หลวงพ่อทัตตชีโว

แพทย์กับพยาบาลแม้ใกล้ชิดกับการเกิดแก่เจ็บตาย ทำไมจึงไม่มาสนใจพระพุทธศาสนาเท่าที่ควร –

คำถาม: กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ ลูกมีข้อสงสัยอยากจะกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่ออยู่ 2ข้อ คือว่า แพทย์กับพยาบาลเป็นวิชาชีพที่ใกล้ชิดกับการเกิดแก่เจ็บตาย แต่ทำไมจึงไม่มาสนใจพระพุทธศาสนาเท่าที่ควรคะ แล้วจะมีวิธีชวนเชิญอย่างไร ที่จะให้ท่านเหล่านี้ได้เข้ามาศึกษาเรื่องความจริงของชีวิต อย่างไรดีเจ้าคะ คำตอบ: เจริญพร มีความผิดพลาดในวงการศึกษาอยู่ ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นกันอยู่ทั่วโลกเลย คือ เมื่อเวลาตั้งแต่ชั้นอนุบาลเป็นต้นมา ครูบาอาจารย์ที่ให้การศึกษาก็ตาม รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ที่บ้าน เรื่องที่พยายามจะให้เด็กรู้กลายเป็นเรื่องนอกตัวเด็ก ยิ่งเด็กรู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนอกตัว เลยจนกระทั่งเรื่องนอกประเทศ เรื่องนอกโลก นอกจักรวาลได้เท่าไหร่ รู้สึกว่า นั่นแสดงถึงความฉลาดเฉลียวของเด็ก นี่คือสิ่งที่มันเป็นกันอยู่ขณะนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้เข้า ยิ่งเรียนไป ยิ่งไม่รู้จักตัวเอง ในขณะที่พระพุทธศาสนา มีหลักการ ยิ่งเรียน ยิ่งต้องรู้จักตัวเอง ตรงนี้อยากจะฝากคุณโยมเอาไว้ด้วย ยิ่งเรียน ยิ่งรู้จักตัวเอง เป็นอย่างไร คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงสอนให้กับพวกเราที่เข้าวัด…ถ้าไม่เข้าวัดก็ไม่รู้ ได้สอนไว้ว่า ความเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความเจ็บเป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นทุกข์นั้น คนทางโลก พอมองออก แต่ว่า…ความเกิดเป็นทุกข์ ต้องบอกว่า ทั้งโลกนั้นมองไม่ออก…ทำไมจึงว่าอย่างนั้น ก็ทันทีที่เด็กคลอดออกมา …

แพทย์กับพยาบาลแม้ใกล้ชิดกับการเกิดแก่เจ็บตาย ทำไมจึงไม่มาสนใจพระพุทธศาสนาเท่าที่ควร – Read More »

แพทย์รักษาคนไข้ แต่เกิดผลข้างเคียงจากการรักษา ทำให้คนไข้เสียชีวิต แพทย์บาปหรือไม่

คำถาม: ในกรณีที่แพทย์รักษาคนไข้ แต่เกิดผลข้างเคียงจากการรักษา ทำให้คนไข้เสียชีวิต ในกรณีเช่นนี้อยากกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า จะมีผลบาปต่อแพทย์ หรือไม่ เจ้าคะ คำตอบ: คุณโยม…ตรงนี้ คงต้องแยกเป็น 2ประเด็น เวลาแพทย์ตั้งใจรักษาคนไข้ ในกรณีที่หนึ่ง แพทย์เอง…ความรู้ในยุคนั้นๆ ไปไม่ทันโรค ก็รักษากันไป งมกันไป…ตรงนี้ก็ต้องบอกว่า มีรอดบ้าง ตายบ้าง ส่วนกรณีที่สอง คือ ความรู้นั้นพอสู้กับโรคได้ แต่ประมาทแล้วไปทำเขาตาย ตรงนี้ 2ประเด็นนี้ไม่เหมือนกัน คุณโยม ในกรณีแรก รู้อยู่ว่าวิชาของเรา ภูมิรู้ของเรานั้นมันไม่ทันกับโรคภัยไข้เจ็บ แล้วในวงการแพทย์ไม่ว่าใครก็ยังไปไม่ถึง เพราะฉะนั้น เราก็พยายามจนสุดฝีมือแล้วมันได้เท่านี้ แล้วก็ปรากฏว่า คนไข้ก็มาตายในมือเรา…ถามว่า ตรงนี้จะมีบาปกับเราไหม 1.ดูตรงเจตนา เราก็มีเจตนาดี ไม่ได้มีเจตนาร้าย…เราไม่มีเจตนาร้ายกับคนไข้ 2.เราประมาทหรือไม่ แพทย์คนนี้ประมาทหรือไม่…ก็ยืนยันได้ว่าไม่ประมาท ก็ทำสุดฝีมือแล้ว ไม่ได้ประมาทเลย  3.เมื่อความรู้เรามันไม่ถึง…เราไม่ได้ประมาท แต่ความรู้เราไม่ถึง…ทำไมไม่ส่งให้คนอื่นเขาไปเสียล่ะ…ที่เขาถึงๆน่ะ…ซึ่งคนอื่นในย่านนั้น บ้านนั้น เมืองนั้น เขาก็ไม่ถึงเหมือนกัน ส่งไปกับคนอื่น คนอื่นเขาก็ไม่อยากจะรับด้วย แล้วมาถึงมือเรา เราก็รับแล้วก็ทำสุดฝีมือแล้ว แล้วปรากฏว่าคนไข้ก็ตายแล้ว…ตายกับใคร…ตายกับมือเราเลย…ก็อย่าโกรธอย่าโทษกันเลย เพราะว่าความรู้ความสามารถมันมีเท่านี้จริงๆ ไม่ได้แกล้งใคร ไม่ได้ปิดโอกาสใคร ตรงนี้หลวงพ่อว่า …

แพทย์รักษาคนไข้ แต่เกิดผลข้างเคียงจากการรักษา ทำให้คนไข้เสียชีวิต แพทย์บาปหรือไม่ Read More »

คุณพ่อเพิ่งจะเสียชีวิตไป และผมเป็นลูกชายคนโตที่ต้องดูแลคุณแม่และน้องสาว อยากจะขอความเมตตาจากหลวงพ่อ ชี้แนะหลักในการดำเนินชีวิตต่อไปด้วยครับ

คำถาม:  คุณพ่อเพิ่งจะเสียชีวิตไป และผมเป็นลูกชายคนโตที่ต้องดูแลคุณแม่และน้องสาว อยากจะขอความเมตตาจากหลวงพ่อ ชี้แนะหลักในการดำเนินชีวิตต่อไปด้วยครับ คำตอบ:  ในฐานะที่เหลือกันเพียง 3ชีวิต คือ คุณแม่ ตัวคุณเอง แล้วก็น้องสาว น้องสาวก็ยังอยู่ในวัยเรียน คุณเองก็เพิ่งจบการศึกษาไม่นาน แต่เอาล่ะ…วันนี้ ต้องทำหน้าที่แทนคุณพ่อในบางเรื่องซะแล้ว เราต้องยอมรับความจริงกันว่า ถึงแม้บ้านเมืองไทยของเรา จะสุขสงบยังไงก็ตาม แต่ว่ามีหลายๆเรื่องที่ว่า…เอาในครอบครัวนี้ล่ะ…แม้ไม่มีใครมากวนเรา แต่ก็มีหลายๆเรื่องที่ต้องอาศัยฝ่ายชายดูแล เช่นเป็นต้นว่า ความปลอดภัยเกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือในบ้าน เช่น เกี่ยวกับไฟฟ้า เป็นต้น นี่ยกตัวอย่าง เกี่ยวกับการซ่อมบำรุง อุปกรณ์ต่างๆในบ้าน โดยเฉพาะเครื่องไม้เครื่องมือหนัก หรือเรื่องน้ำ เรื่องไฟฟ้า ในบ้านทำนองนี้ สิ่งเหล่านี้…วันนี้คุณพ่อไม่อยู่ คุณแม่ก็เคว้งคว้าง แม้เราจะเพิ่งจบการศึกษาใหม่ๆ ยังไม่ได้ผจญโลกอะไรหนักหนา ว่าที่จริง…ประสบการณ์ต่างๆก็เทียบคุณแม่ไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม คุณแม่ไม่ถนัดหรอก ถ้าจะให้ไปดูเรื่องไฟฟ้า เรื่องซ่อมหลังคา เรื่อง ซ่อมหน้าต่าง คุณต้องทำหน้าที่ตรงนี้ รับภาระแทนคุณพ่อให้ดี นี่เป็นเรื่องที่หนึ่ง ที่คุณจะต้องยืดอกขึ้นมาแล้ว เรื่องที่สอง สำหรับน้อง…น้องสาวโตเป็นวัยรุ่นขึ้นมาแล้ว คุณเป็นพี่ชาย คุณผ่านวัยรุ่นตรงนี้มาก่อน คุณรู้นะ…จิตใจวัยรุ่น มันกระเจิงไปยังไงบ้าง วันนี้…เวลาน้องจิตใจกระเจิง ขวัญกระเจิง เหลียวมาไม่เจอหน้าคุณพ่อ …

คุณพ่อเพิ่งจะเสียชีวิตไป และผมเป็นลูกชายคนโตที่ต้องดูแลคุณแม่และน้องสาว อยากจะขอความเมตตาจากหลวงพ่อ ชี้แนะหลักในการดำเนินชีวิตต่อไปด้วยครับ Read More »

มิตรภาพที่เกิดจากการดื่มสุราเป็นน้ำสาบานนั้น จะมีความยั่งยืนอย่างไร

คำถาม: หลวงพ่อครับ คนเรามักชอบดื่มสุรา ทั้งที่รู้ว่าสุราเป็นของไม่ดี โดยมักจะอ้างว่าสุราเป็นน้ำกระชับมิตร เป็นน้ำประสานใจ บางคนคบหากันแล้วนำสุรามาดื่ม เปรียบเสมือนน้ำสุรานั้นเป็นน้ำสาบาน มิตรภาพที่เกิดจากการดื่มสุราเป็นน้ำสาบานนั้น จะมีความยั่งยืนอย่างไรครับ คำตอบ: คุณโยม…ในเรื่องของการดื่มสุรานั้นเรื่องหนึ่ง เรื่องของการสร้างมิตรภาพกันนั้นอีกเรื่องหนึ่ง สองเรื่องนี่ มันไม่ไปด้วยกันหรอก ก็ไม่รู้ปัญญามันหายไปไหน คนยุคนี้จึงเอาสองเรื่องนี้เข้ามาปนกัน เรื่องของสุรามันเป็นเรื่องมีแต่เสียกับเสีย ตั้งแต่ เสียทรัพย์ก็รู้กัน เสียสติก็รู้กัน เสียมารยาท หรือ ตัดรอนปัญญาของตัวเองก็รู้กัน แต่ว่ามันเกิดความเข้าใจผิดอย่างต่อเนื่องกันมานาน คือ กลายเป็นค่านิยมผิดๆในสังคมขึ้นมา แล้วก็เห็นว่า เหล้า สุรา กลายเป็นของดี ความจริง เหล้ามันทอนปัญญา มันปิดปัญญา แต่ว่ามันเปิดนรกให้เยอะเลยนะ เพราะฉะนั้น คนที่ไปดื่มสุรา ดื่มเหล้าเข้าเมื่อไหร่ เขากำลังแสวงหานรกอยู่ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปแสวงหาเพื่อน น้ำมิตร หรือเพื่อนแท้กับเขาได้ ถ้าได้ก็คงจะได้เพื่อนขาดสติด้วยกัน เพื่อนไร้ปัญญาด้วยกัน เพื่อนประเภทนี้คบไว้ก็มีแต่จะชวนกันลงนรกเท่านั้น ส่วนในกรณีที่จะผูกน้ำมิตรกันให้ได้ เป็นมิตรภาพกันให้ได้ดี มันเป็นเรื่องของความมีสติสัมปชัญญะ…มันเป็นอย่างไร…มิตรภาพจะยั่งยืน อยู่ที่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ขาดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันเมื่อไหร่ ไม่ว่าลูกรัก เมียรัก เพื่อนรัก อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากจะมีมิตรภาพมีเพื่อนเยอะๆ …

มิตรภาพที่เกิดจากการดื่มสุราเป็นน้ำสาบานนั้น จะมีความยั่งยืนอย่างไร Read More »

ตำรวจทหารต้องมีความเข้มแข็ง จึงมักมีการสร้างค่านิยมด้วยการดื่มสุรา ขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ทำอย่างไรจึงจะแก้การสร้างค่านิยมที่ผิดๆตรงนี้ได้ครับ

คำถาม: หลวงพ่อครับ…ตำรวจทหารต้องมีความเข้มแข็ง จึงมักมีการสร้างค่านิยมด้วยการดื่มสุรา ขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ทำอย่างไรจึงจะแก้การสร้างค่านิยมที่ผิดๆตรงนี้ได้ครับ คำตอบ: เจริญพร ความจริงค่านิยมผิดๆเหล่านี้ มันกระจายไป ทั่วบ้าน ทั่วเมืองแล้ว แก้ไขค่อนข้างจะยากสักหน่อย แต่ว่า มันไม่เกินความสามารถของพวกเราหรอก ถ้าจะเอาจริงๆ ต้องทำความเข้าใจตรงนี้ก่อนว่า ความเข้มแข็ง หรือ ความกล้าหาญ ความบ้า ความเมา มันมีลักษณะคล้ายๆกัน แต่มันไม่เหมือนกัน ความเข้าใจที่ผิดพลาดใน “คำ” ดังกล่าวนี้…ความเข้มแข็ง หรือ ความกล้าหาญ ตรงนี้เป็นเรื่องของสติ เป็นเรื่องของปัญญา แล้วก็เป็นเรื่องของความแกร่งทางร่างกาย อีกคำ คือ ความบ้า…เป็นอย่างไร…คนบ้านี่แข็งนะ…ตัวต่อตัว ใครอย่าได้ไปจับคนบ้าเข้าไปเชียว 5ต่อ1 หรือ 10ต่อ1 จับกันไม่ค่อยอยู่เลย พวกนี้ด้วยฤทธิ์บ้าของเขา ร่างกายดูเหมือนว่ากล้าแข็ง แข็งแรงสุดๆ แต่ว่าไม่มีสติเหลือเลย พวกนี้ ถ้าใครมองไม่ออก คิดว่า คนพวกนี้คือคนเข้มแข็ง แต่ความจริงเขาคือคนที่ขาดสติจนกระทั่งเป็นบ้า อีกพวกหนึ่ง คนเมา ถ้ามันเมาจนกระทั่งมันหมดสติ นอนล้มผลึ่งไปก็แล้วไป ที่มันร้ายก็คือเมา แต่ว่ายังมีแรงดี พวกนี้ก็เช่นกัน …

ตำรวจทหารต้องมีความเข้มแข็ง จึงมักมีการสร้างค่านิยมด้วยการดื่มสุรา ขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ทำอย่างไรจึงจะแก้การสร้างค่านิยมที่ผิดๆตรงนี้ได้ครับ Read More »

ทหารตำรวจ ถ้ามีโอกาสได้บรรพชาอุปสมบท ควรที่จะศึกษาธรรมะข้อใด

คำถาม: หลวงพ่อครับ…ทหารตำรวจ ถ้ามีโอกาสได้บรรพชาอุปสมบท ควรที่จะศึกษาธรรมะข้อใดครับ คำตอบ: ไม่ว่า จะเป็นทหาร หรือว่า เป็นใครมาบวชก็ตาม วัตถุประสงค์นั้นเหมือนกัน ไม่ว่าจะ บวชช่วงสั้น บวชช่วงยาว วัตถุประสงค์จริงๆที่เป็นหลักจะต้องเหมือนกันคือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง ถ้าพูดอย่างนี้…อาจจะมีคนกลัวกิเลสหมดกันบ้าง…อย่าไปกลัว…ทุกคนตั้งแต่เกิดมา มีสิ่งหนึ่งทำความเดือดร้อนให้เรามากเลยตั้งแต่เกิด คือ มีกิเลส หรือเชื้อร้ายๆ ห่อหุ้มใจของเรามา เชื้อร้ายๆตรงนี้ที่ห่อหุ้มใจของเรามานี้ ไม่ใช่เชื้อโรคที่จะเอากล้องส่องได้ แต่ว่า มันเป็นความขุ่นความมัวหมองที่เกิดขึ้นในใจของเรา พร้อมๆกับการเกิดมาด้วยกายมนุษย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเรียกเชื้อร้ายๆ ในใจของคนว่า กิเลส ปราบกิเลสในใจนี้หมดได้เมื่อไหร่ ก็ไปนิพพานกันเมื่อนั้น หรือปราบทุกข์ได้หมดเมื่อนั้น เพราะฉะนั้น เวลาบวช จึงมีคำปฏิญาณของพระ…บวชเพื่ออะไร…บวชเพื่อกำจัดทุกข์อันเกิดจากกิเลสให้มันหมดไป แล้วก็ความสุขอย่างยิ่ง คือ พระนิพพานก็จะแจ้งขึ้นมาในใจของเรา ทีนี้ เมื่อรู้อย่างนี้ว่า บวชเพื่อกำจัดกิเลส แต่ว่าเราเป็นทหาร เราบวชกันในระยะสั้นก็ไม่เป็นไรหรอก เป้าในการบวชเหมือนเดิม แต่พระอาจารย์ที่ลงมาควบคุม ถ้าท่านฉลาดในการอบรม ท่านจะใช้ความรู้พื้นเดิมของทหาร เอามาขยายความในทางธรรม เพราะว่าทหารก็เป็นกำลังกองทัพทางโลก ส่วนพระเป็นกำลังของกองทัพธรรม ทั้งกองทัพโลก และ กองทัพธรรม มีหลักการที่เหมือนกัน คือ 1.ต้องมีวินัย …

ทหารตำรวจ ถ้ามีโอกาสได้บรรพชาอุปสมบท ควรที่จะศึกษาธรรมะข้อใด Read More »

สำหรับพ่อค้า มีทางใดบ้างที่จะสามารถรักษาศีลข้อ 4 ให้บริสุทธิ์ได้

คำถาม: อยากกราบเรียนถามหลวงพ่อครับว่า ศีลข้อ4นี้ ทุกคนจะบอกว่า รักษากันยาก ครับ โดยเฉพาะพ่อค้าอย่างพวกกระผมนะครับ อยากกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า มีทางใดบ้างที่จะสามารถรักษาศีลข้อนี้ให้บริสุทธิ์ได้ครับ คำตอบ: เจริญพร…คุณโยมถามถูกคนเลยนะ ก่อนที่หลวงพ่อจะมาบวช หลวงพ่อเป็น Salesman เก่านะ ต้องว่าอย่างนี้ก่อน อยู่ในยุทธจักรทางการค้ามาพอสมควร แล้วก็พบด้วยตัวเองว่าเอาจริงๆแล้ว พวกพ่อค้าที่ค้าของเป็นหลักเป็นฐาน ค้าการค้าใหญ่ๆ ยิ่งระดับโลก ระดับชาติอะไรอย่างนี้ พวกนี้จะยิ่งไม่โกหก ถ้าโกหกแสดงว่า…การค้าจิ๊บจ๊อย ซึ่งมันก็พอสมกับคนจิ๊บจ๊อย คนกระจอก เอาดีไม่ได้ หรือไม่หวังที่จะเอาดีกับการค้าจริงๆ อันนี้ยังต้องตอบอย่างนี้ก่อนนะ เอาล่ะ…เราก็เห็นๆกันว่าสินค้าในท้องตลาด ในที่สุดแล้วมันสู้กันด้วยอะไรบ้าง 1.ถ้าสู้กันจริงๆก็ สู้กันด้วยคุณภาพ 2.กับ สู้กันด้วยการบริการ อันนี้หนักหน่อย 3.แล้วสุดท้ายจึงค่อยมา สู้กันด้วยราคา นี่ชัดเจนเลย ส่วนว่า จะมีบางครั้งบางช่วงบางคราว เป็นเรื่องของแฟชั่น หรือแบบอะไรต่ออะไรที่จะเอามาสู้กัน ก็จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของคุณภาพก็แล้วกัน หรือลด แลก แจก แถม ก็เป็นบางครั้งบางคราว โดยในที่สุดแล้วก็ต้องบอกว่า ความจริงใจนั่นแหละ มีคุณค่าที่สุด มนุษย์เรานี่แปลก ไม่ว่าลูกรัก เมียรัก …

สำหรับพ่อค้า มีทางใดบ้างที่จะสามารถรักษาศีลข้อ 4 ให้บริสุทธิ์ได้ Read More »

การค้าขายสมัยนี้ มีการลดแลกแจกแถม เพื่อที่จะเอาชนะคู่แข่ง แบบนี้เป็นการเบียดเบียนซึ่งกันและกันหรือไม่

คำถาม: ขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า การค้าขายสมัยนี้ มีการลดแลกแจกแถม เพื่อที่จะเอาชนะคู่แข่ง  แบบนี้เป็นการเบียดเบียนซึ่งกันและกันหรือไม่ครับ คำตอบ: คุณโยม…มันมี 2อย่างนะ คู่แข่ง กับ คู่แค้น ถ้าค้าขายกัน มันก็มีการแข่งกันบ้าง นี่ก็เป็นธรรมดา มันจะลด จะแลก จะแจก จะแถมอะไร ก็เป็นธรรมดา ไม่ว่ากัน แต่ว่าอย่าแกล้งกันต่างหาก ตราบใดที่… 1.เราไม่ได้แกล้งใคร 2.แล้วเราก็ไม่ได้ไปใส่ร้ายป้ายสีใคร ไม่แกล้งยังไม่พอ ไม่ใส่ร้ายป้ายสีด้วย เมื่อเราไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสีใคร ว่ากันโดยคุณภาพ ว่ากันโดยบริการ ว่ากันโดยทันสมัย ทันแฟชั่น ทันยุค ติกันไม่ได้ แต่ว่าในฐานะที่อยู่กันเป็นเพื่อนร่วมโลก การแข่งการค้า มันเป็นเรื่องของรายได้ มันเรื่องของการยังชีพของเรา นี่เอาชนะกันโดยไม่เสียศีล อย่างนี้ไม่เสียศีล เราไม่ได้กัก เราไม่ได้ตุน เราไม่ได้แกล้ง เราไม่เสียศีล   แต่ว่าเมื่อเราผ่านพ้นของเรามาได้แล้ว เราลอยลำในส่วนของเราแล้ว ส่วนคู่แข่ง มันจะเสีย มันจะหาย มันจะตาย ตรงนี้มันอีกประเด็นหนึ่ง   เพราะว่าเราพ้นไปแล้วเรื่องเสียศีล เราไม่ได้เสีย …

การค้าขายสมัยนี้ มีการลดแลกแจกแถม เพื่อที่จะเอาชนะคู่แข่ง แบบนี้เป็นการเบียดเบียนซึ่งกันและกันหรือไม่ Read More »

จะอธิบายให้คนที่ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ให้เข้าใจอย่างมีเหตุมีผลได้อย่างไร

คำถาม: กราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพครับว่า คนที่ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์มีจริง เราจะมีวิธีการอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผลอย่างง่ายๆ ได้อย่างไรครับ คำตอบ: เรื่องนรกเรื่องสวรรค์เป็นเรื่องที่มีจริง…ก็จริงอยู่ แต่การที่จะอธิบายให้ใครฟัง ให้เขาเชื่อนั้น มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะว่า คนที่จะเข้าใจ จะรับฟังได้ง่าย จะต้องเป็นคนที่มีพื้นใจผ่องใสมาพอสมควร คนที่จะมีใจผ่องใสพอสมควรนั้น ได้แก่ 1.เด็ก ตั้งแต่วัยเด็กเล็ก…ตั้งแต่ชั้นอนุบาลเรื่อยขึ้นมา จนกระทั่งชั้น ป.6 เด็กเหล่านี้ยังไม่ได้แปะเปื้อนอะไร ยกเว้นไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี ไปเจอยาเสพติดเสียก่อน อันนั้นก็ย่ำแย่หน่อย ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว เด็กๆใจจะใสตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นถ้าจะสอนจะสั่งในเรื่องของนรกสวรรค์ เด็กจะรับได้ง่าย 2.ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยไปแตะต้องอบายมุข คือ ไม่เคยไปจมอยู่ในวงเหล้า ไม่เคยไปท่องกลางค่ำกลางคืน เที่ยวในแหล่งที่ไม่เหมาะสม ไม่เคยไปจมอยู่ในวงไพ่ อะไรทำนองนี้ ผู้ที่ไม่ได้จมอยู่ในวงอบายมุข ถ้าพูดเรื่องนรกเรื่องสวรรค์ ค่อนข้างจะรับได้ง่าย เพราะใจมันยังไม่เปื้อน อย่างไรก็ตาม ในโลกปัจจุบันนี้ เนื่องจากอบายมุขมันก็แพร่กันเสียเหลือเกินแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของเรา ที่ไม่ว่าใครใจมืด ใจบอด ใจเปื้อนขนาดไหน เราก็มีหน้าที่จะต้องทำความเข้าใจถูกให้เขาให้ได้ ในเรื่องนรกเรื่องสวรรค์ เพราะว่าถึงอย่างไรเขาก็อยู่ร่วมโลกกับเรา บางทีก็เป็นญาติของเรา เป็นเพื่อนของเรา เรารู้เห็นอะไรดีๆ ก็อยากจะให้เขาได้รู้ได้เห็นความดีนั้นๆ ตามเราด้วย จะไปทิ้งเสีย ได้อย่างไร ด้วยหัวใจของกัลยาณมิตรที่เปี่ยมล้นอย่างนี้ ก็มีข้อคิดฝากพวกเรา คือ ในการที่จะไปอธิบายแก่ใครให้เข้าใจว่า นรกมี สวรรค์มี …

จะอธิบายให้คนที่ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ให้เข้าใจอย่างมีเหตุมีผลได้อย่างไร Read More »

ทำไมวิธีการนั่งสมาธิจึงมีหลากหลายวิธีเหลือเกิน แต่ละวิธีก็สอนไม่เหมือนกัน

คำถาม: หลวงพ่อเจ้าคะ…ลูกเคยไปชวนเพื่อนๆหลายคน มานั่งสมาธิ เพื่อนๆเขาก็บอกว่า ทำไมวิธีการนั่งสมาธิจึงมีหลากหลายวิธีเหลือเกิน แต่ละวิธีก็สอนไม่เหมือนกัน แล้วแต่ละคนที่มาชวนก็บอกว่า วิธีของตัวเองดีที่สุด ในกรณีดังกล่าวนี้ ลูกขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า เราจะมีคำตอบอย่างไร ให้เขาได้พอใจที่สุดเจ้าค่ะ คำตอบ: คุณโยม…ในเรื่องของการฝึกสมาธิ จับหลักการให้ได้ก่อนว่า เขาฝึกกันทำไม ถ้าจับหลักการได้แล้ว การจะอธิบายอย่างอื่นง่ายหมด หลักการของการฝึกสมาธิมีสั้นๆว่า การฝึกสมาธิแท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องของการรู้จักควบคุมจิตใจตัวเองให้เป็น หลักการมีเท่านี้ ควบคุมใจตัวเองให้เป็น ทำอย่างไร…คือ พยายามที่จะเอาใจเก็บมาไว้ในตัว เพราะธรรมชาติของใจโดยทั่วไปแล้ว หากไม่ใช่เป็นใจที่ถูกฝึกมาดีแล้ว มันชอบเที่ยว มันชอบคิด มีอยู่ 2เรื่องของมัน 1.ชอบเที่ยว เป็นอย่างไร…ตัวเองนั่งอยู่เมืองไทย แต่ใจเที่ยวข้ามไปถึงเมืองจีน…มันไปได้ ตัวเองนั่งอยู่กรุงเทพฯ ใจมันไปเที่ยวถึงหาดใหญ่ ถึงปัตตานี…มันไปได้…นี่มันชอบเที่ยว 2.ชอบคิด คิดสารพัดเรื่อง ยิ่งอยู่คนเดียวมีเรื่องคิดเยอะเลย แล้วไปสังเกตดู เรื่องที่คิด ยิ่งคิดมาก ยิ่งวุ่นมาก แล้วเรื่องที่คิดเป็นเรื่องนอกตัวทั้งนั้น ยิ่งปล่อยให้ใจเที่ยวไปด้วย คิดไปด้วย ยิ่งว้าวุ่นหนักเข้าไป เพราะฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงให้ทำสมาธิ เพื่อแก้ความที่ใจว้าวุ่นของเราด้วยการเอาใจกลับมาไว้ในตัว เมื่อมันเลิกเที่ยว เลิกคิด เลิกว้าวุ่น พอกลับมาตั้งอยู่ในตัวเข้า ใจก็เลยทรงพลังขึ้นมา …

ทำไมวิธีการนั่งสมาธิจึงมีหลากหลายวิธีเหลือเกิน แต่ละวิธีก็สอนไม่เหมือนกัน Read More »

จะทราบได้อย่างไรว่าญาติได้รับบุญที่เราอุทิษไปให้

คำถาม: กราบเรียนถามหลวงพ่อเจ้าค่ะ ถ้าเราทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติพี่น้องของเราที่ล่วงลับไปแล้วนะเจ้าคะ เราจะทราบได้อย่างไรว่า ญาติที่ล่วงลับไปแล้วได้บุญหรือไม่เจ้าคะ คำตอบ: ตรงนี้คงต้องตอบโดยหลักการก่อน คือ ต้องรู้ไว้ว่า บุญ คือ อะไร บุญเป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง และด้วยความเป็นธาตุกายสิทธิ์ของบุญ ทำให้บุญมีฤทธิ์ต่างๆนานากันไป พอที่จะอุทิศส่วนกุศลให้ถึงผู้ที่ตายแล้วได้รับ แล้วก็มีผลเป็นสุขด้วย บุญมีลักษณะที่คล้ายๆน้ำอยู่ 2ประการ คือ 1.บุญนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้ว สามารถรวมตัวกันได้ เหมือนอย่างกับหยดน้ำ หยดน้ำค้าง หยดน้ำฝน หยดลงมาแล้ว มันก็รวมตัวกันได้จนกระทั่งน้ำเต็มโอ่ง เต็มไห เต็มหม้อ เต็มขัน 2.บุญซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์นี้ สามารถจะไหล หรือสามารถที่จะไปจะมาได้ไกลๆ เหมือนอย่างกับน้ำ เช่น จากภูเขาสูงในภาคเหนือของประเทศไทย เมื่อมารวมตัวกันแล้ว มันก็ไหลลงสู่ที่ต่ำ เช่น ไหลมาเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วก็ไหลลงอ่าวไทยไป น้ำจากที่สูงไหลไปได้ไกลๆ จนกระทั่งถึงทะเลเป็นร้อยกิโลเมตร เป็นพันกิโลเมตร บุญก็สามารถอุทิศให้ไปไกลๆได้ แม้ผู้ที่ต้องการนั้น ผู้ที่เราจะให้เขานั้น อยู่กันคนละโลก แต่ว่า ถึงแม้เราจะรู้ จะทราบโดยหลักการว่า บุญสามารถส่งไปได้ไกลๆถึงผู้ที่ละโลกไปแล้วก็จริง แต่ว่าก็ต้องรู้อีกว่า เอาจริงๆเข้าแล้ว บุญไหลไปอย่างไร แล้วเข้าไปถึงใจของผู้ที่เราอุทิศให้ด้วยอาการอย่างไร จะรู้จะเห็นได้อย่างนั้น มีทางเดียว …

จะทราบได้อย่างไรว่าญาติได้รับบุญที่เราอุทิษไปให้ Read More »

ทหารตำรวจที่มีหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ บางครั้งปราบปรามโจรผู้ร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นการกระทำบาปด้วยความจำเป็น อยากกราบเรียนหลวงพ่อว่า บาปกรรมที่เกิดขึ้นนี้น้อยกว่าการทำปาณาติบาตทั่วไปหรือไม่ครับ

คำถาม: หลวงพ่อครับ ทหารตำรวจที่มีหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ บางครั้งปราบปรามโจรผู้ร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นการกระทำบาปด้วยความจำเป็น อยากกราบเรียนหลวงพ่อว่า บาปกรรมที่เกิดขึ้นนี้น้อยกว่าการทำปาณาติบาตทั่วไปหรือไม่ครับ คำตอบ: คุณโยม…การที่บาปมากบาปน้อย เอาหลักง่ายๆแบบชาวบ้านก็แล้วกัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัด เมื่อจิตขุ่นมัว ไม่ผ่องใส ทุคติเป็นที่ไป นี่เป็นหลักเกณฑ์ที่พระองค์ตรัสเอาไว้ ในขณะที่ตรงกันข้าม เมื่อจิตผ่องใส สุคติเป็นที่ไป พูดง่ายๆ การจะไปนรกจะไปสวรรค์ จะบาปมากบาปน้อย ขึ้นอยู่กับความขุ่นมัวของจิตใจกับความผ่องใสของจิตใจนี่เอง ไม่ว่าการฆ่านั้นจะด้วยเหตุอะไรก็ตาม เมื่อเวลาไปลงมือฆ่ากัน ไปประกอบเหตุกัน จิตขุ่นมัวมากเท่าไหร่ก็บาปมากเท่านั้น ถ้าขุ่นมัวน้อยเท่าไหร่ บาปก็น้อยเท่านั้น อันนี้เป็นกฎเกณฑ์ จากกฎเกณฑ์ตรงนี้…เราก็มาดูก็แล้วกัน…ความที่ต่อสู้ป้องกันตัว แล้วก็ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เคืองกัน แต่ว่าเมื่อถูกบุกรุก ถูกรุกรานเข้ามา ทหารเป็นรั้วของประเทศชาติยังไงก็ต้องสู้ สู้เพื่อประเทศชาติด้วย สู้เพื่อชีวิตของตัวเองด้วย แต่ในขณะที่สู้นั้น ถ้าสู้ด้วยความเคียดแค้น สู้ด้วยความฮึกเหิม ตรงนี้แน่นอนใจขุ่นมัวหนัก ตรงนี้ไม่ค่อยจะดี แต่ว่าสู้เพราะจนใจจริงๆ ต้องสู้ ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เดี๋ยวบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ จะต้องเข่นต้องฆ่ากันไป…แต่…ใครที่พอยั้งมือได้ก็ยั้ง ควรจะตายมากก็เลยตายน้อย ควรจะตายน้อยก็แค่บาดเจ็บ อะไรทำนองนั้นล่ะก็ ตรงนี้ก็คงจะขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แล้วก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของทหารท่านนั้น ตำรวจท่านนั้น เป็นเรื่องของรายบุคคล อันนี้ก็เป็นกรณีที่1 กรณีที่2 ที่จะต้องมาพิจารณาตามกันไปอีกก็คือ พอทำไปแล้ว รู้สึกอย่างไร ถ้ารู้สึกว่า…มันสะใจจริงๆ…ถ้าอย่างนี้ใจขุ่นหนักเลย คือ นอกจากใจขุ่นแล้ว ยังดีใจกับความขุ่นนั้นเข้าไปด้วย อันนี้แทบจะมืดสนิทกัน…ตรงนี้ก็บาปมากหน่อยนะ เพราะดีใจกับบาปกรรมที่ตัวทำ แต่ตรงกันข้าม…เราก็ไม่อยากจะทำ แต่ว่าถ้าไม่ทำ ไม่ฆ่า …

ทหารตำรวจที่มีหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ บางครั้งปราบปรามโจรผู้ร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นการกระทำบาปด้วยความจำเป็น อยากกราบเรียนหลวงพ่อว่า บาปกรรมที่เกิดขึ้นนี้น้อยกว่าการทำปาณาติบาตทั่วไปหรือไม่ครับ Read More »

อะไรคือเครื่องวัดว่า อะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว

คำถาม: หลวงพ่อเจ้าคะ ในฐานะที่เป็นแม่ ก็พยายามสอนลูกให้ทำความดี แต่เด็กสมัยนี้ต้องการเหตุผลค่ะ ก็จะย้อนถามกลับมาว่า แล้วแม่มีอะไรเป็นเครื่องวัดว่า อะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว ซึ่งลูกก็ตอบไม่ค่อยถนัดนัก ก็ขอกราบเรียนถามหลวงพ่อนะคะ คำว่า กรรม มีความหมายว่าอย่างไร และคนเราทำกรรมได้กี่ทางคะ และจะมีอะไรเป็นเครื่องตัดสินคะ คำตอบ: เจริญพร…คำถามแรก คำว่า “กรรม” คืออะไร ความจริงคำว่า “กรรม” เป็นคำในภาษาพระพุทธศาสนา แต่ถ้าแบบชาวบ้าน กรรม คือ การกระทำของเรานี่เอง แต่ละคนก็มีการกระทำในชีวิตประจำวันด้วยกันทั้งนั้น ทุกอิริยาบถที่เราทำ ไม่ว่าทำด้วยการพูด ทำด้วยการคิด ทำด้วยมือของเราก็ตามที แต่ว่า ความหมายของกรรมที่ลึกไปกว่าการกระทำทั่วๆไป คือ อะไรก็ตาม ถ้าทำด้วยความตั้งใจ ถือว่าเป็นกรรม ถ้าไม่ตั้งใจ ไม่ถือว่าเป็นกรรม ถ้าถามว่า คนเรา ทำกรรมได้กี่ทาง…ชัดเจนเลย ไม่ว่าเด็ก ไม่ว่าผู้ใหญ่ ไม่ว่าหญิง ไม่ว่าชาย คนเราทำกรรมได้ 3ทางด้วยกัน คือ ประการที่1.กรรมทางกาย จะเอามือไปทำ จะเอาเท้าไปทำ หรือเอาทั้งตัวนี้ไปทำ …

อะไรคือเครื่องวัดว่า อะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว Read More »

กรณีที่ผู้พิพากษาสั่งลงโทษผู้ต้องหาถึงขั้นตัดสินประหารชีวิต กรณีนี้ผู้พิพากษาท่านไม่ได้ลงมือเอง ท่านจะผิดศีลข้อที่1 ด้วยหรือไม่ครับ

คำถาม: หลวงพ่อครับ…กรณีที่ผู้พิพากษาสั่งลงโทษผู้ต้องหาถึงขั้นตัดสินประหารชีวิต กรณีนี้ผู้พิพากษาท่านไม่ได้ลงมือเอง ท่านจะผิดศีลข้อที่1 ด้วยหรือไม่ครับ   คำตอบ: คุณโยม…ในเรื่องของการลงโทษคนตามกฎหมาย นี่เป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง และในเรื่องของกฎหมายนี้ ต้องทำความเข้าใจอีกนิดหนึ่งด้วย กฎหมายยังมีกฎหมายแม่ กฎหมายลูก กฎหมายลูกก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายแม่ ถ้าลูกว่าผิด แต่แม่ว่าไม่ผิดก็ เป็นว่าไม่ผิด ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายแม่ คุณโยม…แต่ว่ากฎหมายลูกกฎหมายแม่ มันเป็นเรื่องที่มนุษย์ตั้งกันขึ้นมา ส่วนว่าผิดศีลหรือไม่ผิดศีล นั่นมันกฎแห่งกรรม อย่ามาปนกันนะคุณโยม  ถ้าปนกันเมื่อไหร่ พลาดเมื่อนั้น   กฎหมาย มนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้นมาตามวาระ ตามเทศะ บางประเภทด้วยกรณีตัดสินเรื่องเดียวกัน อาจจะเหมือนกัน ไม่เหมือนกัน แต่ว่าในเรื่องของ กฎแห่งกรรม แล้ว…ไม่ว่าเรื่องการตัดสินหรือการฆ่านั้นๆ จะเกิดตรงไหนในโลกก็ตาม คุณโยม…มันผิดทั้งนั้น เพราะว่ากฎแห่งกรรมนั้น เป็นกฎของจักรวาล มันไม่ใช่กฎของบ้านเมืองใดบ้านเมืองหนึ่ง ดวงอาทิตย์ที่ประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศฝรั่ง เห็น มันดวงเดียวกัน ดวงอาทิตย์ที่คนต่างศาสนาเห็น มันดวงเดียวกัน เพราะฉะนั้นความรู้สึกนึกคิดหรือว่าความร้อนแรงมันก็ระดับเดียวกัน ไม่เปลี่ยน  ขณะนี้ เมื่อเราพูดถึงกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ดูเหมือนว่าผู้พิพากษาท่านไม่ผิด ท่านไม่ผิดโดยกฎหมาย เพราะกฎหมายอนุญาตท่าน แต่ถึงอย่างไรก็เข้าข่ายฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตามกฎแห่งกรรม กฎเกณฑ์ในเรื่องของฆ่าสัตว์ตัดชีวิตในศีลข้อที่1 ว่าอย่างไร 1.สัตว์นั้นมีชีวิต 2.รู้ด้วยว่ามีชีวิต 3.มีจิตคิดจะฆ่า 4.ลงมือฆ่า 5.ได้ตายสมใจนึก เมื่อไหร่ก็ตาม เมื่อได้มีการสั่งฆ่ากันขึ้นแล้ว และได้ฆ่าเสร็จสรรพแล้ว ใครมีส่วนไหนใน 5ขั้นตอนนี้ ก็รับเอาไป…ชัดเจนดีนะ แต่ว่า มันก็มีข้อคิดกัน บางอย่างผ่อนหนักเป็นเบาได้…ผ่อนหนักเป็นเบาทำอย่างไร…อย่างกรณีที่กล่าวมาแล้วว่า …

กรณีที่ผู้พิพากษาสั่งลงโทษผู้ต้องหาถึงขั้นตัดสินประหารชีวิต กรณีนี้ผู้พิพากษาท่านไม่ได้ลงมือเอง ท่านจะผิดศีลข้อที่1 ด้วยหรือไม่ครับ Read More »

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หมายความว่าอย่างไร

คำถาม: ขอกราบเรียนถามหลวงพ่ออีกข้อหนึ่งนะเจ้าคะ คำว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีความหมายว่าอย่างไรเจ้าคะ ขอความกรุณาหลวงพ่อช่วยขยายความให้ชัดเจนด้วยนะเจ้าคะ และคนในปัจจุบันนี้มักจะเข้าใจว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป อะไรทำให้เขามีความเข้าใจผิดๆ เช่นนั้นเจ้าคะ คำตอบ:  เจริญพร…ก็คงเป็น 2ประเด็นด้วยกัน ประเด็นแรก “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” หมายถึงอะไร ถ้าจะพูดให้เต็ม “ทำกรรมดีย่อมได้ผลดี” คือ เป็นความสุข เป็นความเจริญ “ทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว” คือ ได้ผลในเชิงลบ เป็นความเดือดร้อน เป็นความตกทุกข์ได้ยาก ทั้งทางกาย ทางใจ เจาะลึกเข้าไปอีกนิดหนึ่ง ดังที่กล่าวไปแล้วว่า คนเราทำกรรมได้ 3ทาง เพราะฉะนั้น ทำกรรมดี ไม่ว่า กรรมดีทางกาย ทางวาจา ทางใจ เมื่อทำกรรมดีแล้ว ผลแห่งกรรมดีนั้นต้องออกมาแน่นอน แต่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน คงต้องว่ากันเป็นเรื่องๆไป ยกตัวอย่าง ทำกรรมดีด้วยการขยันหมั่นเพียรในการเรียนหนังสือของเด็ก ผลแห่งกรรมดีมาแน่นอน คือ มีความเข้าใจในเรื่องที่เรียน มีความฉลาดเฉลียวเพิ่มขึ้น และทำให้เด็กคนนั้นมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น นี้เป็นผลของกรรมดี แต่ว่าในทำนองกลับกัน ทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว เป็นอย่างไร ถ้าขี้เกียจเรียนหนังสือ ขี้เกียจทำการบ้าน ขี้เกียจที่จะเข้าครัวไปช่วยแม่ทำกับข้าว เพราะฉะนั้นเรียนก็ไม่ดี ทำกับข้าวก็ไม่เป็น นอกจากทำกับข้าวไม่เป็นแล้ว ช่วยแม่ไม่ได้ …

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หมายความว่าอย่างไร Read More »