ผู้หญิงทำความสะอาดพระพุทธรูป เป็นบาปหรือไม่

คำถาม:
ดิฉันถูกใช้ให้ทำความสะอาดพระพุทธรูป ขนาดพระประธานในโบสถ์ แต่อยู่ในโรงพยาบาลซึ่งมีผู้สร้างไว้ให้ กรณีผู้ที่ทำความสะอาดเป็นผู้หญิง ต้องขัดถูพระพุทธรูปให้ขึ้นเงางามเป็นประจำทุกปี ในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ผู้ทำความสะอาดต้องใช้ส้มมะขาม และ Brasso ขัดพระประธานองค์นั้น ถามว่าจะมีผลอย่างไรต่อผู้กระทำ จะเป็นบาปหรือเปล่าคะ?

คำตอบ:
จะเป็นบาปได้อย่างไร คุณตั้งใจให้พระเป็นเงางาม มีแต่ว่าถ้าคุณทำเป็นประจำและคุณก็ตั้งใจทำจริง อย่าว่าแต่ชาติหน้าเลย แม้ชาตินี้ผิวพรรณของคุณจะมีแต่ผ่องใสขึ้น เพราะว่าในใจของคุณมีแต่คิดจะให้พระพุทธรูปนั้นงดงามให้สะอาดให้ผ่องใส ไม่มีฝุ่นละอองหรือจุดด่างดำเข้ามาเจือปน ใจคุณสว่าง ผ่องใสนำไปก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นหน้าตาผิวพรรณของคุณมันฝืนอยู่ไม่ได้หรอก ต่อให้เป็นคนผิวดำ อีกไม่นานถึงดำก็ดำผ่องน่ามอง ยิ่งภพชาติต่อไปจะเกิดมาสวย ผิวอย่างกับทองคำ
        เกี่ยวกับเรื่อง อานิสงส์ของผู้ทำความสะอาด สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนานี้ มีอยู่วันหนึ่งคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง คุณยายอาจารย์ของพวกเรา ท่านนั่งสมาธิดูบุญของพวกขัดห้องน้ำวัด คือห้องน้ำของวัดพระธรรมกายเราที่เห็นสะอาดๆ นี่ เราไม่ได้เอาคนงานที่ไหนมาขัดหรอกนะ เราได้อาสาสมัครจากพวกที่มาวัดนี่แหละ
        พวกอาสาสมัครเหล่านี้พอฟังเทศน์ไปถึงตอนท้ายๆ สังเกตว่าเทศน์จะจบแล้ว คือฟังว่าเป็นบทสรุป หรือเริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็น เขาจะลุกออกไปก่อน ไปอาสาสมัครช่วยขัดห้องน้ำกัน ทุกห้องทางวัดจัดอุปกรณ์การขัดไว้ให้พร้อมอยู่แล้ว เขาจองคนละห้องๆ แล้วลงมือขัดล้างอย่างเต็มอกเต็มใจ 5-10 นาที ก็เสร็จ สะอาดเกลี้ยงเกลาทีเดียว
        วันหนึ่งเด็กๆ ก็ไปถามคุณยายว่า เขาจะได้อานิสงส์อย่างไร จะได้บุญอะไรจากการขัดห้องน้ำของวัด ของพระ คุณยายก็นั่งสมาธิเข้าที่ไปตรวจก็พบว่า ด้วยความที่เขามีจิตปรารถนาดี อยากจะให้ห้องน้ำสะอาด ใครเข้ามาใช้ก็ใช้ด้วยความสะดวกสบาย ในความคิดของเขามีแต่ว่าจะทำให้สะอาดๆ ความคิดอันนี้มันติดเข้าไปในใจของเขา แล้วผลบุญก็เกิดในใจของเขานั่นแหละ คิดถึงความสะอาด คิดถึงความผ่องใสมากเข้าๆ
        คนพวกนี้ขณะมีชีวิตอยู่ จิตใจของเขานับแต่นี้ไป สะอาด ผ่องใส จะไม่หมกมุ่นในเรื่องถือเนื้อถือตัว เพราะขนาดส้วมสาธารณะอย่างนี้ เขายังน้อมเข้าไปขัดล้างให้ ขึ้นชื่อว่าส้วม ใครก็มาถ่ายหนัก ถ่ายเบาด้วยกันทั้งนั้น แต่เขาไม่รังเกียจตัดมานะความถือตัวออกได้ ยอมไปขัดส้วม
        พอความมานะความถือตัวมันหลุดออกไปจากใจ ใจมันก็สว่างโพลง ในสว่างโพลงอย่างนี้เวลาใช้ตรึกธรรมะ จะสามารถเห็นแจ้งแทงทะลุได้มากกว่าคนอื่น และเข้าถึงธรรมะได้เร็วอีกด้วย
        ยิ่งกว่านั้น ภพต่อไปเมื่อละจากโลกมนุษย์ ไม่ว่าเขาจะเป็นเทวดาหรือนางฟ้าก็ตาม รัศมีกายของเขาจะสว่างกว่าเทวดานางฟ้าองค์อื่นๆ พอเกิดมาเป็นมนุษย์อีกที ผิวพรรณจะผ่องใสนุ่มนวล ไปถึงไหน ก็พบแต่สถานที่ที่สะอาดสะอ้าน เพราะว่าเขาได้เพาะเชื้อความสะอาดไว้ตั้งแต่ชาตินี้ ในทางตรงกันข้าม ใครก็ตามถ้าเข้าห้องน้ำแล้วทำให้สกปรกขี้เกียจราดน้ำล้าง พวกนี้เกิดกี่ชาติๆ นอกจากเนื้อตัวผิวพรรณจะกระทำกระด่างแล้ว ยังมีกลิ่นตัวเหม็นสาบฉุนๆ อย่างกับกลิ่นห้องน้ำติดตัวไประวังไว้ก็แล้วกัน

        ในสมัยพุทธกาล มีกษัตริย์อยู่พระองค์หนึ่ง เป็นกษัตริย์ที่ผิดจากกษัตริย์ทั่วไป คือมีพระปรีชาสามารถฉลาดเฉลียวดี อะไรๆ ก็ดีทุกอย่าง แต่ว่ารูปร่างอัปลักษณ์ ผิวพรรณหยาบกร้าน หน้าดำอย่างกับถ่านไปแถบหนึ่ง คือเป็นปานดำครึ่งหน้า ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่พระภิกษุว่า พระองค์มีเวรมีกรรมอะไรกัน มีบุญได้เป็นถึงกษัตริย์ แต่ว่าหน้าดำเป็นเปาบุ้นจิ้น ก็มีการระลึกชาติตามไปดู
        ในที่สุดก็พบว่าภพในอดีตเป็นคนมีความปรารถนาดี ชอบทำบุญทำทาน ช่วยกิจการงานวัด ช่วยกิจการสงฆ์ โดยเฉพาะชอบช่วยงานโรงครัวของวัดมาก เข้าไปช่วยเขาหุงข้าวปลาเลี้ยงพระ แต่ว่าไม่รักษาความสะอาดให้ดี ปล่อยให้ควันรมพระพุทธรูป รมศาลา รมอะไรต่ออะไรในวัด เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด แต่ก็มีความปรารถนาดีมีใจเป็นบุญเป็นกุศล
        เพราะฉะนั้น บุญที่ทำเอาไว้จึงส่งผลให้มาเป็นกษัตริย์ แต่ความสะเพร่าที่ทำเอาไว้ก็ส่งผลมาในเวลาเดียวกัน หน้าเลยดำไปแถบหนึ่ง นี่ก็คือคำตอบว่าทำไมบางคนหน้าเป็นปานดำ หว่านพืชเช่นไรได้ผลเช่นนั้น ถ้าเป็นไฝเม็ดเล็กหน่อยก็ชุ่ยน้อยหน่อย ชนิดที่ว่าบางวันอารมณ์ดีก็ทำเสียดีทีเดียว วันไหนขี้เกียจก็ทำแบบชุ่ยส่งไปเลย จึงได้มาเป็นเม็ดเป็นไฝเปรอะหน้า เรื่องนี้ก็มีที่มาอย่างนี้แหละ ขอให้ระมัดระวังกันให้ดีนะ

โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *