คำถาม:
กระผมกำลังสร้างเครือข่ายคนดีที่เป็นนักธุรกิจ พระเดชพระคุณหลวงพ่อจะมีคำแนะนำอย่างไรบ้างให้ประสบความสำเร็จครับ
คำตอบ:
ขอโมทนาด้วยนะ…ความเดือดร้อนเกี่ยวกับเศรษฐกิจในบ้านเมืองไทยของเราน่ะ อยู่ตรงไหน…อยู่ตรงที่คนไทยหรือนักธุรกิจไทยไม่ค่อยชอบสร้างเครือข่ายกัน เลยกลายเป็นว่าในประเทศไทยที่ผ่านมา นักธุรกิจประเภทเดียวกัน แทนที่จะสร้างเครือข่ายซึ่งกันและกันกลายเป็นว่าฟาดฟันกันเอง ผลสุดท้ายยังไม่มีใครมาทำลายเราเลย เราก็ทำลายกันเองเสียแล้ว แข่งกันตัดราคา ความฉิบหายทางเศรษฐกิจของชาติจึงได้เกิดขึ้น ทำไมเป็นอย่างนั้น เพราะมองเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก มันเป็นเรื่องของคนใจแคบ
คนใจแคบสร้างเครือข่ายคนดีไม่ได้…ทำไม
เพราะเขาจะมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก เพราะฉะนั้น การที่คุณโยมคิดจะสร้างเครือข่ายคนดีของนักธุรกิจน่ะ ขอโมทนาด้วยนะ ซึ่งการที่จะทำอย่างนี้ได้ สิ่งสำคัญก็คือ ต้องฝึกให้เป็นคนสายตายาว แต่สายตายาวในที่นี้ไม่ใช่ต้องประกอบแว่นนะ ยาวนั้นให้มองกันให้ข้ามชาติไปเลย อย่ามองกันแค่ใกล้ๆ คือ มองว่าเกิดมาชาตินี้น่ะ เกิดมาเพื่อสร้างบุญสร้างบารมี เกิดมาเพื่อทำความดี เกิดมาเพื่อปราบกิเลสให้หมด ทำพระนิพพานให้แจ้ง
ในระหว่างสร้างบุญสร้างบารมีนี้ มันยังต้องกินมันยังต้องใช้ มันก็จะต้องประกอบอาชีพประกอบธุรกิจ เมื่อต้องประกอบอาชีพประกอบธุรกิจ ก็ขอให้มองว่าอันนี้น่ะมันแค่ทางผ่าน มันไม่ใช่เป้าหมายชีวิต มองกันให้ชัดอย่างนี้
การประกอบธุรกิจ ไม่ใช่เป้าหมายชีวิต เป็นแค่ทางผ่านเป็นแค่อุปกรณ์ในการสร้างบารมี อุปกรณ์ในการปราบกิเลสให้ยิ่งๆขึ้นไป เมื่อมองอย่างนี้แล้ว…ใจใหญ่ๆ นั่นแหละใจใหญ่ๆตายาวๆ มองชีวิตว่าเกิดมาสร้างบารมี จากนั้นให้มองว่าครั้งนี้ที่เราทำเครือข่ายธุรกิจนักธุรกิจนี้ มันไม่ใช่รวมแค่เงินทุน แต่มันเป็นเรื่องของการรวมคนดี รวมนักสร้างบารมีมาร่วมกัน เพราะฉะนั้น…
ประการที่หนึ่ง ในเครือข่ายของเรานี้ จะไม่เกี่ยงว่าใครอาชีพอะไร ต่างกันหรือเหมือนกัน ขอให้เป็นสัมมาอาชีวะเป็นพอ คือ ไม่ใช่อาชีพต้องห้าม เช่น อาชีพตั้งซ่อง อาชีพค้าเหล้า อาชีพค้าอาวุธ นี่เราไม่คุยกัน เราจะเอาแต่ผู้ที่ประกอบสัมมาอาชีวะเท่านั้น มาอยู่เป็นเครือข่ายนักธุรกิจ หรือเครือข่ายนักสร้างบารมีกัน
ประการที่สอง ข้อแม้ของเครือข่ายนี้ คือ ผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกต้องไม่แตะต้องอบายมุข ชัดเจนลงไปเลย
ประการที่สาม แน่ลงไปเลยว่า อยู่ในศีลอยู่ในธรรมกันนะ ถ้าใครไม่รักษาศีลกันล่ะก็เราคงไปด้วยกันไม่ได้หรอก เพราะว่านี่คือเครือข่ายนักสร้างบารมี คือ นอกจากในระหว่างที่ประกอบอาชีพกันไป ช่วยเหลือกันไปนั้น เมื่อมีโอกาสแล้ว สังคมสงเคราะห์ต้องทำ ศาสนาสงเคราะห์ต้องทำ บุญทานอะไร มีโอกาส…ทำ อย่างนี้บุญบารมีเกิดขึ้นตลอดทาง
จากนั้น ก็มองให้ดี เวลาร่วมเป็นองค์กรหรือเครือข่ายกัน ให้มองว่า…
1.เราจะใช้ทรัพย์เป็นทุน อันนี้หนีไม่พ้นนะ พอเป็นเครือข่ายกันแล้วที่จะใช้ทรัพย์ช่วยเหลือกัน
2.เราจะใช้ความรู้ความสามารถเป็นทุน ข้อนี้เราก็ชัดกันอยู่แล้ว เอามาแลก เอามาเปลี่ยนกัน แต่ว่าอย่าลืมเอาความดีทั้งหลายแหล่ที่ต่างคนต่างมี คือ ความรู้ธรรมะ ความสามารถในการปฏิบัติธรรม เทคนิคในการเข้าถึงธรรม เทคนิคในการรักษาศีล ตั้งแต่ทีละวัน ทีละเดือน ทีละพรรษา ทีละปีอย่างไรก็ตามที เทคนิคแห่งการประพฤติปฏิบัติธรรมในแง่มุมต่างๆ เอามารวมเป็นทุนกันไปด้วย เป็นทุนทางด้านอริยทรัพย์นะ ไม่ใช่โลกียทรัพย์
ถ้าเป็นอย่างนี้ เครือข่ายของนักธุรกิจ เครือข่ายของคนดี มันจึงจะมีเต็มแผ่นดิน และเมื่อมันมีเต็มแผ่นดินอย่างนี้แล้ว การรวมทุนกันมันจะไม่ยาก รวมทุนก้อนโตๆกันได้คงไม่ยาก และเมื่อนั้นการที่จะถูกต่างชาติมาบีบมาคั้น มาดูดเอาเงินจากเมืองไทย เลือดไหลทางเศรษฐกิจไม่หยุดจะได้หมดไปเสียที หลวงพ่อขออนุโมทนาด้วยนะ รีบสร้างเร็วๆนะ แล้วให้จำเริญๆเถอะนะ
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา