มัชฌิมาปฏิปทา

มัชฌิมาปฏิปทา เริ่มต้นที่ “ปฐมมรรค”
ถ้าพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ไม่ค้นกลับคืนมาให้
เราก็ไม่มีวันได้รู้จัก

ถูกส่วนเข้า ดวงธรรมก็ลอยขึ้นมาเลย คือ ดวงธรรมเป็นกายมนุษย์หยาบนี่แหละ ซึ่งปกติอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๖ ในระดับเดียวกับสะดือของเรา ใสบริสุทธิ์ โตเท่ากับฟองไข่แดงของไก่ มันจะลอยขึ้นมา
ดวงธรรมที่กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว ไม่ใช่กลมแบนเหมือนเหรียญ ๕ บาท ๑๐ บาท เป็นต้น ใสเกินใส สว่างเจิดจ้า ไม่ว่าเราจะกำหนดองค์พระกลางดวงแก้ว หรือไม่นึกถึงภาพใด ๆ ก็ตาม พอมันนิ่งแล้ว มันจะวูบอย่างนี้แหละ แล้วก็จะทิ้งภาพที่เราสมมติ จำเอามาเป็นที่ยึดที่เกาะของใจทิ้งไป แต่ธรรมดวงใหม่ที่ผุดขึ้นมา เป็นธรรมดวงที่เราเข้าถึง เมื่อมันตกศูนย์ลงไปวูบ ดวงธรรมนั้นลอยขึ้นมา เหมือนถูกดึงขึ้นมา ปรากฏอยู่ที่ ฐานที่ ๗
ตอนนี้แหละ เราจะเห็นฐานที่ ๗ ได้ชัดเจนว่า มันอยู่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือจริง ๆ เป๊ะเลย ดวงใส นิ่ง ใจจะนิ่งอยู่ในกลางดวงนั้น
ธรรมดวงนี้ พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร ท่านเรียกว่า “ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน” หรือ “ดวงปฐมมรรค” แปลว่า หนทางเบื้องต้นของพระนิพพาน คือ ดวงนี้ หนทางเบื้องต้นเกิดขึ้นแล้ว เป็นดวงใส ๆ
เกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง เข้าถึงปฐมมรรค นี่ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว ชีวิตจะแตกต่างจากชาวโลกทั้งหลาย เป็นชีวิตที่สมหวัง ประเสริฐกว่าการมีสมบัติมากมาย มีลาภ มียศ มีตำแหน่ง อำนาจ วาสนา พวกพ้องบริวารเยอะแยะ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่เคยให้ความสุขเลย ให้แต่ปัญหา ให้ความพึงพอใจชั่วคราว เดี๋ยวก็เปลี่ยนอีกแล้ว ไม่แน่ไม่นอน เดี๋ยวก็พึงพอใจ เดี๋ยวก็ไม่พึงพอใจสลับกันไป แต่ธรรมดวงนี้พอเข้าถึงแล้วปลื้มปีติ ภาคภูมิใจ มีความสุข ใจตั้งมั่น นิ่ง แล้วก็จะซาบซึ้งคำว่า
นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ
สุขอื่นนอกจากใจหยุดใจนิ่งไม่มี
คือ สุขอื่น มันไม่มีจริง ๆ ไม่ว่าในเพชร ในพลอย ในสร้อย ในเสื้อผ้าแพรพรรณ ในวัยอันเจริญ ในความสนุกสนานเพลิดเพลิน ในการมีทรัพย์ มีบ้านช่อง มีรถ มีครอบครัวที่อบอุ่น มีลาภยศตำแหน่ง มีคนยกย่องสรรเสริญ อยากได้อะไรก็ได้ดังใจ มีพวกพ้องบริวาร พอเข้าถึงตรงนี้จะเทียบกันได้เลยว่า เออจริง ๆ นะ สิ่งที่เคยเจอมันสุขปนทุกข์ น้ำขุ่นปนน้ำใส มันปน ๆ กัน เหมือนทานข้าวเจอแกลบบ้าง เจอกรวดบ้าง เคี้ยวกำลังเพลิน ๆ อ้าว เจอกรวดเข้าอย่างนี้ แต่พอเข้าถึงดวงใส ใจหยุดนิ่ง ใจสบาย มีความสุขจังเลย
กว่าจะเข้าใจว่า นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ ก็เมื่อหยุดจริง ๆ แล้วถึงจะเข้าใจ คือจะแจ่มแจ้งขึ้นมาในใจ และจะรักพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากเลย ในตอนนี้จะซาบซึ้ง รักยังไม่พอ อยากจะเรียนรู้ว่า พระองค์ได้รู้อะไรมาบ้าง อยากจะรู้จังเลย อยากศึกษา ซึ่งจะเป็นไปเอง
ในที่สุด ใจก็จะหยุดนิ่ง ๆ ในกลางปฐมมรรค การเดินทางไปสู่อายตนนิพพาน เช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ กำลังจะเริ่มต้นแล้ว จากดวงปฐมมรรคนี่แหละ และมีจุดกึ่งกลางดวง จุดศูนย์กลางดวงสว่างที่เจิดจ้ากว่าดวง เป็นที่หมาย ใจจะติดอยู่ตรงนั้น เหมือนเอากาวชั้นดีตรึงใจติดไว้กับกลางดวง
พอนิ่งถูกส่วน ดวงขยาย หนทางนั้นเปิดเผยมาแล้ว เผยให้เห็นทางสายกลาง “มัชฌิมาปฏิปทา” ทางสายกลางแห่งความบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ ทางแห่งพระอริยเจ้า ที่เรียกว่า “อริยมรรค” เห็นเป็นช่องทางไปเลย และการเคลื่อนเข้าไปสู่ภายใน หรือการเดินทางไปสู่อายตนนิพพานก็เริ่มขึ้น โดยใจจะเข้าไปในกลางดวงนั้น เห็นดวงในดวงเข้าไป เห็นกายในกาย กายมนุษย์กายละเอียด กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม กระทั่งเข้าถึงกายธรรม แล้วก็จะข้ามพ้นวัฏสงสาร หลุดได้ด้วยพระรัตนตรัยในตัวนั่นแหละ

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

https://dhamma01.blogspot.com/2019/07/blog-post_1.html

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *