ดวงแก้วคุณยายชุดสุดท้าย

ดวงแก้วคุณยายชุดสุดท้าย
(เรียบเรียงจากโอวาทคุณครูไม่ใหญ่)

ดวงแก้วเป็น ๑ ในรัตนะ ๗ ที่เป็นของคู่บุญของพระเจ้าจักรพรรดิและผู้มีบุญเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่ได้ครอบครองดวงแก้วจึงเหมือนมีสมบัติจักรพรรดิติดตัวเลยทีเดียว

รัตนะทั้ง ๗ ของพระเจ้าจักรพรรดิประกอบด้วยจักรแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว และดวงแก้วมณี แก้ว ทั้ง ๗ อย่างนี้  จะช่วยทำให้พระเจ้าจักรพรรดิมีความสุข มีอานุภาพ และสามารถปกครองไปได้ถึงทวีปทั้ง ๔ อันได้แก่ อุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหทวีป ชมพูทวีป อปรโคยานทวีป

ดวงแก้วมณีของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นดวงแก้วที่มีอานุภาพมาก สัณฐานกลมรอบตัว มีรัศมีสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน ไปไหนมาไหนได้ ใช้ส่องดูภพภูมิต่าง ๆ ได้ ดูที่ลับที่แจ้งได้ บันดาลให้พืชพันธุ์ธัญญาหารและเครื่องบริโภคอุปโภคบังเกิดขึ้นได้ และสามารถเลี้ยงมนุษย์ทั้งโลก ได้ ฯลฯ

นอกจากพระเจ้าจักรพรรดิผู้ปกครองทวีปทั้ง ๔ แล้ว ผู้มีบุญทั่วไปก็นิยมมีดวงแก้วไว้ประจำตัวหรือประจำบ้านเช่นกัน อย่างเช่นในประเทศญี่ปุ่น เวลาทำพิธีสถาปนาพระเจ้าจักรพรรดิองค์ใหม่ จะต้องมีพิธีมอบดวงแก้วดวงโตขนาดส้มโอเสียก่อน มิฉะนั้นการสถาปนาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิก็จะไม่สมบูรณ์ ประเพณีนี้สืบทอดมานานนับพันปีแล้ว

แม้บริษัทใหญ่ ๆ ในประเทศญี่ปุ่นก็มีดวงแก้วดวงใหญ่เอาไว้เป็นเครื่องดึงดูดโภคทรัพย์สมบัติ หรือบันดาลความสำเร็จให้เกิดขึ้น แม้แต่ใครจะสร้างบ้านสร้างเรือนก็จะเอาดวงแก้วบรรจุไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีหลักฐานบันทึกไว้ว่า พระเจ้าจักรพรรดิจีนบางองค์ทรงมีดวงแก้วที่ทำจากควอตซ์ (Quartz) ที่เรียกว่าจุยเจีย ถึง ๑๕๐ ดวง ทั้ง ๆ ที่สมัยก่อนดวงแก้วเป็นของที่หายากมาก เพราะทรงเชื่อมั่นว่า ถ้ามีดวงแก้วแล้ว บ้านเมืองจะอยู่เย็นเป็นสุข พืชพันธุ์ธัญญาหารจะอุดมสมบูรณ์ เศรษฐกิจจะมั่งคั่ง มนุษย์จะร่าเริง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และจะมีศีลมีธรรม อันดีงาม รวมทั้งจะมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน

พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านก็มีดวงแก้วไว้สำหรับทำวิชชา ท่านรักและหวงแหนดวงแก้วมาก และเคยอุปมาไว้ว่า ดวงแก้วดวงหนึ่งที่ฝึกฝนซ้อนวิชชาธรรมกายได้แล้ว ในนั้น มีจักรพรรดิมีกายสิทธิ์ ที่มีคุณค่ามากกว่าประเทศทั้งประเทศทีเดียว

หลวงปู่ท่านเห็นอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของแก้วจักรพรรดิ ท่านทำวิชชาเข้าไปค้นพบเรื่องราวของพระเจ้าจักรพรรดิที่ปกครองทวีปทั้ง ๔ ซึ่งตรงกับที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ท่านพบว่า มนุษย์ในยุคนั้นดำรงชีวิตอยู่ได้เพราะดวงแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิบันดาลของกินของใช้ให้ มนุษย์ไม่ต้องทำมาหากิน ในแต่ละวันได้แต่บำเพ็ญศีล ทำภาวนา ทำใจหยุดใจนิ่ง ไม่มีการเบียดเบียนกันเลย หลวงปู่ท่านทำวิชชาค้นต่อไปก็พบว่า ดวงแก้วที่เป็นของพระเจ้าจักรพรรดิยังคงอยู่ในดิน ไม่ได้สูญหายไปไหน เพราะของพวกนี้พอหมดความจำเป็นที่จะใช้ หรือหมดบุญที่จะใช้ ก็จะอยู่คอยผู้มีบุญต่อไป

ขุดแก้วบรมจักร

ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ท่านเห็นด้วยญาณทัสสนะว่ามีดวงแก้ววิเศษ บรมจักรเหมือนดวงแก้วมณีโชติรสของพระเจ้าจักรพรรดิอยู่ใต้แผ่นดิน วัดปากน้ำ ดวงกลมขนาดเท่าลูกทุเรียน ถูกหินหุ้มอยู่ ท่านเห็นว่า ถ้าเอาแก้วดวงนี้ขึ้นมาได้ มนุษย์ทั้งโลกจะอยู่ได้โดยไม่ต้องทำมาหากินด้วยอานุภาพแห่งแก้วบรมจักรนี้ ในแต่ละวันจะมีชีวิตอยู่เพื่อทำความดีเท่านั้น ท่านคิดว่าถ้าเอาดวงแก้วขึ้นมาได้ก็จะวิเศษมาก ท่านจึงประกอบวิชชาธรรมกาย เพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงแก้วนี้ขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ยังไปไม่ถึงวัดปากน้ำ

ผู้ที่เล่าเรื่องราวให้ครูไม่ใหญ่ฟัง คือ อดีตเจ้าอาวาสวัดลำพญา ครูไม่ใหญ่พบท่านตอนที่ท่านอายุ ๗๐ กว่าปี ขณะนี้ท่านมรณภาพไปแล้ว ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านมีโอกาสเห็นเหตุการณ์ที่หลวงปู่ทำพิธีขุดดวงแก้ว ตอนแรกหลวงปู่ให้เอากลดพระธุดงค์ไปวางเหนือแผ่นดินที่จะขุด ตกกลางคืนมีรัศมีของดวงแก้วฉายแสงพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินส่องมาที่กลดด้วย

พิธีขุดดวงแก้วนั้น ทำกันทั้งทางหยาบและละเอียด โดยหลวงปู่สั่งให้ผู้ที่ได้วิชชาธรรมกายซึ่งขณะนั้นมีอยู่ไม่กี่ท่านลงมือขุด ในทางหยาบก็ขุดลงไป ในทางละเอียดก็ดึงขึ้นมา ข้างบนขุดลงไปประมาณ ๑ เมตร ข้างล่างก็ทำวิชชาดึงขึ้นมาจากบริเวณที่อยู่ลึกมาก ๆ ลึกเป็นโยชน์ พอขึ้นมาจะถึงปากหลุมเท่านั้น ก็มีเสียงดังครืดเหมือนอะไรแล่นอยู่ใต้ดิน หลวงพ่อวัดลำพญา ตอนนั้นอายุแค่ ๑๒ ปี ผวาเข้ากอดหลวงปู่แล้วสลบไปเพราะความตกใจ ท่านไม่คิดว่าจะมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ใต้ดิน มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนอยู่บนกุฏิหลวงปู่ และได้ยินหลวงปู่พูดว่า “เขาบอกว่าจะให้ แต่พอเอาจริง ๆ ก็ยังไม่ให้”

ในที่สุดครั้งที่ ๓ เมื่อมีผู้ได้ธรรมกายมากขึ้นก็ขุดขึ้นมาได้ เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องแย่งกันระหว่างพระกับมาร พญามารเขาก็รู้อยู่ว่า ถ้าเอาดวงแก้วดวงนี้ขึ้นมาได้ มนุษย์จะอยู่เย็นเป็นสุขไม่ต้องทำมาหากิน จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยอานุภาพแห่งดวงแก้วนี้ และจะไม่มีเครื่องกังวลใจ ไม่มีพันธนาการของชีวิต เมื่อไม่มีพันธนาการของชีวิต ก็จะคิดมุ่งแสวงหาธรรมะภายใน และจะปฏิบัติธรรมกันไปทั่วโลก เมื่อเข้าถึงพระธรรมกายก็จะเกิดธรรมจักขุ เกิดญาณทัสสนะ และจะรู้แจ้งเห็นจริงเกี่ยวกับชีวิตของตนว่ามาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายปลายทาง แล้วจะเดินตรงไปสู่จุดหมายปลายทางพร้อม ๆ กัน เขาก็จะบังคับบัญชามนุษย์ไม่ได้ จึงกีดกันเต็มที่

ผู้ที่เอาดวงแก้วขึ้นมาได้เป็นอุบาสิกาที่ได้ธรรมกาย เอาผ้าขาวห่อขึ้นมา แล้วเอาไปไว้ในโบสถ์เก่าวัดปากน้ำ บูชาด้วยดอกมะลิได้ ๖ วัน  วันที่ ๗ เกิดพยับฝนขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พอฟ้าลั่นเปรี๊ยะ ดวงแก้วก็หายไปกับสายฟ้าเหลือแต่ผ้าที่ห่อ

หลวงปู่ท่านก็เลยมาพิจารณาดูว่า “บารมีเรายังอ่อนอยู่ ยังไม่ชนะเขา (มาร) จะต้องลำบากต่อไป” เพราะถ้าดวงแก้วดวงนี้อยู่ก็จะเลี้ยงมนุษย์ได้ทั้งหมด เหมือนแก้วมณีของพระเจ้าจักรพรรดิ เพราะกลางดวงแก้วดวงนี้มีบรมจักรที่มีอานุภาพมาก นี้เป็นเพราะกระแสบาปของมวลมนุษยชาติยังมากอยู่ กิเลสยังหนา ปัญญายังหยาบ แก้วดวงนี้จึงได้อันตรธานไป จะต้องขยายวิชชาธรรมกายไปให้ได้ทั่วโลก ให้เกิดกระแสอันบริสุทธิ์ขึ้น แก้วจักรพรรดิดวงนี้ถึงจะขึ้นมาดูแลมวลมนุษยชาติไม่ให้ลำบากในการทำมาหากิน

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ที่มา
หนังสือ ดวงแก้วคุณยาย
www.dhamma01.com/book/81

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *