม้ไผ่ โดนเหยียบขึ้นไปๆ มันก็เฉยไม่เอาเรื่องกับใคร . ใครทำได้อย่างนี้ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางตา เป็น การพาให้ใจสงบในชั้นที่ ๑ . จากหนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๒๘ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น …

“ขยายความธรรมะเพื่อป้องกันการหย่าร้าง ข้อที่ ๑”
ที่ว่าตาเหมือนตาไม้ ถ้าพูดเต็มๆ ต้องบอกว่า ตาเหมือนตาไม้ไผ่
Read More »

“ที่ว่าหูเหมือนหูกระทะ ก็คือ หูกระทะไม่ได้มีไว้ฟัง แต่มีไว้สำหรับหิ้ว หรือแขวนตัวกระทะ”

“ที่ว่าหูเหมือนหูกระทะ ก็คือ หูกระทะไม่ได้มีไว้ฟัง แต่มีไว้สำหรับหิ้ว หรือแขวนตัวกระทะ” . ปูย่าตายายใช้อุปมานี้ เพื่อหมายถึงว่าเรื่องอะไรไม่สมควรไปฟังก็อย่าไปฟัง หรือฟังแล้วร้อนใจก็อย่าไปฟัง ทำหูเป็นหูกระทะเสียก็หมดเรื่อง . เขาอยากด่า ด่าได้ก็ด่าไป คำด่า ถ้าเราไม่ไปรับไว้ ก็คืนเข้าตัวเขาเองนั่นแหละ . ปู่ย่าตายายมักเตือนหลานบ่อยๆ ว่า คนเราถูกด่าแล้ว พอฝึกใจถึงจุดหนึ่งก็เลยไม่โกรธ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเก่ง ที่เก่งกว่านั้นยังมี คือชมแล้วไม่ยิ้ม ใครชมแล้วไม่ยิ้ม คนนี้ละเก่งจริงๆ . เพราะคนเราทั่วไปพอได้รับคำชมแล้วมักจะยิ้ม โดยเฉพาะฝ่ายหญิง ลูกถึงได้เต็มบ้าน หลานถึงได้เต็มเมือง . ไปได้ยินคำชมว่า น้องจ๊ะ น้องจ๋า สวยจริงๆ เลย ก็เลยไปเลี้ยงลูกกันเป็นพรวน ถ้าชมแล้วยังเฉยเสียได้ก็สบาย ป่านนี้ก็ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องนอกใจอะไรทั้งนั้น . เพราะฉะนั้น ใครทำหูเหมือนหูกระทะได้ ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางหู พาให้ใจสงบสุขได้เป็นชั้นที่ ๒ . ที่มา: หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๒๙-๓๐ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา …

“ที่ว่าหูเหมือนหูกระทะ ก็คือ หูกระทะไม่ได้มีไว้ฟัง แต่มีไว้สำหรับหิ้ว หรือแขวนตัวกระทะ” Read More »

✍”ใครทำกายเหมือนผ้าเช็ดเท้าได้ ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางกาย พาให้ใจสงบสุขได้เป็นชั้นที่ ๓”

✍”ใครทำกายเหมือนผ้าเช็ดเท้าได้ ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางกาย พาให้ใจสงบสุขได้เป็นชั้นที่ ๓” . ที่ว่ากายเหมือนผ้าเช็ดเท้า ก็คือธรรมดาผ้าเช็ดเท้า เวลาใครเอาเท้าสกปรกๆ มาเช็ด มันเคยบ่นไหม ไม่เห็นมันบ่นเลย ไม่มีผ้าเช็ดเท้าบ้านไหนบ่นได้ . ปูย่าตายายใช้อุปมานี้ ท่านตั้งใจจะเตือนว่า คนเราจะทำงานอะไรก็ทำให้เต็มกำลังลงไป เป็นคนไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่เลือกงาน และขอให้งานนั้นเป็นงานอาชีพ สุจริตก็ทำเข้าไป . คุณยายฯ ท่านพูดเสมอๆ ว่า ตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้วถ้ามันถึงคราวจะต้องไปรับจ้างเขาเทกระโถนล้างกระโถนก็เอาเพราะมันเป็นอาชีพบริสุทธิ์ แต่จะให้ไปลักขโมยใครเขา หัวเด็ดตีนขาดยายไม่ยอมทำ . จะทำกายอย่างกับผ้าเช็ดเท้า ใครจะโขกจะสับอย่างไรก็ยอมล่ะ เพื่อให้ได้อาชีพที่สุจริต แต่จะให้ไปโกงไปกินเขา เพื่อจะได้แต่งตัวสวยๆ ไม่เอาเด็ดขาด . เพราะฉะนั้น ใครทำกายเหมือนผ้าเช็ดเท้าได้ ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางกาย พาให้ใจสงบสุขได้เป็นชั้นที่ ๓ ที่มา : หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๓๐ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๓๐

“นิสัยกำกับความเสื่อมความเจริญ”

“นิสัยกำกับความเสื่อมความเจริญ” (Clip 1.54 น.) “ถ้านิสัยของคนใดดี อยู่ในครอบครัวไหนก็จะช่วยนำพาครอบครัวนั้นให้เจริญ อยู่ประเทศไหน ประเทศนั้นเจริญ นับถือศาสนาไหน ศาสนานั้นก็เจริญ นิสัยดี มีฤทธิ์อย่างนี้…” โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

ใจประดุจแผ่นดิน

ใจประดุจแผ่นดิน ก็คือ ใจของคนเราส่วนใหญ่ ไม่เหมือนแผ่นดิน แต่เหมือนขี้ผึ้งลนไฟ มันอ่อนปวกเปียกๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยตรัสเรื่องใจเหมือนแผ่นดิน กับพระราหุลว่า.. . “แผ่นดินนี้ ใครเอาน้ำหอมไปรดไปราดมัน มันดีใจไหม ไม่ดีใจ มันก็เฉยๆ เอาของเหม็นไปรดไปราด มันทุกข์ใจไหม มันก็เฉยๆ ราหุล…เธอทำใจให้ได้อย่างนั้นแหละ ใครมาทำอะไร เธอก็อย่าไป เอาเรื่องเอาราวกับเขา ตั้งใจปฏิบัติธรรมของเธอไป แล้วเธอจะหมดกิเลสได้เร็ว” . ถ้าทำใจเหมือนแผ่นดินได้อย่างนี้ ธรรมะต่างๆ ที่จะงอกงามขึ้นมาในใจก็อยู่แค่เอื้อม แต่เพราะคนเราใจไม่หนักแน่น เขาด่า เขาว่าเข้าหน่อย เจ็บใจ ทั้งๆ ที่มันก็แค่ลมมากระทบหู พัดลมเป่า ยังแรงกว่านั้นอีก ลมปากเป่าเบาๆ หน่อยเดียว อุ๊ย! เจ็บใจ ถ้าอย่างนี้ก็คงมีเรื่องเจ็บช้ำน้ำใจไปตลอดชาติ . เพราะฉะนั้น ใครทำใจหนักแน่นเหมือนแผ่นดินได้ ก็จะเป็นฐานรองรับคุณธรรมความดีต่างๆ ให้งอกงามในจิตใจอย่างสูงส่งยิ่งขึ้นไป พาให้ใจสงบสุขได้ เป็นชั้นที่ 4 และจะส่งต่อให้ใจสงบสุข ยิ่งๆ ขึ้นไป . ครอบครัวใดก็ตาม ที่ทั้งสามีภรรยา หรือพ่อแม่ลูกต่างก็ถือหลักร่วมกันอย่างนี้ …

ใจประดุจแผ่นดิน Read More »