หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ที่วัดพระธรรมกายทำอย่างไร คนจึงมาที่วัดกันเป็นพันๆ หมื่นๆ และยังมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

คำถาม: ไม่ทราบว่าที่วัดพระธรรมกายทำอย่างไร คนจึงมาที่วัดกันเป็นพันๆ หมื่นๆ มามากอย่างนี้ แล้วยังมีระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย แปลกจริงๆ คำตอบ: วัดพระธรรมกาย ใช้ระบบที่ว่า ใครก็ตามเมื่อมาถึงวัดแล้ว เราจะฝึกคุณธรรมให้ทุกคนมีวินัย มีความเคารพ และมีความอดทน ให้มีคุณธรรม 3 อย่างนี้ก่อน         ยกตัวอย่างเช่น เมื่อญาติโยมมาถึงวัด ก็ฝึกให้เขานั่งเป็นแถวเป็นแนว โดยเอาเสื่อปูเป็นแถวๆ แล้วก็ทำจุดที่แถวหน้าให้เขาดู เวลานั่งต้องนั่งให้ตรงกับจุด ซึ่งส่วนมากก็นั่งกันได้เป็นแถวดี สำหรับผู้ที่ยังนั่งไม่ตรงจุด เราก็หาเด็ก 2-3 คน ให้เป็นคนคอยเชิญเขามานั่งให้ตรงจุดหรือตรงคอคนหน้า ใครเข้ามาใหม่ เด็กก็เชิญเขามานั่งต่อๆ กันไป เพราะฉะนั้นมีมาเท่าไหร่ก็นั่งเป็นแถวหมด เราก็ฝึกวินัยกันง่ายๆ อย่างนี้         พอเลิกนั่งสมาธิ เลิกเทศน์หรือเลิกพิธีแล้ว ก็ให้สวดมนต์ทำวัตรก่อน เป็นบทยาวประมาณ 15 นาที ขณะสวดมนต์เราก็มีเด็กเตรียมผ้าเช็ดเสื่อ ซึ่งซักแล้วบิดหมาดๆ มาวางไว้ที่หัวเสื่อ พอสวดมนต์เสร็จเขาก็ลุกออกจากที่ ส่วนหนึ่งก็จะไปเช็ด และม้วนเสื่อเก็บส่วนพวกที่ไม่ได้เช็ดเสื่อ ก็มีเด็กอีกชุดหนึ่งเตรียมไม้กวาดส่งให้ อีกชุดเตรียมไม้ถูพื้น ผ้าขี้ริ้ว เมื่อญาติโยมที่มาวัดได้ช่วยกันกวาด ได้เช็ดเสื่อ ได้ถูศาลาแล้ว เขาจะมีความรู้สึกผูกพัน มีความเป็นเจ้าของวัด …

ที่วัดพระธรรมกายทำอย่างไร คนจึงมาที่วัดกันเป็นพันๆ หมื่นๆ และยังมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย Read More »

จริงหรือไม่ที่วัดพระธรรมกายทำธุรกิจการค้าเพื่อหาเงินใช้จ่ายในวัด

คำถาม: เคยมีข่าวว่า วัดพระธรรมกายใช้ที่ดินมาก ใช้เงินในการดูแลวัดพัฒนาพระ เณร อุบาสก อุบาสิกามาก ก็เลยมีการทำธุรกิจการค้าเพื่อหาเงินใช้จ่ายในวัด ข่าวนี้กราบขอความกรุณาให้หลวงพ่อชี้แจงด้วย? คำตอบ: โยม ธุรกิจไม่ใช่เรื่องของพระ ที่เราเป็นอยู่ได้ทุกวันนี้ จริงๆ แล้วใช้หลักง่ายๆ ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านให้เอาไว้ รวมกับหลักการของคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของพวกเรามาแต่ต้น หลวงพ่อวัดปากน้ำ ให้คาถาเรียกเงินสร้างวัดไว้ 3 บท คือ         มนต์บทที่ 1 กวาดวัดให้สะอาด เพราะถ้าวัดสะอาดแล้วคนที่เขาตั้งใจมาทำบุญ สมมติว่าตั้งใจจะมาทำสัก 10 บาท มาถึงเห็นวัดสะอาดสะอ้าน น่ายืน น่าเดิน แม้กระทั่งน่านอนในศาลา จากเดิมที่คิดจะทำบุญ 10 บาท ก็มีสิทธิ์เพิ่มเป็น 100 บาท ถ้าตั้งใจทำบุญ 100 บาท ก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นเงาตามตัว         อุปกรณ์ทำความสะอาดนี่สำคัญมาก อย่ามองไม้กวาด มองผ้าขี้ริ้ว หรือถังขยะว่ามันเป็นไม้กวาด ผ้าขี้ริ้ว ถังขยะที่สกปรกโสโครก แต่ขอให้มองว่าของเหล่านี้ คือเทพธิดาแห่งความสะอาด ไม้กวาดที่เรากวาดขยะมีฤทธิ์ดึงดูดสมบัติติดปลายไม้กวาดมาได้นะ ทั้งผ้าขี้ริ้ว …

จริงหรือไม่ที่วัดพระธรรมกายทำธุรกิจการค้าเพื่อหาเงินใช้จ่ายในวัด Read More »

ถ้าพระเณรวัดอื่นขอมาอยู่วัดพระธรรมกายจะได้หรือไม่

คำถาม: สามเณรวัดอื่นจะขอมาอยู่ที่วัดพระธรรมกายจะได้หรือไม่ และจะต้องทำอะไรบ้าง? คำตอบ: เราประกาศอยู่ตลอดเวลาว่า ถ้าใครจะสมัครมาเป็นสามเณรที่นี่ จะเป็นพระที่นี่ เรายินดีรับ กฎเกณฑ์ต่างๆ มีไว้เรียบร้อย แต่ว่ากฎเกณฑ์ก็มากหน่อย แล้วก็บอกกันตรงๆ ว่าเป็นพระวัดนี้เหนื่อย ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งรองเจ้าอาวาส พระเณรทุกรูปเหนื่อยกันทั้งนั้น ถ้าท่านคิดว่าจะทนเหนื่อยได้มาสิครับ ยินดีต้อนรับ         กฎเกณฑ์กติกาที่ว่านี้ ความจริงก็ไม่มากเท่าไร เช้าตี 4 ครึ่งก็ตื่นขึ้นมาทำวัตรทำภาวนาไป พอสว่างก็ไปบิณฑบาต เสร็จจากบิณฑบาตกลับมาฉัน เสร็จแล้วก็ไปเก็บกวาดเช็ดถูประมาณ 9 โมง ก็นั่งภาวนาไป งานอื่นยังไม่ต้อง ทำภาวนาไปจนกระทั่ง 11 โมง ถ้าท่านรูปไหนเพียงแค่นั่งชั่วโมงเดียว ก็โอยไม่ไหวแล้ว เมื่อยแล้ว ทนไม่ไหวท่านไม่ต้องมาสมัคร อยู่ไม่ได้หรอกครับ มีมาสมัครกันตั้งเยอะแล้วแต่มักจะอยู่กันไม่ได้ ที่อยู่ได้ก็มีครับ         ฉันเพลแล้วเรียนไม่ใช่นอน เรียนนักธรรม เรียนบาลีก็เรียนกันไป ตกกลางคืนทำภาวนาถึง 3 ทุ่ม หลังจากนั้นจะท่องหนังสืออ่านตำรา ก็นิมนต์ตามสะดวก แต่ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน ตี 4 ครึ่ง ต้องตื่นอย่าอยู่ช้า ถ้าทนได้ ก็อยู่ด้วยกันได้ …

ถ้าพระเณรวัดอื่นขอมาอยู่วัดพระธรรมกายจะได้หรือไม่ Read More »

รถบัสที่รับส่งคนมาวัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์ ได้รับบริจาคมาจากไหน หรือต้องจ้างเขา ค่ารถปีละเท่าไร เอาเงินมาจากไหน?

คำถาม: รถบัสที่รับส่งคนมาวัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์ ได้รับบริจาคมาจากไหน หรือต้องจ้างเขา ค่ารถปีละเท่าไร เอาเงินมาจากไหน? คำตอบ: รถที่รับ-ส่งสาธุชนแต่ละคันนี่ต้องจ้างเขานะ เข้าใจว่าประมาณวันละ 1,000 บาท (ราคาปี พ.ศ. 2528) ต่อไปทางวัดจะเพิ่มจุดออกรถตามหมู่บ้านต่างๆ ด้วย เลือกหมู่บ้านที่ใหญ่ๆ หน่อย         ปีที่แล้วเนื่องจากขยายรถเพิ่มขึ้นมาเป็น 7-8 จุดด้วยกัน เพื่อพยายามรับลูกหลานที่อยู่ตามสถาบันต่างๆ ให้ทั่วถึง เฉพาะค่ารถเมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ.2527) ไม่คิดว่ารถในงานบุญใหญ่นะ รวมได้ประมาณ 6 แสนบาท         หลายคนบ่นว่า ทำไมทอดผ้าป่าบ่อยจริง จะเอาเงินไปทำอะไร? ก็เอามาใช้กันอย่างนี้แหละครับ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น

คำถาม: สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น คำตอบ:      โลกยุคนี้มิได้เป็นยุคที่คนหวงแหนความรู้มิได้เป็นยุคที่คนขาดแคลนความรู้ ตรงกันข้ามกลับเป็นยุคที่คนมีความรู้จากทั่วทุกมุมโลกพยายามแข่งขันกันเผยแพร่ความรู้ของตัวเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตตลอด ๒๔ ชั่วโมงอีกด้วย      วิธีการเผยแพร่ความรู้ก็ทำได้ง่าย ๆ ใครมีความรู้ใดอยากจะแบ่งปันให้ผู้อื่นได้รู้บ้าง ก็อัปโหลด (Upload) ข้อมูลลงในอินเทอร์เน็ตความรู้นั้นก็จะถูกเผยแพร่กระจายออกไปทั่วโลกทันที ส่วนใครอยากรู้เรื่องใด เมื่อเข้าไปในอินเทอร์เน็ต ก็สามารถค้นหาความรู้เรื่องที่ต้องการนั้น แล้วดาวน์โหลด (Download) มาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ได้ทันทีเช่นกัน      ปริมาณข้อมูลความรู้ที่มีอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ตอย่างมากมายมหาศาลนี้ กลายเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยของโลก โดยเปลี่ยนจากโลกยุคเดิมที่คนส่วนมากยังขาดแคลนความรู้ ให้กลายเป็นโลกยุคใหม่ที่มีปริมาณความรู้ล้นท่วมโลกไปแล้ว      สิ่งที่น่าคิดก็คือ ทั้ง ๆ ที่โลกยุคนี้กลายเป็นยุคที่ความรู้ท่วมโลก แต่ทำไมโลกกลับไม่เคยสงบลงเลยแม้แต่วันเดียว มิหนำซ้ำปัญหาความวุ่นวายต่าง ๆ นับวันมีแต่จะยิ่งเพิ่มพูนทวีคูณมากขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย อะไรเป็นสาเหตุให้โลกเกิดปัญหาวุ่นวายมากยิ่งขึ้นทั้ง ๆที่อยู่ในยุคความรู้ล้นท่วมโลกเช่นนี้ สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น      สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายทั้งที่อยู่ในยุคความรู้ล้นท่วมโลก มีอยู่ ๓ ประการ คือ      ๑. หลักสูตรการศึกษามุ่งเน้นด้านทฤษฎีแต่ขาดบทฝึกสร้างนิสัย      การจัดการศึกษาของชาติในยุคปัจจุบันมุ่งสร้างคนให้มีความรู้ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับการฝึกคนให้มีนิสัยดี ๆ ครั้นเมื่อความรู้ตกไปอยู่ในมือคนพาล ย่อมมีแต่นำความวิบัติเสียหายมาสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะคนพาลมีนิสัยปล่อยให้ใจขุ่นเป็นปรกติ จึงแยกแยะถูก-ผิดดี-ชั่วไม่ออก …

สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น Read More »

แนวทางการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จของชาวพุทธเป็นอย่างไร?

คำถาม: แนวทางการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จของชาวพุทธเป็นอย่างไร? คำตอบ:      มนุษย์ทุกคนต่างก็หวังที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แต่การจะดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้ มีหลักปฏิบัติเบื้องต้น ๒ ประการ คือ      ประการแรก ต้องแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง      ประการสอง ดำเนินชีวิตไปตามเส้นทางที่ถูกต้องที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ      การจะแก้ไขตนเองต้องเริ่มแก้ไขที่ใจ ใจบกพร่องเพราะมักทำไปตามอำนาจกิเลส คือถูกชักจูงให้ทำผิดด้วยอำนาจของโลภ โกรธ หลง มีผลทำให้ชีวิตพบกับความทุกข์และอุปสรรค ต่าง ๆ      การแก้ไขที่ใจจึงต้องวางเป้าหมายไว้ที่การนำใจกลับมาอยู่กับธรรมะ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์มีอยู่ภายในตัวมนุษย์ทุกคน      ธรรมะภายในจะเข้าถึงได้เมื่อใจหยุดใจนิ่ง เมื่อเข้าถึงธรรมแล้ว ก็อาศัยอานุภาพของธรรมะขจัดกิเลสออกไปจากใจ       ใจที่สว่างไสวด้วยแสงแห่งธรรม จึงจะรู้เห็น คิด พูด ทำ ไปในทางที่ถูกต้อง เหมาะสมดีงาม ก่อให้เกิดความสำเร็จในชีวิตทุกช่วงตอน ทำอย่างไรใจจะเข้าถึงธรรม?      ใจ ของพุทธศาสนิกชนต้องมี ศรัทธา คือ เชื่อพระปัญญาการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธ-เจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกผู้ที่ควรฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย …

แนวทางการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จของชาวพุทธเป็นอย่างไร? Read More »

“สังคมเปลี่ยนไป” แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ?

คำถาม: “สังคมเปลี่ยนไป” แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ? คำตอบ:      สังคมมนุษย์ยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กในทุกวันนี้ มีโคชช่วยแนะนำแนวทางการใช้ชีวิตหลายรูปแบบมาก จนบางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดีอยากทราบว่า ในพระพุทธศาสนามีคำแนะนำแนวทางการใช้ชีวิตที่เป็นมาตรฐานบ้างหรือไม่ว่าควรเป็นอย่างไร ? ก่อนจะตอบคำถามนี้ ให้เรามาใคร่ครวญดูให้ดีก่อนว่า ชีวิตคืออะไร ?      ๑. ชีวิต คือ การเป็นอยู่ในอัตภาพนี้ในโลกนี้ ในระยะเวลาหนึ่ง ปัจจุบันนี้ใครจะมีชีวิตอยู่เกินร้อยปีก็หาได้ยาก แทบจะนับคนได้สุดท้ายแล้วชีวิตก็ดับไป และแล้วก็ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในภพภูมิใหม่ มีชีวิตใหม่กันอีก      ๒. ชีวิตประกอบไปด้วยทุกข์ ซึ่งเราเคยทำความเข้าใจกันมาแล้วว่า ทุกข์ในโลกนี้แบ่งออกได้เป็น ๔ ประเภท       พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นชีวิตแรกของสัตวโลกที่กำจัดทุกข์ให้สิ้นไปหลุดพ้นจากทุกข์ไปได้ ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป         ทุกข์นำมาซึ่งความเดือดร้อน ความหิวกระหาย ความทุรนทุรายแก่ชีวิต เมื่อทุกชีวิตประกอบไปด้วยทุกข์ ๔ การดำเนินชีวิตให้เป็นอยู่อย่างดีและสามารถพัฒนาได้ จึงเป็นไปเพื่อดับทุกข์หรือปราบทุกข์ ๔ นั่นเอง        จากตรงนี้เราก็พอทราบกันแล้วว่า เรา จะดำเนินชีวิตไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ดังนั้นวิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องจึงเปน็ การประกอบการงานต่าง ๆ เพื่อปราบทุกข์ ๔ ทุกข์ …

“สังคมเปลี่ยนไป” แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ? Read More »

การรู้จักตนเองตามคำสอนของพระพุทธศาสนาหมายถึงอย่างไร

คำถาม: การรู้จักตนเองตามคำสอนของพระพุทธศาสนาหมายถึงอย่างไร คำตอบ:      คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าล้วนเกี่ยวกับกายที่ยาววาหนาคืบกว้างศอกของเรานี้เอง หากเราต้องการรู้จักตัวเราเอง ต้องมาศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์ว่าท่านทรงสอนให้เรารู้จักตนเองอย่างไร และควรทำอย่างไรต่อไป ถึงจะเป็นการรักตัวเองอย่างแท้จริง การทำความรู้จักตนเองขั้นพื้นฐานนั้น มีอยู่ 4 เรื่อง      1) กายมนุษย์ประกอบจากธาตุไม่บริสุทธิ์      กายของมนุษย์ประกอบด้วยธาตุสี่ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ซึ่งธาตุสี่ที่ประกอบเป็นเซลล์ในร่างกายมนุษย์เป็นธาตุไม่บริสุทธิ์ จึงทำให้เซลล์ในร่างกายของเราเสื่อมสลายและตายไปสามร้อยล้านเซลล์ต่อนาทีโดยประมาณ      สิ่งที่ปรากฏเกิดขึ้นเนื่องจากเซลล์ที่ตายไป คือ อาการหนาวที่เกิดขึ้นของร่างกาย และหากปล่อยให้เซลล์ตายลงไปเรื่อย ๆ เราก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ จะถึงซึ่งความตายในที่สุด       ดังนั้น จึงต้องหาธาตุสี่จากภายนอกมาเติมให้ร่างกายอบอุ่น แต่ธาตุสี่ที่หามาได้จากภายนอกนั้นก็เป็นธาตุสี่ที่ไม่บริสุทธิ์ เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นมาทดแทนเซลล์เก่า เนื่องจากได้มาจากธาตุสี่ที่ไม่บริสุทธิ์ แม้ได้มาเพิ่มใหม่ มันก็ต้องตายต่อไป ฉะนั้นเราก็ต้องหาธาตุสี่มาเติมให้ร่างกายต่อไปตลอดชีวิต วันใดที่ร่างกายไม่สามารถรับธาตุสี่เพิ่มได้อีกต่อไปก็เป็นวันสิ้นสุดชีวิตนี้       เมื่อเติมธาตุสี่เข้าไป ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาพร้อมกับได้พลังงานด้วย ความร้อนก็เกิดขึ้นในร่างกาย      ความหนาว ความร้อน ที่มีอยู่ในตัวเรา เป็นตัวฟ้องว่า ในกายเรานี้ ทุกนาทีมีตายมีเกิดและมีเกิดมีตายอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรยืนยงคงที่เลย …

การรู้จักตนเองตามคำสอนของพระพุทธศาสนาหมายถึงอย่างไร Read More »

หลักการขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม

     ผมได้มาร่วมงานเด็กดีวีสตาร์ ได้เห็นการบริหารจัดการที่ดี ทำให้การรวมตัวกันของนักเรียนเป็นแสน ๆ คน ดำเนินไปได้อย่างดี จึงใคร่รู้ว่าวัดมีหลักการอย่างไรในการจะวัดศักยภาพการทำงานของเราว่าจะมีพอรองรับงานขนาดไหน ผมจะได้นำไปเป็นแนวทางในการตัดสินใจขยายกิจการว่าควรขยายหรือไม่      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้มนุษย์รู้ความจริงว่า ชีวิตของคนจะเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงอยู่ที่บุญและบาป บุญเป็นพลังงานสะอาดที่ส่งเสริมให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง บาปเป็นพลังงานสกปรกที่ทำให้ชีวิตขัดสนและพบเจออุปสรรค บุญและบาปเป็นผลจากกรรมหรือการกระทำของคนเราที่ทำไว้นั่นเอง      หลักในการตัดสินใจว่าควรจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรอยู่ตรงที่ถ้าทำแล้วได้ทำบุญเพิ่มก็ควรทำ แต่ถ้าทำอะไรแล้วเป็นเหตุให้ไม่ได้ทำบุญ บางทีกลับต้องทำบาปเพิ่มขึ้นมา สิ่งนั้นก็ไม่ควรทำ      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์ยึดหลักในการดำเนินชีวิตอย่างมีประโยชน์ ๓ ประการ ได้แก่      ๑. ละชั่ว เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นบาปกรรมทุกชนิดไม่ทำอีกเด็ดขาด      ๒. ทำดี เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นความดี เป็นบุญกุศล เพียรพยายามทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป      ๓. ทำใจให้ผ่องใส ใจใสเป็นใจที่มีคุณภาพเป็นต้นแหล่งของการคิด พูด ทำ ความดีทุกชนิด มนุษย์จะเข้าถึงธรรมจะบรรลุธรรมได้และสามารถกำจัดกิเลสซึ่งเป็นต้นเหตุให้ทำบาปกรรมให้สิ้นไปก็ด้วยการบำเพ็ญสมาธิ(Meditation)ภาวนา กลั่นใจให้ใส      ดังนั้น ในวิถีชีวิตประจำวันจึงมีกิจวัตรกิจกรรมที่ทำแล้วส่งเสริมให้มนุษย์ดำเนินไปตามหลักการดำเนินชีวิตดังกล่าว ได้แก่ ให้ทานรักษาศีล และเจริญภาวนา      ชาวไทยนับถือพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงสุดของชีวิตมาแต่บรรพบุรุษ แต่โบราณจึงปรากฏคำพูดที่เตือนใจถึงกิจวัตรประจำวันนี้ว่า …

หลักการขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม Read More »

เหตุใดชาวพุทธแม้มีหลายนิกาย ก็ยังอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน

คำถาม: เหตุใดชาวพุทธแม้มีหลายนิกาย ก็ยังอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน คำตอบ: คนในโลกนี้มีหลากหลายความเชื่อ บางครั้งก็มีความเห็นไม่ลงรอยกัน แต่..เหตุใดชาวพุทธแม้มีหลายนิกาย ก็ยังอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน?      ศาสนิกต่างศาสนาท่านหนึ่งได้พบกับหลวงพ่อ ได้สนทนากัน เขาเอ่ยความในใจขึ้นมาว่าทุกคนในโลกต่างก็อยากเห็นชาวโลกเป็นสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่ในข้อปฏิบัติต่าง ๆ หรือวิธีตัดสินใจต่าง ๆ โดยรายละเอียดมักจะมีข้อขัดแย้งกันอยู่เป็นประจำ แม้แต่ในศาสนาเดียวกันก็ยังไม่วายมีข้อขัดแย้งกัน      เขารู้อีกว่า ในพระพุทธศาสนาของเราก็มีหลายนิกายเหมือนกัน แต่ทว่าในพระพุทธศาสนาแม้มีหลายนิกายก็ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ถึงกับยกพวกมาลุยกันหรืออะไรอย่างนั้น ตรงนี้เขาเห็นแล้วก็ชื่นชม แล้วก็เลยถามมา ซึ่งเป็นคำถามที่หลวงพ่อประทับใจว่าเขาเข้าใจถาม มีประโยชน์ แล้วคำตอบก็น่าจะได้รู้ทั่วกันทั้งชาวพุทธและชาวโลกเขาถามว่าชาวพุทธแม้ต่างนิกาย ทำไมจึงไม่มีการกระทบกระทั่งกัน เห็นมาร่วมกันทำบุญหลวงจีนก็นุ่งห่มแบบหลวงจีน หลวงเกาหลีคล้ายหลวงจีน แต่ก็มีส่วนที่แตกต่างอยู่บ้าง หลวงลามะจากทิเบตก็อีกอย่างหนึ่ง ในความแตกต่างอย่างนี้ มีวิธีที่จะทำความเข้าใจและก่อให้เกิดความสมัครสมานกันขึ้นมาได้อย่างไร ที่เขาถามอย่างนี้ก็เพื่อว่า เมื่อรู้แล้วจะได้ใช้หลักเดียวกันนี้ในกลุ่มศาสนาเดียวกันกับของเขา เพราะเขาก็ไม่อยากเห็นผู้ที่นับถือศาสนาเดียวกันกับเขาขัดแย้งกัน แล้วก็อยากจะเห็นทั้งศาสนาที่เขานับถือกับศาสนาพุทธของเราอยู่ร่วมกันด้วยดี แต่จะมีวิธีจัดการอย่างไรในส่วนที่ไม่ตรงกัน ซึ่งหลวงพ่อให้ข้อคิดกับเขาไปตั้งแต่เริ่มต้นว่า      1. คนเหมือนกัน เกิดเป็นคนต่างก็มีคุณค่าคนเราไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน เป็นชนชาติเผ่าพันธุ์อะไรก็ช่างเถิด เขาก็เป็นคน เราก็เป็นคน แล้วก็มีองค์ประกอบเหมือน ๆ กัน คือ               …

เหตุใดชาวพุทธแม้มีหลายนิกาย ก็ยังอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน Read More »

คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ทำไมถึงเน้นแต่การชวนคนทำบุญอย่างเดียว

คำถาม: คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ทำไมถึงเน้นแต่การชวนคนทำบุญอย่างเดียว คำตอบ:      วัดพระธรรมกายเป็นวัดหนึ่งในบรรดาวัดทั้งหลายในบวรพระพุทธศาสนา มีพระภิกษุผู้บวชในร่มผ้ากาสาวพัสตร์จำนวนหลายพันรูปทุกรูปบวชตามธรรมวินัยอย่างถูกต้อง ดำรงตนอยู่ในศีล ๒๒๗ ข้อ เหมือนกับพระภิกษุทุกรูปในนิกายเถรวาท ดังนั้นโดยธรรมวินัยแล้ว พระทุกรูปก็คือ พุทธสาวกที่บวชเข้ามาอย่างถูกต้องตามธรรมวินัย เป็นผู้ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง มีพระบรมศาสดาองค์เดียวกันกับชาวพุทธทั่วโลก ทั้งที่เป็นชาวพุทธเถรวาทและชาวพุทธทุกนิกาย      ชาวพุทธทั้งโลกเคารพนับถือพระบรมศาสดาอย่างไร วัดพระธรรมกายก็สอนให้เคารพนับถืออย่างนั้น      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลผู้รู้แจ้งความจริงของโลกและชีวิตว่าเป็นทุกข์โลกในแต่ละยุคจึงมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระองค์แรกที่เอาชนะทุกข์ด้วยการกำจัดกิเลสอันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ได้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดในโลกนี้ ในภพสามนี้อีกต่อไป แล้วก็นำความรู้ที่ใช้ดับทุกข์นั้นมาสอนให้ชาวโลกได้รู้ความจริงและปฏิบัติตาม      พระภิกษุสงฆ์ในฐานะพุทธสาวกก็ได้ศึกษาและปฏิบัติตามพระบรมครูเพื่อเป้าหมายเดียวกัน นั้นคือวันหนึ่งจะได้เข้าถึงธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้บ้าง จะได้เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความบริสุทธิ์บริบูรณ์ อันเกิดจากสามารถปราบมารปหานกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษเข้าถึงความสุขอันเป็นบรมสุขคือพระนิพพาน      พระภิกษุสงฆ์เมื่อปฏิบัติธรรมแล้วก็ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา นำพระธรรมคำสอนของพระศาสดามาถ่ายทอดแผ่ขยายให้สาธุชนได้ศึกษาและปฏิบัติตามรอยบาทของพระบรมศาสดาผู้เป็นต้นบุญต้นแบบของการสร้างบารมี ๑๐ ทัศ ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์      ดังนั้น หากจะตั้งคำถามอย่างเป็นกลาง ๆ ขึ้นก่อนว่า แนวทางดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาคืออะไร ก็ต้องตอบว่า การสร้างบารมี ๑๐ ทัศคือ แนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาเพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ตรัสรู้ได้ด้วยการฝึกฝนอบรมตนเองและดำเนินชีวิตมาตามแนวทางการสร้างบารมี ๑๐ ทัศนั้นเอง      คำสอนที่วัดพระธรรมกายนำมาสั่งสอนแนะนำอบรมถ่ายทอดให้สาธุชนทั้งหลายประพฤติปฏิบัติตามก็คือ การสร้างบารมี ๑๐ …

คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ทำไมถึงเน้นแต่การชวนคนทำบุญอย่างเดียว Read More »

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก

คำถาม:           อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมโลก เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายจนบานปลาย ไปสู่ความแตกแยก บางครั้งก็รุนแรง ถึงขั้นเกิดสงครามโลก คำตอบ: หลวงพ่อเกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ เป็นภาวะที่ขณะนั้นใกล้สงครามโลกครั้งที่ ๒ เต็มที ในช่วงนั้น ถ้าจะว่าไปแล้วประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะคับขัน ถูกอำนาจทางการเมืองโลก รวมทั้ง สภาพเศรษฐกิจสังคมทั่วโลก บีบเข้ามาอย่างแรง แล้วผลที่ตามมาก็คือ ความระส่ำระสายทั้งประเทศไทย และความไม่สงบเรียบร้อยในพระพุทธศาสนาก็เกิดขึ้นเป็นอันมาก แต่พวกเราซึ่งเกิด มาในภายหลังไม่ค่อยจะรู้กัน จะมีก็แต่หลวงปู่ หลวงพ่อ บางรูปในยุคนั้นเท่านั้นเอง สภาพต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบกระเทือนอย่างยิ่งในกาลต่อมา      เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ ระเบิดขึ้น ถ้ามองในสายตาของชาวโลก ก็บอกว่าเพราะประเทศนั้นประเทศนี้ เป็นตัวต้นเหตุ ในแง่ของประวัติศาสตร์ ก็มักจะโทษประเทศญี่ปุ่นและประเทศเยอรมัน ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ทำให้สงครามโลกเกิดขึ้น ผู้คนต้องล้มตายกันมากมาย นี้คือการมองแบบชาวโลก มองในแง่ของประวัติศาสตร์      แต่ถ้ามองแบบชาวพุทธมอง เราไม่ได้มองอย่างนั้น เรามองว่าขณะนี้มารฝูงใหญ่ ๆ ฝูงหนึ่ง ที่เรียกกันว่า “กิเลสมาร” กำลังอาละวาดด้วยการแทรกเข้าไปอยู่ในใจคน แล้วทำให้คนโลภ โกรธ …

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก Read More »

การสวดมนต์ให้พรของพระสงฆ์มีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างไร

คำถาม: การสวดมนต์ให้พรของพระสงฆ์มีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างไร คำตอบ:      ชีวิตประกอบด้วยกายและใจ กายต้องสืบต่อด้วยอาหารอยู่ทุกวัน ใจก็สืบต่อด้วยการหล่อเลี้ยงด้วยธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกวันเช่นกัน ซึ่งพุทธบริษัท ๔ ต่างช่วยกันสืบต่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาอยู่ทุกวันด้วยข้าวปลาอาหาร      เมื่อญาติโยมอุบาสกอุบาสิกามาถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ-สามเณรแล้ว พระภิกษุ-สามเณรจะได้สวดมนต์ให้พร      การสวดมนต์ คือ การรักษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ ผู้ที่จะสวดจึงต้องทำความเข้าใจให้ถูกว่า มนต์ที่สวดไปนั้นแปลว่าอะไร จึงจะเกิดความซาบซึ้งในเนื้อหา และจะได้สวดมนต์อย่างเต็มเสียงด้วยความปลื้มใจว่า เรากำลังกล่าวถ้อยคำแห่งธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อพระธรรม และต่อพระสงฆ์ ด้วยวาจาอันบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ถ้าผู้สวดมีใจสงบ ขณะที่กำลังสวดมนต์ก็นำใจไปตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ทำใจนิ่ง ๆอย่างนั้นใจผู้ฟังจะนิ่งตาม สงบตาม แม้ไม่เคยทำสมาธิ ใจก็จะสงบตามไปด้วย ความสงบใจขณะฟังเสียงให้พรนี้เอง จะทำให้ใจของญาติโยมจรดเข้าศูนย์กลางกายได้ง่ายตามเสียงสวดของพระ แม้ไม่ทราบคำแปล แต่ว่าเป็นเสียงที่เปล่งออกจากศูนย์กลางกาย ที่ทำให้ใจสงบ โยมก็ปลื้มใจ บุญก็เกิดขึ้นโดยง่ายอีกเหมือนกันทั้งที่ไม่ทราบคำแปลเรื่องนี้เคยมีตัวอย่างจริงเกิดขึ้นมาแล้วในต่างประเทศ เหมือนที่เราติดตามช่อง DMCแล้วก็มีจดหมายที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยของเรานำมาอ่านให้ฟังว่ามีชาวต่างชาติหลาย ๆ คน ที่ไม่รู้ภาษาไทย แต่ก็ชอบมานั่งฟัง DMC ทั้งที่ไม่รู้ภาษาไทยสักคำเดียว เขาบอกว่าฟังเสียงหลวงพ่อแล้วสบายใจ      ถามว่าฟังภาษาไทยไม่ออกแล้วทำไมสบายใจ ก็เพราะเสียงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปล่งออกมาจากศูนย์กลางกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่ท่านนำนั่งสมาธิ ท่านพูดในขณะกำลังนั่งหลับตาทำสมาธิ เสียงของท่านจึงออกมาจากศูนย์กลางกายที่ดิ่งลงไป ฉะนั้นผู้ฟังจะฟังออกหรือไม่ออก จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจความหมายก็จะรู้สึกชื่นใจ …

การสวดมนต์ให้พรของพระสงฆ์มีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างไร Read More »

ทำไม ? จีวรต้องเป็นสีเหลือง

     คำถาม : จีวรของพระสงค์จะต้องเป็นสีเหลือง หรือสีกรักเสมอไปหรือไม่ ..เพราะว่ามีชาวต่างชาติสงสัยถามว่าทำไม พระสงฆ์ถึงต้องห่มตัวสีเหลืองด้วย      คำตอบ : ถ้าว่าไปแล้วตั้งแต่สมัยพุทธกาล สีจีวรของพระโดยทั่วไป จะไม่ค่อยสม่ำเสมอ สาเหตุที่เป็น เช่นนี้ก็เพราะว่า ตั้งแต่สมัยพุทธกาลนั้น การย้อมสีจีวรพระท่านจะใช้พวกแก่นไม้ ยางไม้มาย้อม เมื่อใช้ยางจากผลไม้ จากแก่นไม้มาย้อม สีจึงไม่สม่ำเสมอ อย่าว่าแต่เป็นแก่นไม้ต่างประเภทกันเลย แม้แต่แก่นไม้ชนีดเดียวกัน สีก็ไม่สม่ำเสมอ        ตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยประถม มัธยม อยู่ต่างจังหวัด หลวงพ่อเคยไปช่วยรุ่นน้า รุ่นอา เขาย้อม จีวรกัน สมัยโน้นเขาใช้แก่นขนุนมาย้อม พวกแก่นขนุนสีมันจะออกเข้ม ๆ แต่ว่าบางต้น บางพันธุ์ แม้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันก็มีสีเข้มจัดจนกระทั่งคล้ำ ในขณะที่ขนุนบางต้น บางพันธุ์ สีจะออก เหลือง ๆ คล้าย ๆ ดอกจำปา ความสม่ำเสมอของสีจากแก่นไม้มันไม่มี      เพราะฉะนั้นตั้งแต่สมัยพุทธกาลท่านจึงใช้คำว่าย้อมฝาด คือ ย้อมแล้วเป็นการรักษาคุณภาพของผ้าด้วย คือ …

ทำไม ? จีวรต้องเป็นสีเหลือง Read More »

เราจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างไร ?

คำถาม: เราจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างไร ? คำตอบ:       มนุษย์ทุกคนในโลกใบนี้ต่างก็ประสบกับชะตากรรมเหมือนกัน คือต้องประสบทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย การพลัดพราก และทุกข์นานาประการร่วมกัน      การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นหน้าที่ของชาวพุทธที่จะช่วยกันจรรโลงรักษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ไปสู่ใจชาวโลก เพื่อประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ทั้งผองให้พวกเขาได้อาศัยธรรมะเป็นที่พึ่งที่ระลึกเป็นที่เกาะเกี่ยวของใจและเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้อยู่ในครรลองที่ก่อประโยชน์สุขให้แก่ตนเองและผู้อื่น ไม่เบียดเบียน ไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่ก่อทุกข์ ไม่ก่อบาป เป็นหนทางที่จะสลัดตนออกจากกองทุกข์ เข้าถึงบรมสุขคือนิพพานในภพชาติสุดท้ายได้ในที่สุด      ถ้าเราช่วยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างนี้ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นการจรรโลงโลกไว้ให้เป็นสถานที่ที่มนุษย์มีโอกาสสร้างความสุขความเจริญให้แก่ชีวิตตนต่อไปได้      การเผยแผ่พระพุทธศาสนามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น คือการที่พุทธบริษัททั้ง ๔ ได้ดำเนินตามรอยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ไว้ คือ มีพระพุทธประสงค์ให้พุทธสาวกประกาศพระศาสนาออกไปเพื่อประโยชน์แก่มหาชนทั้งหลาย เพราะผู้มีธุลีน้อยในดวงตา (กิเลสเบาบาง) ยังมีอยู่เมื่อไดฟังพระสัทธรรมแล้วจะสามารถเข้าใจตามทันได้      ชาวพุทธทุกคนเมื่อศึกษาและปฏิบัติธรรมแล้ว ควรจะทำหน้าที่เป็นนักเผยแผ่ต่อไปด้วยถ้าได้ฝึกฝนฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมให้ดีก็จะทำหน้าที่ในด้านการเผยแผ่นี้ได้อย่างมีคุณภาพ และที่สำคัญเป็นการสั่งสมบุญใหญ่ของตนเอาไว้ จะได้บุญมาก เป็นบุญละเอียดบุญประณีต ในการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาแต่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาจะได้ผลดีเพียงใดนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับ “คุณภาพของนักเผยแผ่” ด้วย คุณสมบัติขั้นพื้นฐานของนักเผยแผ่ที่ดีมีอยู่ ๓ ประการ           ๑. มีความรับผิดชอบตัวเอง   …

เราจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างไร ? Read More »