หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ใส่บาตรพระไม่กี่รูปทุกวัน กับ ตักบาตรพระจำนวนมากในวันสำคัญ ได้บุญต่างกันอย่างไร

คำถาม: มีคน ๒ กลุ่ม กลุ่มหนึ่งใส่บาตรพระด้วยอาหารที่ทำสำหรับกินเองทุกวัน แต่แบ่งใส่บาตรพระก่อนวันละ ๑-๒ องค์ แต่อีกกลุ่มใส่เฉพาะวันพระ หรือวันสำคัญ ด้วยอาหารที่ประณีตมากมากมาย ชนิดเลี้ยงพระทั้งวัด อยากทราบว่าอานิสงค์ที่ได้รับต่างกันอย่างไรค่ะ? คำตอบ: เรื่องนี้ต่างกันแน่นอน พวกที่ใส่บาตรทุกวัน ได้รับอานิสงค์คือมีสมบัติให้ใช้ไม่ขาดมือ จะรวยหรือเปล่าไม่ทราบ แต่สมบัติจะไม่ขาดมือ ต้องการเมื่อไรก็มีมาเมื่อนั้น แล้วเกิดไปกี่ภพกี่ชาติไม่ว่าจะหยิบจะทำอะไร ทรัพย์สมบัติจะเกิดขึ้นกับเขาอย่างง่ายดาย เป็นคนมีโชค อยากได้อะไรเป็นต้องได้ทุกครั้ง ทำประณีตเป็นพิเศษ และทำมากๆ        ส่วนอีกพวกหนึ่ง เนื่องจาก ๗ วันตักบาตรที ถ้าจะมีโชคก็เป็น ๗ วัน จึงจะมีจะได้กับเขาสักครั้ง แต่เนื่องจากทำประณีตเป็นพิเศษ และทำมากๆ ชนิดเลี้ยงพระทั้งวัด ถึงคราวบุญส่งผล เขาก็จะได้ของที่ประณีตเป็นพิเศษ ได้มากๆ แต่ว่านานๆ จึงจะได้สักครั้งหนึ่ง   ทำทุกวันแต่ไม่ประณีตก็ได้สมบัติธรรมดาและสมบัติจะไม่ขาดมือ       ส่วนพวกที่ทำทุกวัน แต่ไม่ประณีตก็ได้สมบัติธรรมดา ไม่ประณีตแต่ก็ได้ไม่ขาดมือ ถ้าทำทุกวันๆ แล้วประณีตด้วย อย่างนี้มีโชคทุกวัน แล้วก็ได้ของดีเยี่ยม เป็นของเลิศ ของที่ตกมาถึงมือเขารับรองได้ …

ใส่บาตรพระไม่กี่รูปทุกวัน กับ ตักบาตรพระจำนวนมากในวันสำคัญ ได้บุญต่างกันอย่างไร Read More »

ลูกอยากได้บุญในการปลูกต้นไม้ จะทำอย่างไรได้บ้างค่ะ

คำถาม: ลูกอยากจะได้บุญในการปลูกต้นไม้ด้วย จะทำอย่างไรได้บ้างค่ะ ? คำตอบ: สำหรับผู้ที่เคยมาวัดพระธรรมกายตั้งแต่ต้น ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า การประดับดอกไม้ทั้งภายในอาคารและรอบๆ อาคารสภาธรรมกายนี้ก็ดี ได้เปลี่ยนรูปแบบไปจากที่เคยทำกันมา คือแทนที่จะเป็นดอกไม้ล้วนๆ หรือใบไม้ที่ตัดเอามาประดับ เราเปลี่ยนวิธีเป็นว่าเราปลูกพวกไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ เอาไว้ในกระถาง        พอถึงเวลาใช้ได้ คือช่อดอก หรือพุ่มใบไม้งามดี ก็ยกทั้งกระถางเอามาประดับ พอเสร็จงานเราก็ยกกลับไปเก็บในเรือนเพาะชำ เพื่อว่าดอกไม้และใบไม้จะได้ไม่ช้ำ และพร้อมที่จะนำไปใช้งานได้อีก โดยไม่ต้องทำอะไรมาก อย่างนี้เราพบว่าประหยัดเงินค่าซื้อดอกไม้ได้มาก        ขอฝากพวกเราก็แล้วกันว่า ใครที่มีไม้กระถางไม้ประดับจะเอามาทำบุญก็ได้นะ ขอเป็นประเภทไม้พุ่มยืนต้นก็แล้วกัน อย่างที่เห็นตั้งอยู่ในศาลา หรือภายในอาคารนั่นแหละ อย่าให้เป็นไม้ประเภทที่เลี้ยงยากนัก เอาชนิดเลี้ยงง่าย ตายยาก ออกดอกมาก กินน้ำน้อย อะไรทำนองนี้แหละ ถ้าสวยๆ ด้วยแล้วละก็ยิ่งดี ถ้าใครมีต้นไม้กระถางเหลือเฟือ แล้วอยากได้บุญ ก็ยกมาทั้งกระถางเลย เอามาไว้ที่วัดพระธรรมกายเถอะ หลวงพ่อรับรองจะดูแลบำรุงรักษาให้อย่างดีทีเดียว ถึงเวลามีงานบุญใหญ่ ก็จะได้เอามาประดับตกแต่งสถานที่กัน สาธุชนเห็นต้นไม้ดอกไม้สวยๆ จะได้รู้สึกชื่นอกชื่นใจ สบายตา อารมณ์ดี ฟังเทศน์เพลิน สาธุชนเห็นต้นไม้ดอกไม้สวยๆ จะได้รู้สึกชื่นอกชื่นใจ สบายตา อารมณ์ดี ฟังเทศน์เพลิน …

ลูกอยากได้บุญในการปลูกต้นไม้ จะทำอย่างไรได้บ้างค่ะ Read More »

ตอนใส่บาตรถ้าไม่ได้เอาน้ำใส่ไปด้วยคนตายจะได้กินน้ำไหมคะ

คำถาม: ตอนใส่บาตร ถ้าไม่ได้เอาน้ำใส่ไปด้วย คนตายจะได้กินน้ำไหมค่ะ? คำตอบ: คุณโยมต้องทำความเข้าใจเรื่องผลของทานเสียใหม่นะ เราตักบาตรถวายทานแด่พระภิกษุ โดยตั้งใจให้เป็นบุญเป็นกุศล ทานที่เราถวายจะก่อให้เกิดผลเป็นบุญทันที จากนั้นบุญจะเปลี่ยนสภาพไปเองโดยอัติโนมัติ ไม่ใช่ใส่อย่างไหน คนตายจะได้กินอย่างนั้น ไม่ใช่นะ         ถ้าเราใส่บาตรด้วยของดี ของประณีต บุญที่เกิดจากการถวายทาน ก็กลายเป็นของดี ของประณีต เหมาะสำหรับผู้ได้รับในภพภูมิที่เขาอยู่ เช่น ถ้าผู้รับเป็นเปรตที่กำลังหิวโหย อยู่ในภพภูมิที่รับบุญได้ พอเขารับรู้ถึงบุญที่เราอุทิศให้ และเขาอนุโมทนาบุญ ความหิวโหยก็จะหายไป         ถ้าผู้รับเป็นเทวดา เขาก็ได้รับความอิ่มทรัพย์ โดยไม่ต้องเคี้ยวข้าวหรอกนะ         หากคุณโยมคิดจะเอาถุงน้ำใส่ลงไปในบาตรพระละก็ ต้องนึกถึงเวลาที่พระท่านเดินกลับวัดด้วยว่า ถ้าถุงน้ำเกิดแตกในบาตร ข้าวปลาอาหารที่ท่านรับมาก็จะเสียหายหมด         ใครอยากได้บุญเรื่องถวายน้ำละก็ ขอแนะนำให้เอาน้ำไปถวายเติมให้เต็มแท็งค์น้ำของวัด หรือไปเจาะบ่อบาดาลถวายวัดที่กันดารน้ำจะดีกว่า ถ้าทำแบบนี้รับรองว่าเกิดไปกี่ภพกี่ชาติจะไม่มีวันอดน้ำแน่นอน โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาอย่างไรถึงจะถูกต้อง

คำถาม:  การปล่อยสัตว์ปล่อยปลา จะได้บุญเสมอไปหรือค่ะ ได้ทราบว่าในที่บางแห่งมีคนจับนกมาขัง แล้วให้กินยาเสพย์ติด สักพักหนึ่งก็เอามาขาย คนซื้อนกติดยามาปล่อยหวังจะได้บุญ แต่นกมันติดยา ปล่อยแล้วก็บินกลับไปหาคนขายอีก ทราบว่านกตัวหนึ่งๆ ขายได้หลายรอบ อย่างนี้บุญที่เราปล่อยสัตว์ จะกลายเป็นบาปหรือเปล่าเจ้าค่ะ? เพราะเท่ากับไปช่วยส่งเสริมสนับสนุนอาชีพเขา ให้จับนกมากักขังเพื่อขาย คำตอบ: การให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน เจตนาเป็นบุญก็ได้บุญ เราได้บุญกันตรงเจตนา ได้บาปได้ชั่วก็ตรงเจตนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า เจตนาหํ กมฺมํ วทามิ เราตถาคตกล่าวว่าเจตนานั่นแหละเป็นกรรม         ถ้าเราปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยวัว ปล่อยควาย ให้ชีวิตเป็นทานโดยเจตนาบริสุทธิ์ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ส่วนที่จะได้บุญก็ได้บุญละนะแต่ส่วนที่ว่าสมควรหรือไม่สมควร ยังมีอีก         การกระทำบางอย่างเป็นบุญ แต่ไม่สมควรก็ต้องงด เช่น ไปขอซื้อวัว-ควายจากโรงฆ่าสัตว์มาปล่อยวัด ถ้าตัวเดียวก็พอให้อยู่วัดได้ แต่พอหลายตัวเข้าก็ชักเลอะเทอะกันใหญ่         คนที่คิดจะไปไถ่ชีวิตวัวควายมาให้พระเลี้ยง ในอีกแง่มุมหนึ่งก็ต้องสงสารวัด สงสารพระกันบ้างเถอะ ท่านบวชเข้ามาก็หวังจะเรียนธรรมวินัย หวังฝึกหัดขัดเกลาตัวเองให้กิเลสเบาบางลงไป จะได้ไปสอนชาวบ้านให้เป็นคนดี มีความสุขความเจริญในการทำมาหากิน         แต่นี่ชาวบ้านกลับจะมาให้ท่านเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ต้องมาคอยล้างขี้วัวขี้ควาย มันสมควรอยู่หรือ?         คราวนี้เรื่องนกติดยาอะไรนี่ ก็อย่าไปกังวลให้มากเลย …

ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาอย่างไรถึงจะถูกต้อง Read More »

ถ้าเราไปซื้อปลาที่มันชามาปล่อยให้มันตายเองเสียก่อน แล้วเอามาทำอาหาร อย่างนี้จะบาปไหม

คำถาม: หลวงพ่อเจ้าคะบางทีเราไปตลาด เราเห็นปลาช่อนที่เขาเอามาขายมันเริ่มชาแล้ว อย่างไรเสียอีกไม่นาน มันก็ต้องตายเอง เราไปซื้อปลาที่มันชา เอามาบ้านแล้วปล่อยให้มันตายเองสียก่อน แล้วเอามาทำอาหาร อย่างนี้จะบาปไหมคะ ? คำตอบ: ประเด็นนี้ก็ได้ชื่อว่ามีส่วนในการฆ่าเหมือนกัน ลองมาฟังนิทานดูสักเรื่อง บอกก่อนนะว่าเรื่องนี้เป็นเพียงนิทาน แต่ว่าเคยเป็นข้อสอบที่เอามาถามกันในการสอบนักธรรมของพระภิกษุสามเณร         เรื่องอยู่ว่า มีตากับยายสองคน เข้าวัดเป็นประจำทั้งคู่ วันโกนวันพระก็ไปนอนวัด ถือศีล ๘ กันตลอดพรรษา เช้ารุ่งขึ้นจากวันพระวันหนึ่ง ก็พายเรือกลับมาบ้านด้วยกัน ตาพายท้าย ยายพายหัวขณะพายเรือฉับ ๆ ไปนั่นเอง ก็มีปลาเจ้ากรรมตัวหนึ่งกระโดดเข้ามาในเรือ ทั้งตาทั้งยายถือศีลกันมานาน ก็รู้อยู่นะว่าฆ่าสัตว์เป็นบาป แต่ปลานี้มันตัวโต แล้วทั้งคู่ก็อยากกินแกงปลาติดหมัดขึ้นมาเดี๋ยวนั้นทีเดียวก็คิดกันอยู่ในใจทั้งคู่ละนะว่า ทำอย่างไรหนอจะได้กินแกงปลาอร่อย ๆ แล้วก็ไม่บาปด้วย         ตาก็เอื้อมมือไปจับปลาตัวนั้น แล้วก็โยนไปให้ยายที่นั่งอยู่หัวเรือ บอกว่า “ยาย…แกปล่อยปลาซิ” ยายก็แหม….กำลังมองหาผักบุ้งยอดอ่อน ๆ มาใส่แกงส้มปลาอยู่พอดี แต่ว่าก็กลัวบาป เลยจับปลาโยนกลับไปให้ตาพร้อมกันบอกว่า “ตา..แกปล่อยเองถอะ” ตาก็จับปลาโยนกลับมาใหม่ “แกปล่อยเถอะ” โยนกันไปโยนกันมาจนปลาตาย         ถามว่าบาปไหม ? ตอบว่าบาป …

ถ้าเราไปซื้อปลาที่มันชามาปล่อยให้มันตายเองเสียก่อน แล้วเอามาทำอาหาร อย่างนี้จะบาปไหม Read More »

การมีอาชีพขายเหล้า หรือขายบริการให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ถือว่าเป็นการสนับสนุนให้เขาผิดศีล ๕

คำถาม: การมีอาชีพขายเหล้า หรือขายบริการให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ไม่ทราบว่าเป็นการสนับสนุนให้เขาผิดศีล ๕ หรือไม่อย่างไร หลวงพ่อกรุณาช่วยอธิบายด้วยคะ ? คำตอบ: เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน หลวงพ่อจะเล่าเรื่องเก่าให้ฟัง ที่บ้านหลวงพ่อแต่เดิมก็เป็นเอเย่นค้าเหล้า ถามว่าแล้วมีบาปติดตัวไหม ?         ตอบว่ามี หลวงพ่อเองตอนนี้เป็นนิสิตมหาวิทยาลัย เคยได้ชื่อว่าเป็นถังเหล้าเคลื่อนที่อยู่ระยะหนึ่ง คนที่ค้าเหล้านี่โดยทั่วไปเขารู้ไหมว่าคนที่ซื้อเหล้าไปกินจะเสียผู้คน รู้ไหมว่ากินแล้วเขาจะเมา “รู้” แต่เขาไม่สงสารคนกิน เขาขาดคุณธรรม คือเมตตาจิต เห็นแก่จะได้ฝ่ายเดียว แล้วก็เลยตั้งหน้าตั้งตาขายไปทั้งเหล้าทั้งบริการ         ด้วยบาปที่ขาดเมตตาจิตนี้ ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน ถ้าตกทุกข์ได้ยากเมื่อไร จะไม่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ชาตินี้แม้เคยช่วยใครมาเท่าไร ๆ พอถึงคราวตัวเองทุกข์ได้ยากบ้าง ก็จะไม่มีคนช่วยเคยช่วยคนอื่นไว้ อาจจะเป็นบุญแค่ปลายนิ้วก้อย แต่บาปที่เขาขาดเมตตาจิตมอมเมาคนทั้งโลกนี่ เทียบกันแล้วบาปเป็นกระบุงเป็นตระกร้าเอามาเทียบกับบุญที่ทำไว้แค่ปลายนิ้วก้อย มันถ่วงกันไม่ได้ งัดกันไม่ขึ้นหรอกนะ         โบราณจึงบอกว่า ใครที่ค้าเหล้าค้ายาเสพติด ทำบุญกับใครไม่ขึ้น จริง ๆ แล้วก็บุญส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป แต่ว่าบาปมันมีตั้งเยอะ เมื่อเทียบกับบุญที่ทำไว้นิดเดียว มันก็เลยเทียบกันไม่ได้ คนพวกนี้ทำบุญคุณกับใครแล้วเขาไม่เห็นความดีหรอก เพราะฉะนั้นใครที่เป็นคนขายเหล้า เป็นเจ้าของกิจการขายเหล้า หรือเป็นคนเสิร์ฟ …

การมีอาชีพขายเหล้า หรือขายบริการให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ถือว่าเป็นการสนับสนุนให้เขาผิดศีล ๕ Read More »

คนที่ชอบโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจนั้นบาปหรือไม่

คำถาม: ศีลข้อที่ ๔ เรื่องมุสานั้น หมายความว่าไม่ให้พูดคำที่ไม่เป็นจริงเลยหรือครับ หรือมีข้อยกเว้นอย่างไรบ้าง ? คำตอบ: แน่นอนคำที่ไม่เป็นจริง ห้ามพูดเด็ดขาด ข้ออ้างชนิดที่เรียกว่าโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจนั้นฟังไม่ขึ้น โกหกแล้วใครจะสบายใจหรือไม่สบายใจยังไงก็ตามเถอะ โกหกก็คือโกหก มันผิดนะ         คำถามประเภทนี้มักจะได้ยินจากพ่อบ้านจอมเจ้าชู้อยู่บ่อย ๆ “กับคนอื่นผมไม่โกหกหรอก ผมจะโกหกเฉพาะกับเมียผมเท่านั้นแหละคือพูดให้แกสบายใจ ผมคงไม่บาปนะหลวงพ่อ” นั่นแหละบาปชัด ๆ เสียแรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งนาน ยังหลอกกันได้         คนที่ชอบอ้างว่าโกหก เพื่อให้คนอื่นสบายใจนั้น ลองสำรวจตัวเองใหม่จะพบว่า ถ้าเราเองได้จัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเราอย่างรอบคอบถูกต้องแล้ว การที่จะมาโกหกเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้น ก็เป็นอันหมดห่วงไปได้ เพราะว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เราจะต้องไปโกหกใครนั่นเอง แต่ถ้าเรายังต้องโกหกคนโน้นคนนี้อยู่ ก็แสดงว่ายังมีเรื่องที่ไม่ถูกต้องแอบแฝงไว้ ต่อไปชีวิตของเราจะไม่ราบรื่นแน่ถ้าไม่รีบแก้ไข โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ให้สัจจะว่าจะรักษาศีล 8 ตลอดไป แต่ต้องไปทำงานทางโลก ต้องมีการเลี้ยงสังสรรค์ จะต้องทำอย่างไร

คำถาม: ผมให้สัจจะว่าจะรักษาศีล ๘ ตลอดไป แต่ผมต้องไปทำงานทางโลก ซึ่งอาชีพที่ทำต้องมีการพบปะสังสรรค์กับลูกค้าผมจะทำอย่างไรดีครับ ? คำตอบ: หลวงพ่อจะยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ฟัง สมัยก่อนบวชหลวงพ่อก็ต้องทำงานทางโลก ต้องพบปะลูกค้า ต้องไปนั่งร่วมวงกับเขาแต่หลวงพ่อก็นั่งอยู่ได้ โดยไม่ต้องกินเหล้าไปกับเขาด้วย ซึ่งก็ทำได้ไม่ยาก เขากินเหล้า เราก็กินน้ำอัดลม กินกับแกล้ม ก็คุยกันได้เรื่อยไป ตอนนั้นหลวงพ่อถือศีล ๕ อยู่ ยังไม่ถือศีล ๘ มีอาชีพเป็น Sale-man บางครั้งก็ต้องพาลูกค้าไปเลี้ยง เขาจะกินเหล้าก็กินไป ไม่ว่ากัน เราไม่กินเหล้า แต่เรากินกับแกล้ม         ความจริงกับแกล้มเหล้าของพวกขี้เมานี่อร่อยดีเหมือนกันนะ แหม..เนื้อย่างก็อร่อยเข้าท่า ลาบก็เข้าท่า อร่อยอีกเหมือนกัน หลวงพ่อกินกับแกล้มอุตลุดหมด เขากินเหล้าไป เราก็กินกับแกล้มไป พอชักคอแห้งก็กินน้ำอัดลม ก็ไม่เดือดร้อน ไม่ขัดคอกัน หนักเข้า ๆ พวกเพื่อนขี้เมาไม่อยากให้หลวงพ่อไปด้วย มันตั้งฉายาให้ว่า “ขุนกับแกล้มวินาศ” คบไม่ได้         วันหลังพอมันจะไปกินเหล้ากัน มันบอกตรง ๆ เลย “ไม่ชวนไปหรอก กับแกล้มมีเท่าไหร่เอ็งกินหมด!” แต่เราก็เข้าหากันได้ …

ให้สัจจะว่าจะรักษาศีล 8 ตลอดไป แต่ต้องไปทำงานทางโลก ต้องมีการเลี้ยงสังสรรค์ จะต้องทำอย่างไร Read More »

เอาไข่เป็ด ไข่ไก่ที่ซื้อจากตลาดมาทำอาหาร จะเป็นการผิดศีลข้อที่ 1 หรือไม่

คำถาม: เอาไข่เป็ด ไข่ไก่ที่ซื้อจากตลาดมาทำอาหาร จะเป็นการผิดศีลข้อที่หนึ่งไหมคะ ? คำตอบ: ศีลข้อที่หนึ่งท่านใช้คำว่า “ปาณาติปาตา เวระมะณี” คือเว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ที่มีลมปราณ คือเริ่มมีลมหายใจ ถ้าไข่ที่เราซื้อมาเป็นไข่ที่ฟักไม่ได้เลย หรือฟักไม่เป็นตัว ก็ไม่ได้ผิดอะไร         ถ้าถามต่อว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นไข่ที่ซื้อมาฟักเป็นตัวแล้ว ตอบว่าไข่ที่ฟักเป็นตัวได้แล้วนั้น จะเริ่มเป็นจุดเมื่อกกไข่ไปได้ประมาณสัก ๔-๗ วัน ถ้ายกฟองไข่ส่องดูจะเห็นจุดโตประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวหรือถ้าเอาไฟฉายส่องดูตอนกลางคืน จะเห็นเส้นเลือดขึ้นเป็นคล้ายตาข่ายชัดเจน ซึ่งแสดงว่าไข่เริ่มมีชีวิตอยู่ข้างใน ถ้าทุบไข่ตอนนั้นก็ถือว่าทำให้ชีวิตขาดล่วงไป เป็นปาณาติบาต คือฆ่าสัตว์         แต่ว่าถ้าไข่นั้นยังไม่ได้ถูกฟัก หรือถึงเอาเข้าฟักแล้ว แต่เป็นไข่ที่ไม่มีเชื้อตัวผู้ผสมอยู่ ไม่มีชีวิตเกิดอยู่ภายใน การกินไข่นั้นก็ไม่ผิดศีลอะไร โดยทั่วไปไข่ไก่ ไข่เป็ดในท้องตลาดขณะนี้ เนื่องจากผู้เลี้ยงส่วนใหญ่เลี้ยงแยกตัวผู้ตัวเมียออกจากกัน ไข่ที่ออกมาจึงเป็นพวกไข่ลม คือไม่มีเชื้ออยู่แล้ว จะกินก็กินไป ไม่ต้องกลัวผิดศีลข้อฆ่าสัตว์         ยกเว้นบางครั้งจับผลัดจับผลู เขาเอาไข่ที่ผสมแล้วและฟักแล้วจนมันเริ่มเป็นชีวิตขึ้นมา เอามาขาย ถ้ากรณีนั้นศีลข้อหนึ่งของเราก็จะพร่องไป แต่ก็แค่ด่างพร้อย เพราะเราไม่รู้ว่าไข่นั้นมีชีวิตอยู่ คือเราไม่มีเจตนาฆ่านะ (ดูประกอบเพิ่มเติมเรื่ององค์แห่งศีล) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง …

เอาไข่เป็ด ไข่ไก่ที่ซื้อจากตลาดมาทำอาหาร จะเป็นการผิดศีลข้อที่ 1 หรือไม่ Read More »

เมื่อทำบุญแล้วควรอธิษฐานอย่างไรและควรอุทิศให้แก่เจ้าที่เจ้าทางเจ้ากรรมนายเวรหรือไม่

คำถาม: เมื่อทำบุญแล้ว จะอุทิศส่วนกุศลควรอธิษฐานอย่างไร และควรอุทิศให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง เจ้ากรรมนายเวรหรือไม่ ? คำตอบ: อธิษฐานอุทิศส่วนกุศลให้แก่หมู่ญาติและผู้ที่มีพระคุณของเราขอให้ได้มาอนุโมทนารับบุญไปตามส่วน ใครที่เราเคยล่วงเกินไว้ ก็ขอให้มาอนุโมทนาบุญด้วย และขอให้อโหสิกรรมแก่เรา แคนี้ก็พอแล้ว โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ทำบุญใส่ชื่อคนตาย เขาจะได้รับหรือไม่

คำถาม: การทำบุญถ้าจะใส่ชื่อคนตาย โดยเราประสงค์จะอุทิศส่วนกุศลให้ เขาจะได้รับหรือไม่ ? คำตอบ: เราจะเขียนหรือไม่เขียนชื่อก็ได้ การทำบุญผู้ที่ได้บุญแน่นอนคือตัวผู้ทำบุญนั้นเอง เมื่อเราได้บุญจะอุทิศส่วนกุศลให้ใคร ก็เพียงแต่นึกในใจว่า ขอให้บุญจงถึงแก่ท่านผู้นั้น ถ้าท่านผู้นั้นอยู่ในฐานะที่จะรับได้ ท่านก็ได้รับทันที         อย่างเช่น โยมพ่อของหลวงพ่อนั่งสมาธิ(Meditation) จนกระทั่งใจใสสว่างดีแล้ว ก็นึกให้โยมพ่อมาอนุโมทนาเอาบุญถึงที่นั่งสมาธิ ให้มารับบุญไปมาก ๆ ให้สมกับที่เลี้ยงเจ้าลูกดื้อคนนี้มาอย่างลำบากยากเย็น ก็นึกอย่างนี้ทุกครั้งถ้าเราต้องการอุทิศกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ท่านไม่เคยทำบุญให้ทานเลย ท่านจะสามารถรับส่วนกุศลที่เราอุทิศไปให้ได้หรือไม่ ?         ถ้าท่านไปตกนรกลึก ๆ ก็ไม่สามารถจะรับได้ แต่ไม่เป็นไร ญาติคนอื่นอาจจะรับต่อได้ ขอให้ทำต่อไป การอุทิศส่วนกุศลนี้ บางคนก็ได้รับ บางคนก็ไม่ได้รับ อุปมาเหมือนคนป่วยหนักในโรงพยาบาล มีคนเอาผลไม้ไปเยี่ยม แต่เนื่องจากป่วยหนักเข้าจึงไม่สามารถกินผลไม้เหล่านั้นได้ผู้ที่ได้กินแทนก็คือคนเฝ้าไข้ พอเขาอิ่มหนำสำราญ เขาก็ดูแลคนไข้อย่างดีเป็นผลทางอ้อม แต่ถ้าคนป่วยไข้เพียงเล็กน้อย เราเอาผลไม้หรืออาหารไปเยี่ยม ก็คงจะพอกินได้บ้าง         เปรียบเทียบได้เช่นเดียวกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ถ้าตกนรกลึก ๆ ก็เหมือนคนป่วยหนักจะอุทิศส่วนกุศลไปให้เท่าไรก็ไม่ถึง แต่จะถึงกับญาติคนอื่น ๆ ที่อยู่ในฐานะจะรับได้ แต่ถ้าผู้ที่เราอุทิศส่วนกุศลให้ทำบาปเพียงเล็กน้อย ก็เหมือนคนป่วยอาการเล็กน้อย คงจะพอได้รับส่วนกุศลที่เราอุทิศได้บ้าง         …

