ดุสิตบุรี

ดุสิตบุรี (ที่รวมประชุมของพระบรมโพธิสัตว์)

สันติภาพอันไพบูลย์ จะเกิดขึ้นได้ถ้ามวลมนุษยชาติมีใจประกอบด้วยเมตตา มีความรักและปรารถนาดีต่อกันอย่างแท้จริง หากทุกๆ คนมีจิตใจที่สูงส่งดีงาม เพราะมีธรรมะภายใน จิตใจก็จะเบ่งบานขยายกว้างใหญ่ไพศาล จะมีความรู้สึกเหมือนกับว่า คนทั้งโลกที่เกิดมาคือสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ที่มาอยู่ในบ้านหลังใหญ่หลังเดียวกัน และทุกๆ คนก็มีความเป็นญาติพี่น้องกัน หากชาวโลกมีความรู้สึกดีๆ เช่นนี้ ก็จะเกิดความอบอุ่นใจ ปลอดภัย ทำให้สังคมน่าอยู่น่าอาศัย จะมีแต่ความสงบสุข ไม่หวาดระแวงกัน ไม่มีการแก่งแย่งชิงดีรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งการที่จะให้โลกเกิดสันติสุขที่แท้จริงได้นั้น ทุกๆ คนจะต้องร่วมมือกัน โดยหันมาเจริญสมาธิภาวนา ทำใจให้หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เมื่อใจหยุดนิ่งแล้วความสุขที่แท้จริงจึงจะบังเกิดขึ้น และเมื่อนั้นสันติภาพอันไพบูลย์ก็จะพลันเป็นจริงขึ้นมาได้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทานสูตร ว่า
“ดูก่อนสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลให้ทานโดยไม่มีหวังผล ไม่มีจิตผูกพันในผลแห่งทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยความคิดว่า บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยายของเราเคยให้มาก่อน เราก็ไม่ควรทำให้ประเพณีอันดีนี้ขาดหายไป แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้ แต่สมณะพราหมณ์ไม่ได้หุงหา เราแสวงหาทรัพย์ได้ จะไม่ให้ทานแก่สมณะพราหมณ์ผู้ไม่แสวงหาทรัพย์เลี้ยงชีพ ย่อมไม่สมควร บุคคลนั้นให้ทานด้วยอาการอย่างนี้ เมื่อทำกาลกิริยา ละจากโลกนี้ไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาในสวรรค์ชั้นดุสิต”

* สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ชั้นที่ ๔ ที่ได้ชื่อว่าดุสิตาเทวภูมิ เพราะเป็นที่อยู่ของทวยเทพผู้มีความยินดีในธรรม และมีความแช่มชื่นเบิกบานอยู่เป็นนิตย์ มีท้าวสันดุสิตเป็นอธิบดีผู้ปกครอง โดยสวรรค์ชั้นนี้จะอยู่สูงขึ้นไปจากยอดเขาพระสุเมรุ อยู่ในอากาศเหนือสวรรค์ชั้นยามาซึ่งเป็นชั้นที่ ๓ ขึ้นไปอีก ทิพยวิมานในสวรรค์ชั้นนี้มีความอลังการสวยงามมาก เพราะทวยเทพผู้มีบุญมากส่วนใหญ่มักจะเลือกมาอยู่ชั้นนี้ และอายุทิพย์ในสวรรค์ชั้นนี้ก็ไม่นานเกินไป และไม่สั้นเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุขและลงมาสร้างบารมีต่อในโลกมนุษย์

ทิพยวิมานที่มีอยู่ในสวรรค์ชั้นนี้มีอยู่ ๓ แบบด้วยกัน คือ เป็นวิมานแก้ว วิมานทอง และวิมานเงิน โดยจะตั้งเรียงรายล้อมรอบผู้ปกครองภพอย่างเป็นระเบียบสวยงาม คล้ายกับเป็นวงของคลื่นที่ขยายออกไป วิมานที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางที่ท้าวสันดุสิตประทับอยู่จะมีความสว่างมาก แล้วรัศมีของความสว่างก็จะค่อยๆ ลดหลั่นกันลงไปตามกำลังบุญ แต่ละวิมานจะมีความวิจิตรตระการตา เพราะผลบุญที่เทพบุตรเทพธิดาในชั้นนี้ทำมามีมากมายหลายบุญ ชนิดที่ไม่ซ้ำกันเลย ซึ่งแต่ละวิมานก็จะมีสวนมีสระมีอาคารต่างๆ ที่โอฬารสวยงาม ล้วนแล้วแต่สำเร็จด้วยทองคำและรัตนชาตินานาชนิด เปล่งแสงรัศมีระยิบระยับ ที่ตรงซุ้มประตูทางเข้าแต่ละวิมานก็สวยงามมาก

เทพบุตรเทพธิดาผู้สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ แต่ละท่านล้วนมีความงดงามองอาจสง่างาม ทั้งมีจิตใจสูงส่งดีงาม เพราะโดยมากเป็นพุทธศาสนิกชน จึงเข้าใจเรื่องบุญกุศลเป็นอย่างดี รู้เรื่องธรรมะดีมาก จึงมีจิตยินดีในการสมาคมกับบัณฑิตนักปราชญ์ ยินดีในการประพฤติธรรม และยินดีในการสดับตรับฟังพระธรรม เพราะมีนักสร้างบารมีบรมโพธิสัตว์ผู้เป็นหน่อเนื้อพุทธางกูรอยู่ชั้นนี้มาก ทั้งรู้แจ้งในธรรมและจะมีการแสดงธรรมกันไม่ได้ขาด แม้ทวยเทพชั้นนี้จะได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์ที่ละเอียดประณีตกว่าสวรรค์ชั้นต้นๆ แต่ก็ไม่ประมาทเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ ในทุกวันธรรมสวนะเหล่าทวยเทพจะมีเทวสันนิบาตประชุมกันเพื่อฟังธรรม ทั้งนี้ก็เพราะว่าท้าวสันดุสิตเทวาธิราชเป็นผู้ทรงธรรม ทั้งยังเป็นพหูสูตผู้ฝักใฝ่ในธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงมีอัธยาศัยยินดีในการฟังธรรมและแสดงธรรม

ความโดดเด่นที่เป็นพิเศษของชาวสวรรค์ชั้นนี้ จะแตกต่างจากชั้นอื่นก็คือ จะเป็นที่รวมประชุมของพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่กำลังเริ่มตั้งมโนปณิธานปรารถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ยังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์ ยังเป็นอนิยตโพธิสัตว์อยู่ และทั้งที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว เพื่อเป็นนิยตโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล แต่ละองค์ล้วนมีบุญญาธิการมาก เพราะสั่งสมบุญบารมีมายาวนานหลายอสงไขยชาติ

ท่านเหล่านี้จะมีใจยินดียิ่งในการบำเพ็ญภาวนา ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างจากสวรรค์ชั้นอื่นๆ ที่ส่วนมากยังเพลิดเพลินกับการเสวยเบญจกามคุณ จะมีก็ไม่มากที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม ซึ่งจะต้องใช้กำลังใจมาก แต่พระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายจะไม่ประมาท จะสอนตัวเองได้ จึงตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม รอคอยโอกาสอันเหมาะสมเพื่อลงมาสร้างบารมีในโลกมนุษย์อีก

ท้าวสันดุสิตเทวาธิราช ท่านมักจะอัญเชิญเทพบุตรผู้มีศักดิ์ใหญ่ ผู้มีภูมิรู้ภูมิธรรมสูง มีปัญญากว้างขวางให้เป็นองค์แสดงธรรม อย่างเช่นในปัจจุบันนี้ พระศรีอริยเมตไตรย ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือปรากฏเป็นที่รู้กันอยู่ในหมู่ชาวสวรรค์ชั้นดุสิต และในหมู่พุทธบริษัททั้ง ๔ ว่า จักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล รออีกเพียงสองชาติเท่านั้น ท่านก็จะมาตรัสรู้ในภัทรกัปนี้ ซึ่งท่านมักจะได้รับอาราธนาให้เป็นองค์ประธานในการแสดงธรรมอยู่เสมอๆ สวรรค์ชั้นนี้ถือว่าเป็นทิพยพิมานสถานที่สำคัญมากที่สุดในบรรดาสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เพราะเป็นที่สถิตของว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยบุคคลตั้งแต่โคตรภูบุคคล พระโสดาบัน และพระสกิทาคามี

เทพบุตรพุทธมารดา ท่านก็เป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน ซึ่งพวกเราคงรู้จักกันดี ในครั้งที่ท่านได้ทำหน้าที่เป็นพุทธมารดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น ทรงมีพระนามว่า พระนางสิริมหามายาเทวี เราลองมาศึกษาเรื่องราวของพระนางดูว่า พระนางได้เป็นพระอริยบุคคลในตอนไหน และด้วยบุญอะไรที่ทำให้พระนางได้มาเป็นสิริมหามายาเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดุสิตแห่งนี้

แต่เดิม พระนางเคยตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพุทธมารดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาแล้วในพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ และในชาติที่แล้วนี้ พระนางก็ได้มาบังเกิดเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ ทรงให้การประสูติเจ้าชายสิทธัตถะผู้จะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องจากเป็นธรรมเนียมของพระพุทธมารดาทั้งหลายว่า เมื่อให้กำเนิดพระบรมโพธิสัตว์แล้ว จะดำรงอยู่ในโลกได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้น เพื่อรักษาพระครรภ์ให้บริสุทธิ์ คือจะไม่ให้กำเนิดใครอีก ครั้นดับขันธ์จากมนุษย์ก็มาบังเกิดในเทวโลก มาเป็นเทพบุตรอยู่ที่ชั้นดุสิต ด้วยบุญที่ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดพระบรมโพธิสัตว์ จึงได้อธิปไตยความเป็นใหญ่บนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้

ในคราวที่เทพบุตรพุทธมารดาเพิ่งขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล แต่หลังจากที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำยมกปาฏิหาริย์ทรมานเดียรถีย์นิครนถ์แล้ว ทรงเสด็จไปสู่ดาวดึงส์เทวโลกเพื่อโปรดพุทธมารดา ได้ประทับเหนือแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของพระอินทร์ พระอินทร์ทรงทราบว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา จึงถวายนมัสการพระพุทธองค์ แล้วมีเทวบัญชาให้ป่าวประกาศข่าวอันเป็นสิริมงคลนี้แก่ทวยเทพทั้งหลาย เสียงทิพย์ของชาวสวรรค์ก็ลือลั่นกันไปทั่ว ส่งต่อๆ กันไปตามสวรรค์ชั้นต่างๆ จนลือไปถึงสวรรค์ชั้นดุสิต และกล่าวขานกันต่อๆ ไป จนถึงพรหมโลก จรดอรูปภพที่อยู่ของอรูปพรหม

เทพบุตรพุทธมารดาทราบข่าวนี้ รู้สึกปีติโสมนัสยิ่งนัก รีบพาเทพบริวารลงมาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อมาถวายนมัสการและสดับพระธรรมเทศนา  พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมโปรดด้วยพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ในที่สุดพระพุทธมารดาก็ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน

เราจะเห็นว่า สวรรค์ชั้นดุสิตนี้เป็นชั้นของผู้มีบุญบารมีมาก เป็นชั้นที่น่าอยู่มากทีเดียว เพราะพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายก็อยู่รวมกันที่นี่ การได้อยู่ใกล้กับบัณฑิต การได้สมาคมกับสัตบุรุษถือเป็นมงคล ถ้าเรามีความปรารถนาที่จะไปอยู่ร่วมกันในชั้นดุสิต ซึ่งเป็นที่พักระหว่างทางของนักสร้างบารมีบรมโพธิสัตว์ ก็ต้องทุ่มเทสร้างบารมีกันให้เต็มที่ ข้อสำคัญคือจะต้องปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ จึงจะมั่นใจได้ว่า จะได้ไปสู่ดุสิตบุรีกันอย่างแน่นอน

*   ภูมิวิลาสินี / โลกทีปนี (พระพรหมโมลี)

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/13729
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับปรโลก

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

1 thought on “ดุสิตบุรี”

  1. ✨น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🏵️🌼🌺🌸💮🌟🌷🌟💮🌸🌺🌼🏵️

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *