อานิสงส์ถวายที่นอน (พระสยนทายกเถรถวายที่นอนแด่พระพุทธเจ้า)
ถวายที่นอนแด่พระพุทธเจ้า
พระธรรมกายเป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา และเป็นแก่นชีวิตของมวลมนุษย์ทุกๆ คน ทุกๆ ชาติ ทุกๆ ภาษา เป็นเป้าหมายที่ทุกๆ คนเกิดมาแล้วต้องแสวงหา ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่ทุกๆ คนปรารถนาจะได้เข้าถึง เพราะถ้าหากเราเข้าถึงพระธรรมกายภายในตัวของเราได้ นับได้ว่าเป็นผู้ที่โชคดีที่สุด และจะเต็มเปี่ยมด้วยบุญบารมีและความสุขที่ละเอียดประณีตเกินกว่าสุขใดๆ ในโลก เพราะรสแห่งพระธรรมนั้น เลิศกว่ารสทั้งปวง สุขอันเกิดจากธรรมก้าวล่วงโอชะทั้งหลาย ชีวิตเราจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์และได้รับอานิสงส์ใหญ่อย่างไม่มีประมาณ ทุกท่านจึงควรปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงธรรมกายกันให้ได้
มีวาระแห่งภาษิตที่ปรากฏอยู่ในสยนทายกเถราปทาน ความว่า
“เรามีจิตเลื่อมใส ได้ถวายที่นอนแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ผู้ทรงอนุเคราะห์โลกทั้งปวงพระองค์นั้น ด้วยการถวายที่นอนนั้น โภคสมบัติย่อมเกิดแก่เรา เปรียบเหมือนข้าวกล้า ที่สำเร็จในนาดี นี้เป็นผลแห่งการถวายที่นอน เราย่อมสำเร็จการนอนในอากาศ ย่อมทรงแผ่นดินนี้ไว้ เราเป็นใหญ่ในสัตว์ทั้งหลาย นี้เป็นผลแห่งการถวายที่นอน ในกัปที่ ๕,๐๐๐ ได้เป็นพระราชามหาวีระ ถึง ๘ ครั้ง ในกัปที่ ๓,๔๐๐ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีพละมาก ๔ ครั้ง คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฎิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว”
นี่เป็นถ้อยคำของพระอรหันตเถระองค์หนึ่งในอดีต ที่เมื่อท่านได้บรรลุธรรม มีดวงตาเห็นธรรมแล้ว ได้ระลึกชาติย้อนกลับไปในอดีต พบเห็นบุพกรรมของท่านที่ได้สั่งสมเอาไว้ จึงได้เปล่งวาจาที่เป็นสุภาษิต เป็นการยืนยันในผลแห่งการสั่งสมบุญว่า ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ที่สามารถทำอย่างนั้นได้ แม้เป็นถ้อยคำของพระอรหันต์ หลวงพ่ก็อปรารถนาจะให้ทุกท่านได้ ตระหนักกันไว้ให้ดี และทรงจำเอาไว้ให้มั่นทีเดียว เราจะได้ไม่ประมาทในชีวิต หากต้องการให้ชีวิตเรา ประสบความสำเร็จเช่นท่าน ก็ควรสั่งสมบุญให้ครบถ้วน อย่างดังเช่นที่พระเถระท่านได้สั่งสมเอาไว้อย่างนี้
* เรื่องที่หลวงพ่อจะนำมาเล่าในครั้งนี้ เป็นเรื่องราวที่ได้จารึกไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งหลวงพ่อรู้สึกประทับใจ แล้วอยากจะให้ทุกท่านได้รับทราบด้วย คือเป็นเรื่อง ที่เคยเกิดขึ้นในยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง มีพระนามที่พวกเรา รับทราบกันอย่างดีแล้ว คือพระปทุมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในยุคนั้น เป็นยุคที่มีผู้มีบุญลงมาเกิดสร้างบารมีกันมากมาย แทบทุกองค์เลยที่ท่านล้วนมีประวัติการสร้างบารมี กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้ทั้งสิ้น
นั่นก็เท่ากับเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เนื้อนาบุญที่เลิศ ที่ประเสริฐ ย่อมเป็นที่ต้องการหรือเป็นที่ปรารถนาของบรรดานักสร้างบารมีทั้งหลาย เพราะเมื่อได้สร้างแล้ว ทำให้ได้รับผลานิสงส์ที่ไม่มีประมาณ และเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างแจ่มชัดว่า การทำความดีหรือทำบุญถูกเนื้อนาบุญ ล้วนบังเกิดเป็นผลที่ดีงามอย่างแท้จริง อย่างเช่นประวัติการสร้างบารมีของพระอรหันต์แต่ละองค์ ที่หลวงพ่อได้นำมาเล่าให้ทุกท่านได้ศึกษากันหลายครั้งแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า การที่ท่านเหล่านั้นได้ประสบความสำเร็จในชีวิต ได้บรรลุเป้าหมายอันสูงสุด ก็เพราะมีบุญอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
การสร้างบุญของพระสยนทายกเถรเจ้าก็เช่นกัน ท่านมีประวัติที่น่าสนใจทีเดียว เพราะในภพชาติที่เกิดมานั้น ท่านเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า ขวนขวายในบุญ อย่างดีเยี่ยม ท่านมักจะนั่งคิดอยู่เสมอว่า บุญทุกๆ สิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิต มีอานิสงส์ใหญ่ไม่มีประมาณ เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่อยากจะพลาดโอกาสในการสร้างบารมีในทุกๆ ขั้นตอน นักสร้างบารมีสมัยก่อน ท่านมักจะแสวงหาวาระทำกันอย่างนั้นอย่างสมํ่าเสมอ ในแต่ละวัน ไม่มีวันเว้นว่างที่จะแสวงหาบุญใส่ตัวเลย ทำให้ตัวท่าน ได้ประสบผลบุญอย่างที่ตนเองก็คาดไม่ถึง
พระเถรเจ้าองค์นี้ มีนามว่า สยนทายกเถรเจ้า หากจะแปลเป็นไทยก็ได้ใจความว่า พระเถระผู้ถวายที่นอน นั่นเอง เมื่อก่อนครั้งที่ท่านได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็ได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานตามวาระ แต่ก็ยังไม่มีโอกาส ได้ทำบุญพิเศษอะไรที่ทำให้เกิดมหาปีติอย่างเต็มที่ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้สั่งสมเอาไว้ ทำให้ท่านยังคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสองภพภูมิคือมนุษย์และเทวโลก มีโอกาสได้สร้างบารมีมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีภพชาติใด ที่ท่านได้สร้างบุญกับเนื้อนาบุญอย่างเต็มกำลังของตน
จนมาถึงสมัยแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ปทุมุตตระ ที่หลวงพ่อได้กล่าวเกริ่นเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น ว่าในยุคของพระองค์ท่าน มีนักสร้างบารมี ลงมาเกิดอย่างมากมาย และได้สร้างบุญใหญ่กันเป็นจำนวนมาก ตัวของพระเถระนี้ก็เช่นกัน ได้บังเกิดในเรือนมีสกุลแห่งหนึ่ง ฐานะทางครอบครัวจัดได้ว่า เป็นตระกูลที่มีฐานะดี และเป็นสัมมาทิฏฐิ ไม่มีใครขัดขวางการสร้างความดี พอเติบใหญ่บรรลุนิติภาวะแล้ว ญาติพี่น้องก็ได้จัดการแต่งงานให้ อยู่ครองเรือนตามประสาชาวโลกทั้งหลาย ที่มีความสุขตามอัตภาพ
มีอยู่วันหนึ่ง ท่านได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดาที่ไพเราะทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง เเละเบื้องปลาย ได้เห็นโทษของความตระหนี่หวงแหนทรัพย์ ว่าเป็นหนทางแห่งความยากจนปิดกั้นสายสมบัติที่จะบังเกิดขึ้น และเห็นประโยชน์ของการสร้างบุญ ที่มีผลคือความสุขในบั้นปลาย จึงคิดอยู่ในใจว่า จะสร้างบุญพิเศษอย่างไรดีกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเนื้อนาบุญอันยอดเยี่ยมที่สุดในภพสาม ท่านมีความเลื่อมใสอย่างเต็มเปี่ยม ทั่วสรรพางค์กายก็ยังมีมหาปีติที่เกิดจากการฟังธรรม แผ่ซ่านไปทั่วทุกขุมขน คิดว่า
การนอนนั้น เป็นกิจวัตรของทุกๆคน จัดว่าเป็นการพักผ่อน ที่ร่างกายยังคงมีความต้องการที่สุด หากมีที่นอนที่นุ่มนวลประณีตก็จะทำให้สรีระร่างกายนี้ ได้พักผ่อนเต็มที่ โดยปราศจากการรบกวนจากสัมผัสหยาบที่จะเกิดขึ้น อย่ากระนั้นเลย เราควรสร้างที่นอนที่สามารถบรรเทาทุกข์แห่งสังขารแด่พระบรมศาสดา เมื่อคิดอย่างนี้ ก็ให้คนทำเตียงอันมีค่ามาก ไม่ใช่ทำด้วยวัตถุธรรมดา แต่ทำด้วยรัตนะที่มีค่ามากที่สุดในยุคนั้น สำเร็จด้วยงา ทอง เงิน แก้วมุกดา และแก้วมณี ปูลาดด้วยแผ่นผ้าที่นำมาจากแว่นแคว้นที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น มีสัมผัสที่นุ่มนวล ละเอียดอ่อน ท่านได้ให้ช่างจัดสร้างจนเสร็จ แล้วนำไปถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ฝ่ายพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปรารถนาจะให้กุลบุตรนี้เกิดมหาปีติ จึงทรงทำการอนุเคราะห์แก่ท่าน ด้วยการบรรทมบนที่นอนที่ท่านสร้างถวาย ณ ที่นั้น กุลบุตรเห็นอย่างนั้นแล้วยิ่งบังเกิดมหาปีติ จดจำภาพนั้นไปจนตลอดชีวิต ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ เวลานอนจะเป็นสุขมากเหมือนกับนอนบนทิพยอาสน์ เป็นอย่างนี้ทุกภพทุกชาติ และยังทำให้ท่านสมบูรณ์ไปด้วยโภคสมบัติ เปรียบเหมือนพืชข้าวกล้าให้ผลิตผลในนาดี เพราะผลแห่งการถวายที่นอนในครั้งนั้น ทำให้ท่านได้เข้าถึงความเป็นใหญ่กว่าผู้อื่น ในกัปที่ ๕,๐๐๐ ได้เป็นพระราชามหาวีระ ๘ ครั้ง ในกัปที่ ๓,๔๐๐ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๔ ครั้ง และในสมัยพุทธกาลนี้ก็มาบังเกิดในสกุลแห่งหนึ่ง อันสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ บรรลุนิติภาวะแล้ว ได้มีโอกาสฟังพระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดา มีจิตเลื่อมใสจึงออกบวช แล้วเจริญวิปัสสนาจนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ได้เข้าถึงความเต็มเปี่ยมของชีวิต
การถวายที่นอนนั้นก็มีอานิสงส์ใหญ่ มีผลบุญพิเศษที่แตกต่างออกไป สามารถที่จะนอนเป็นสุขในทุกภพทุกชาติ ซํ้ายังไปมาในอากาศได้โดยสะดวก มหาสมบัติใหญ่ก็จะบังเกิดขึ้น ตลอดไปจนกระทั่งถึงภพชาติสุดท้ายที่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เรื่องที่หลวงพ่อเล่ามานี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า ใครทำกรรมดีใดไว้ ผู้นั้นก็จะได้รับมหานิสงส์ของความดีนั้น อย่างสมเหตุของการประกอบความดีงามที่ตนเองได้สร้างเอาไว้ แล้วดังนั้น เมื่อทุกท่านต่างได้รับทราบอย่างนี้แล้ว ก็ควรให้หมั่นหาบุญพิเศษให้กับตนเองกัน จะได้มหานิสงส์ที่พิเศษติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
* มก. มหากปิชาดก เล่ม ๗๑ หน้า ๒๑๖
พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/11439
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับอานิสงส์แห่งบุญ ๑
กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
✨น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
🌿🌷🏵️🌺🌸✨💮✨🌸🌺🏵️🌷🌿