ทำบุญใส่ชื่อคนตาย เขาจะได้รับหรือไม่ Read More »

ถ้าจบอาหารก่อนใส่บาตร แล้วไม่ได้กรวดน้ำ คนที่เราอุทิศให้จะได้รับผลบุญไหม

คำถาม: ถ้าจบอาหารก่อนใส่บาตร แล้วไม่ได้กรวดน้ำ คนที่เราอุทิศให้จะได้รับผลบุญไหมคะ ? คำตอบ:   จบก็คือจบ อุทิศก็คืออุทิศ คนละอย่างกัน จบ คือการอธิษฐาน โดยยกของหรือถาดใส่ของที่จะถวายพระขึ้นเหนือศีรษะหรือจรดหน้าผาก แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “ด้วยอำนาจบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้ ขอให้หมดกิเลสไปพระนิพพาน”         แต่เวลากรวดน้ำเขาขอว่า “ทานที่ข้าพเจ้าทำดีแล้วนี้ ขอให้ถึงแก่ญาติคนนั้น ๆ”         การอธิษฐานเป็นการสร้างอธิษฐานบารมี ตั้งความปรารถนามุ่งผลอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อตนเอง ส่วนการกรวดน้ำเป็นอาหารแสดงการอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น ถ้าให้แก่คนที่อายุน้อยกว่าเรา ก็เป็นลักษณะของ เมตตาบารมี ถ้าให้กับผู้ที่เป้นผู้ใหญ่กว่าเรา มีพระคุณแก่เรา นั่นเป็นการแสดงกตัญญูกตเวที         เพราะฉะนั้นการจบอาหารก่อนใส่บาตร กับการกรวดน้ำหลังตักบาตรนี่ต่างกันนะ         การกรวดน้ำนั้นเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่หมู่ญาติ เป็นอุบายวิธีทำให้ใจสงบ เยือกเย็นและกว้างขวาง พร้อมที่จะอุทิศผลบุญให้ผู้อื่นอย่างเต็มที่ คนที่ฝึกสมาธิ(Meditation)มาดีแล้ว สามารถเข้าสมาธิแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำเป็นสื่อ เพราะฉะนั้นถ้าหาน้ำไม่ทันหรือโอกาสไม่อำนวย ทำบุญแล้วก็ควรนึกอุทิศส่วนกุศลทันที ในขณะที่ใจยังปีติอิ่มอยู่ในบุญ         ในทำนองเดียวกัน เมื่อจะตักบาตร ทำทานก็ควรจบหรือนึกอธิษฐานบุญ ตั้งผังกำหนดทิศทางการส่งผลของบุญให้ถูกต้องก่อนด้วย         ส่วนที่ถามว่าผู้ที่เราอุทิศให้ด้วยใจ แต่ไม่ได้กรวดน้ำให้ จะได้ส่วนบุญหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับเองว่าเขาอยู่ในฐานะที่จะรับได้หรือไม่ ถ้าตกนรกลึกนัก …

ถ้าจบอาหารก่อนใส่บาตร แล้วไม่ได้กรวดน้ำ คนที่เราอุทิศให้จะได้รับผลบุญไหม Read More »

การเอาอาหารไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษนั้นท่านจะได้รับหรือไม่

คำถาม: การเอาอาหารไปเซ่นไหว้ หน้าศพของบรรพบุรุษนั้น อยากทราบว่าท่านจะรับอาหารที่เราเซ่นไหว้ได้หรือไม่คะ ? คำตอบ:   ไม่ได้หรอกนะ อาหารที่ไปตั้งหน้าศพ จะให้ศพลุกขึ้นมากินได้อย่างไร มีแต่ว่าเราทำบุญไปแล้ว อุทิศส่วนกุศลไปให้จึงจะได้ ขนาดตอนยังมีชีวิตอยู่ยังกินไม่ค่อยจะได้ ตายแล้วจะลุกขึ้นมากินได้อย่างไร โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

การถวายสังฆทานคืออะไร และต้องทำอย่างไรบ้าง

คำถาม: การถวายสังฆทานคืออะไร และต้องทำอย่างไรบ้างครับ ? คำตอบ:   การถวายสังฆทาน คือ การถวายทานแด่คณะสงฆ์ โดยไม่จำเพาะเจาะจงรูปหนึ่งรูปใด เราสามารถทำได้ ๒ ลักษณะ คือ ๑. ไปที่วัดใดวัดหนึ่งแล้วนิมนต์พระตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป มานั่งพร้อมกัน แล้วนำของถวายท่าน หรือ ๒. ไปพบพระรูปใดรูปหนึ่ง แล้วตั้งใจกล่าวถวายเป็นสังฆทานให้ท่านนำไปถวายต่อแก่พระรูปอื่นด้วย ให้ท่านแบ่งปันกันเองในหมู่สงฆ์ไม่เฉพาะเจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

เราควรมีหลักในการให้พรอย่างไรบ้าง

คำถาม: ยังไม่ทันแก่ก็มีลูกศิษย์ลูกหามาอวยพรปีใหม่ มากันหลายคน หลายกลุ่มไม่รู้จะให้พรอย่างไร ถ้าให้เหมือนกันทุกคนอย่างกับท่องจำคงไม่ดี หลวงพ่อมีหลักในการให้พรอย่างไรคะ ? คำตอบ:   การให้พรเป็นการให้ความประเสริฐ ถ้ามองแล้วตัวเราไม่ได้มีความดีความประเสริฐอะไรเลย แต่พรุ่งนี้ลูกศิษย์ลูกหาจะมาขอพรจะเอาอะไรให้ ให้พรปาว ๆ เป็นนกแก้วนกขุนทอง พรก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ปู่ ย่า ตายายของเราเวลาท่านให้พร เรารู้สึกว่าพรของท่านศักดิ์สิทธิ์ มีความขลังอยู่ในคำให้พรนั้นด้วย         ถามว่าพรศักดิ์สิทธิ์ตรงไหน ? พรศักดิ์สิทธิ์ พรขลัง ให้ผลจริงจังตรงสัจจะของผู้ให้ บอกอย่างนี้บางคนนึกไม่ออก ถ้านึกไม่ออกก็ต้องให้ย้อนไปดูเรื่องเก่า ๆ ดูตำรับตำราโบราณ ดูเรื่องพระองคุลิมาลก็แล้วกัน         พระองคุลิมาล ก่อนบวชท่านเป็นโจรฆ่าคนมาเป็นพัน ภายหลังเมื่อได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วจึงสำนึกบาปได้ ขอบวชเป็นพระภิกษุตั้งใจบำเพ็ญเพียรอยู่ในสำนักของพระพุทธองค์ แต่เนื่องจากท่านเคยเป็นโจรที่มีชื่อเสียง ลือกระฉ่อนเรื่องฆ่าคนไม่เลือกหน้าระยะแรก ๆ เวลาออกบิณฑบาต ท่านไม่ค่อยได้อาหาร เพราะพอชาวบ้านจำหน้าได้ว่า คือโจรรองคุลิมาลก็ตกใจ เผ่นหนีกันไปหมด บางวันก็ถูกรุมขว้างปาจนเลือดอาบ         วันหนึ่ง ท่านออกบิณฑบาตไปพบผู้หญิงท้องแก่กลางทางผู้หญิงคนนั้นพอจำได้ว่าเป็นโจรองคุลีมาล ก็ตกใจ วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลาน ในที่สุดก็หมดเรี่ยวแรงจะหนี ได้แต่อ้าปากผะงาบ ๆ ร้องไม่ออก ทำ …

เราควรมีหลักในการให้พรอย่างไรบ้าง Read More »